.jpg)
Saiseema Phutikarn
9h
·
<"นักกฎหมายธุรกิจมือหนึ่ง" โดนใส่ร้ายโดยเครือข่าย AndrewMac!?>
ชื่อ "วีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ" อาจไม่เป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไป แต่ถ้าคน "วงใน" ของแวดวงทุนยักษ์ใหญ่ในไทยต้องรู้จักแกดี ในฐานะที่ว่ากันว่าเป็น "นักกฎหมายธุรกิจมือหนึ่ง" ของไทย มีค่าเหนื่อยต่อชั่วโมงเป็นแสน จนหลายคนประหลาดใจที่ทราบว่า "นักกฎหมายธุรกิจมือหนึ่ง" ดันมา "กิ้งกือตกท่อ" แพ้คดี "โกงหุ้นโรงไฟฟ้า" ในศาลอังกฤษตามข่าวไม่กี่วันก่อน
แล้วก็ยิ่งประหลาดใจยิ่งขึ้น เมื่อเห็นแถลงการณ์ของ "วีระวงค์"ในอิศราวันนี้ที่ว่า "คำพิพากษาของศาลอังกฤษผิดเพี้ยนอย่างให้อภัยไม่ได้" โดยเฉพาะในส่วนที่ "วีระวงค์" อ้างว่ามี "สื่อที่ถูกฝ่ายตรงข้ามซื้อไว้" และ สื่อไม่สุจริตที่เคยถูกสำนักกฎหมายวีระวงค์ฯฟ้องคดีจนต้องรับโทษ คอยฉวยโอกาสใส่ร้ายสร้างความเสียหาย
ความประหลาดใจเพิ่มจนถึงระดับ "เหลือเชื่อ" เมื่อ "วีระวงค์" อธิบายต่อว่าสื่อทุกรายที่ถูกซื้อผ่านการจัดการของเครือข่าย Andrew MacGregor Marshall !!! อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ที่เปิดเผย Wikileaks เอกสารสถานทูตสหรัฐเกี่ยวจากราชสำนักไทย
แต่ก็น่าเสียดายที่คนระดับ "นักกฎหมายธุรกิจมือหนึ่ง" จะแก้ตัวด้วยการกล่าวหาคนอื่นว่าถูกซื้อ แต่กลับไม่กล้าแม้แต่จะระบุชื่อว่ามีสื่อไหนบ้างที่ถูกซื้อไป บอกแค่ว่า "รายชื่อสื่อทุกรายที่ถูกซื้อ" พร้อมหลักฐานอยู่ในมือหน่วยงานความมั่นคงหมดแล้ว แล้วก็ใช้วิธีหลบอยู่ภายใต้เมฆหมอกของ ม.112 แทบไม่ต่างจากพวกลุงป้าคลั่งเจ้าที่ชอบมากล่าวหาคนอื่นล้มล้าง ทั้งๆที่ต้นตอของ "คดีโกงหุ้นโรงไฟฟ้า" นี้มันเกิดจากการใช้ ม.112 กลั่นแกล้งกัน โดยที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการ ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาตรร้ายกษัตริย์ฯ
แล้วพอย้อนไปดูข่าวเก่าว่าก็จะพบว่าคดีนี้ไม่ใช่ความอื้อฉาวครั้งแรกที่สำนักกฎหมายวีระวงค์ฯประสบ ในปี 2562 "ชินวัฒน์ ชินแสงอร่าม" อดีตหุ้นส่วนผู้ร่วมก่อตั้งพึ่งโดน กลต. กล่าวโทษไปคดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินทุจริต"จำนำข้าว" ของเครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"ซึ่งหลัง คสช ยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ถูกทางการไล่ล่าหนักมาก จน "ชินวัฒน์" ต้องลาออกจากสำนักกฎหมายไป ซึ่งคำชี้แจงจากสำนักงานกฎหมายวีระวงค์ฯก็ฟังดูประหลาดไม่แพ้กัน โดยอ้างว่าชินวัฒน์เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับกลุ่มทุนนี้จริง แต่จากการทำ Due Diligent ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าเจ้าของเงินทุนตัวจริงคือครอบครัว "เสี่ยเปี๋ยง"!? เอิ่มถ้าระดับที่ปรึกษากฎหมายมือหนึ่ง ซึ่งมีเส้นสายเครือข่ายเสื่อมโยงไปแทบทุกคฤหาสถ์เมืองไทย ทำ Due Diligent แล้วยังไม่ทราบ ทั้งประเทศนี้ก็คงไม่มีใครทราบแล้ว
โดยหนึ่งในสื่อที่จัดหนักวีระวงค์ฯในตอนที่มีเรื่องอื้อฉาวคราวก่อนนั้นคือเครือ "เนชั่น" ถึงขนาดเปรียบเทียบว่าเป็น "โจรใส่สูทในธนาคารยักษ์ใหญ่" เพราะช่วงนั้นบริษัทแม่ของธนาคารใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับคดี "โกงหุ้นโรงไฟฟ้า" นี้ด้วยพึ่งแต่งตั้งให้ "วีระวงค์" เป็นกรรมการ และ ที่ปรึกษาบริษัท คงไม่มีใครไปคิดว่าหรือ "เนชั่น" ของเสี่ยซันไชน์ จะเป็นหนึ่งในสื่อที่ถูกซื้อโดยเครือข่าย Andrew MacGregor Marshall หรอกกระมัง
Saiseema Phutikarn
-ข้องใจคำพิพากษาศาลอังกฤษ-'วีระวงค์' แจงเหตุลาออก
https://www.isranews.org/.../120727-isranews-Weerawong.html
-โจรใส่สูทในธนาคารยักษ์ใหญ่ และการชำแหละเครื่องจักรฟอกเงินทุจริตจำนำข้าว
https://www.komchadluek.net/news/369575
<"นักกฎหมายธุรกิจมือหนึ่ง" โดนใส่ร้ายโดยเครือข่าย AndrewMac!?>
ชื่อ "วีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ" อาจไม่เป็นที่รู้จักสำหรับคนทั่วไป แต่ถ้าคน "วงใน" ของแวดวงทุนยักษ์ใหญ่ในไทยต้องรู้จักแกดี ในฐานะที่ว่ากันว่าเป็น "นักกฎหมายธุรกิจมือหนึ่ง" ของไทย มีค่าเหนื่อยต่อชั่วโมงเป็นแสน จนหลายคนประหลาดใจที่ทราบว่า "นักกฎหมายธุรกิจมือหนึ่ง" ดันมา "กิ้งกือตกท่อ" แพ้คดี "โกงหุ้นโรงไฟฟ้า" ในศาลอังกฤษตามข่าวไม่กี่วันก่อน
แล้วก็ยิ่งประหลาดใจยิ่งขึ้น เมื่อเห็นแถลงการณ์ของ "วีระวงค์"ในอิศราวันนี้ที่ว่า "คำพิพากษาของศาลอังกฤษผิดเพี้ยนอย่างให้อภัยไม่ได้" โดยเฉพาะในส่วนที่ "วีระวงค์" อ้างว่ามี "สื่อที่ถูกฝ่ายตรงข้ามซื้อไว้" และ สื่อไม่สุจริตที่เคยถูกสำนักกฎหมายวีระวงค์ฯฟ้องคดีจนต้องรับโทษ คอยฉวยโอกาสใส่ร้ายสร้างความเสียหาย
ความประหลาดใจเพิ่มจนถึงระดับ "เหลือเชื่อ" เมื่อ "วีระวงค์" อธิบายต่อว่าสื่อทุกรายที่ถูกซื้อผ่านการจัดการของเครือข่าย Andrew MacGregor Marshall !!! อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ที่เปิดเผย Wikileaks เอกสารสถานทูตสหรัฐเกี่ยวจากราชสำนักไทย
แต่ก็น่าเสียดายที่คนระดับ "นักกฎหมายธุรกิจมือหนึ่ง" จะแก้ตัวด้วยการกล่าวหาคนอื่นว่าถูกซื้อ แต่กลับไม่กล้าแม้แต่จะระบุชื่อว่ามีสื่อไหนบ้างที่ถูกซื้อไป บอกแค่ว่า "รายชื่อสื่อทุกรายที่ถูกซื้อ" พร้อมหลักฐานอยู่ในมือหน่วยงานความมั่นคงหมดแล้ว แล้วก็ใช้วิธีหลบอยู่ภายใต้เมฆหมอกของ ม.112 แทบไม่ต่างจากพวกลุงป้าคลั่งเจ้าที่ชอบมากล่าวหาคนอื่นล้มล้าง ทั้งๆที่ต้นตอของ "คดีโกงหุ้นโรงไฟฟ้า" นี้มันเกิดจากการใช้ ม.112 กลั่นแกล้งกัน โดยที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการ ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาตรร้ายกษัตริย์ฯ
แล้วพอย้อนไปดูข่าวเก่าว่าก็จะพบว่าคดีนี้ไม่ใช่ความอื้อฉาวครั้งแรกที่สำนักกฎหมายวีระวงค์ฯประสบ ในปี 2562 "ชินวัฒน์ ชินแสงอร่าม" อดีตหุ้นส่วนผู้ร่วมก่อตั้งพึ่งโดน กลต. กล่าวโทษไปคดีที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินทุจริต"จำนำข้าว" ของเครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"ซึ่งหลัง คสช ยึดอำนาจจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ถูกทางการไล่ล่าหนักมาก จน "ชินวัฒน์" ต้องลาออกจากสำนักกฎหมายไป ซึ่งคำชี้แจงจากสำนักงานกฎหมายวีระวงค์ฯก็ฟังดูประหลาดไม่แพ้กัน โดยอ้างว่าชินวัฒน์เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับกลุ่มทุนนี้จริง แต่จากการทำ Due Diligent ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าเจ้าของเงินทุนตัวจริงคือครอบครัว "เสี่ยเปี๋ยง"!? เอิ่มถ้าระดับที่ปรึกษากฎหมายมือหนึ่ง ซึ่งมีเส้นสายเครือข่ายเสื่อมโยงไปแทบทุกคฤหาสถ์เมืองไทย ทำ Due Diligent แล้วยังไม่ทราบ ทั้งประเทศนี้ก็คงไม่มีใครทราบแล้ว
โดยหนึ่งในสื่อที่จัดหนักวีระวงค์ฯในตอนที่มีเรื่องอื้อฉาวคราวก่อนนั้นคือเครือ "เนชั่น" ถึงขนาดเปรียบเทียบว่าเป็น "โจรใส่สูทในธนาคารยักษ์ใหญ่" เพราะช่วงนั้นบริษัทแม่ของธนาคารใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับคดี "โกงหุ้นโรงไฟฟ้า" นี้ด้วยพึ่งแต่งตั้งให้ "วีระวงค์" เป็นกรรมการ และ ที่ปรึกษาบริษัท คงไม่มีใครไปคิดว่าหรือ "เนชั่น" ของเสี่ยซันไชน์ จะเป็นหนึ่งในสื่อที่ถูกซื้อโดยเครือข่าย Andrew MacGregor Marshall หรอกกระมัง
Saiseema Phutikarn
-ข้องใจคำพิพากษาศาลอังกฤษ-'วีระวงค์' แจงเหตุลาออก
https://www.isranews.org/.../120727-isranews-Weerawong.html
-โจรใส่สูทในธนาคารยักษ์ใหญ่ และการชำแหละเครื่องจักรฟอกเงินทุจริตจำนำข้าว
https://www.komchadluek.net/news/369575
