สำหรับคนที่ ‘แคร์’ กับความทุกข์ทรมานของผู้ต้องหาอาญามาตรา ๑๑๒ ควรทราบว่า “ความเจ็บปวดของกฎหมายข้อนี้มันมีอยู่จริง จับต้องได้จริง แล้วยังต้องมีอีกกี่คนที่ต้องเจ็บปวดแบบนี้” จากคำของ ‘วารุณี’ ผู้ต้องขังระหว่างรออุทธรณ์
วานนี้ (๒ กันยา) “วารุณียกระดับการประท้วงอีกครั้งด้วยการปฏิเสธอาหารและน้ำ (Dry Fasting) รวมถึงเกลือแร่ และยาประจำตัวด้วย” ศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชนรายงาน การยกระดับประท้วงของนักโทษหญิง ผู้ซึ่งต้องใช้ยาเป็นประจำเพื่อระงับอาการอารมณ์สองขั้ว
วารุณีโดนข้อหา ม.๑๑๒ จากการที่แชร์ภาพราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวพระแก้วมรกตโดยรัชกาลที่ ๑๐ ภาพถูกตกแต่งให้เครื่องทรงเป็นชุดราตรียี่ห้อ ‘สิริวัณณวรี’ แม้จำเลยจะต่อสู้คดีว่ามิได้ตกแต่งภาพด้วยตนเอง และไม่ทราบว่าใครทำ แชร์ไปเพราะเห็นแปลกดี
ศาลตัดสินว่าเป็นความผิดตามฟ้อง ให้รับโทษจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน วารุณียื่นอุทธรณ์แล้วศาลไม่ยอมให้ประกันตัวชั่วคราวออกมาต่อสู้คดี วารุณีถูกคุมขังมากว่าสองเดือน ถูกปฏิเสธการประกันตัวแล้ว ๕ ครั้ง จนกระทั่งเธอตัดสินใจอดอาหารประท้วง มาตั้งแต่ ๒๑ สิงหา
เธอแจ้งต่อทนายความที่ไปเยี่ยมว่า “เครียดมาก” ขอยานอนหลับเพิ่มก็ไม่ได้ เขาให้แค่วันละเม็ด ทางออกมีสองอย่าง “รออุทธรณ์มันก็ใช้เวลา เผลอๆ ติดปีครึ่งเท่าโทษจริงเลย” ไม่เช่นนั้นก็ “เซ็นใบยอมเป็นนักโทษเด็ดขาด” แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้บ้าง
“กว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็นนักโทษชั้นดี ชั้นเยี่ยม เพื่อที่จะได้เข้าหลักเกณฑ์พักโทษหรือลดโทษมันก็ใช้เวลา ‘เกือบปี’ ปีหนึ่งมีการเลื่อนขั้นอยู่แค่ ๓ ครั้งเอง” สิ่งที่ทำได้สำหรับเธอจึงเหลือแต่การอดอาหารประท้วงนี่แหละ เพราะเหตุผลไม่ให้ประกัน มันก็
“เดิมๆ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปเลย...หนูไม่ไหวแล้ว ศาลเอากฎหมายข้อนี้มากลั่นแกล้งคนธรรมดา” เธอเล่าให้ทนายฟังว่าคิดจะฆ่าตัวตายด้วยการโดดตึก ๒ ชั้นลงมา “แต่ถ้าไม่ตายก็โคม่า พิการ อาจจะเป็นภาระครอบครัวอีก หนูก็เลยไม่ทำ”
การอดอาหารไม่ได้มุ่งหวังให้มีอิมแพ็คอะไรกับคนข้างนอกมากมาย เพียงแต่ “หนูอยากให้คนในสังคมรู้ว่า วารุณีคือตัวอย่างของคนธรรมดาที่ทุกข์ทรมานด้วยมาตรา ๑๑๒” แม้การติดคุกปีครึ่งจะไม่นานนักสำหรับบางคน ที่มีหวังกับการพระราชทานอภัยโทษ
(https://tlhr2014.com/archives/58581 และ https://twitter.com/TLHR2014/status/1697883360784502816)