โอเค โผคณะรัฐมนตรี ‘เศรษฐา ๑’ ตอนนี้นิ่งแล้ว รอตรวจคุณสมบัติแล้วส่งขึ้นไปโปรดเกล้าฯ วันที่ ๑ กันยา มีหลายตำแหน่งไม่เป็นไปตามที่ลือกัน แต่ที่มั่นคงไม่มีทางเปลี่ยนก็ของ ภูมิใจ ‘ทั่น’ เขาละ มหาดไทย ศึกษาฯ และแรงงาน ของตาย
ส่วน พลังประชารัฐ ไม่ผิดหวังมากนัก เมื่อ พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ไปกุมกระทรวงทรัพยากรฯ คู่เคียง ‘ป่ารอยต่อ’ ขณะของแน่เหมือนแช่ ‘แป้ง’ ก็ ธรรมนัส พรหมเผ่า กุมแน่นเกษตรและสหกรณ์ฯ กับได้อีกสอง รมช.สาธารณสุขและพาณิชย์
ด้าน รวมไทยสร้างชาติ ฟาด รมว.พลังงาน ตามฟอร์มของกลุ่มทุนยักษ์ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค บวกอีก ๓ รมช. มหาดไทย อุตสาหกรรม และเกษตรฯ ที่เหลือ ชาติไทยพัฒนา สมน้ำสมเนิ้อ ตัว ‘ลูกท้อป’ วราวุธ ศิลปอาชา ได้กระทรวงพัฒนาสังคม
เข้าท่าก็คือ ประชาชาติ ที่ ทวี สอดส่อง ไปว่าการกระทรวงยุติธรรม เช่นกันกับโควต้าของพรรคเพื่อไทย ‘not too shabby’ ไม่ค่อยขี้เหร่ นอกจากเศรษฐาควบคลัง ปานปรีย์ พหิทธานุกร ควบ ‘บัวแก้ว’ และ ภูมิธรรมควบพาณิชย์ แล้ว
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้กำคมนาคม ปล่อยให้ สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นแค่รองนายกฯ ด้าน ชลน่าน ศรีแก้ว ไม่ได้กินน้ำใต้ศอกใครๆ อย่างที่มีนินทา รับบำเหน็ดสาธารณสุข โดยที่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ขยับไปดีอีเอส และ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช มาเงียบนั่งวัฒนธรรมฯ
ฟอร์มใหญ่ต้อง สุทิน คลังแสง ได้กุมกลาโหม กับ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ครอง ท่องเที่ยวและกีฬาฯ ร้อยเปอร์เซ็นต์ตามคาดหมาย รวมไปถึง ‘พระเอก’ เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ควบคลัง จะทำให้สมหวังดังโฆษณาหรือไม่ ใครๆ อยากเห็น
ทั้งเงินดิจิทัลแจกฟรีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป คนละหมื่นได้หมด ไม่มีหัก เพียงแค่ใช้แต่ออนไลน์ในรัศมี ๔ กิโลเมตรละแวกบ้าน งานนี้ต้องใช้งบฯ ๕ แสนล้าน แต่เงินหมุนในคลังมี ๓ แสนล้าน ฉะนั้นตัวเงินที่เอามาใช้ต้องหมุนเวียนมาจากรายได้รัฐรายเดือน
ความหวังอยู่ที่พอใช้นโยบายนี้ปั๊บ เงินรายได้ที่คาดว่าเกิดจากการกระตุ้นจะวิ่งเข้ามาเป็นตัวหมุนได้ทันที จัดเป็นนโยบาย ลุ้น เช่นกันกับการรักษาฐานะคลังที่ทำกันมาทุกรัฐบาล แต่รัฐบาลเศรษฐาคิดเหมือนรัฐบาลประยุทธ์ในอดีต
คือตู่เค้าจับจ่ายใช้แหลก เชื่อว่าจะเป็นไปตามทฤษฎีกระตุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียน ผ่านมา ๙ ปีไม่ยอมเป็นตามนั้น หนี้ถึงได้กองท่วมหัวมาถึงวันนี้ เช่นกันทฤษฎีเศรษฐา บอกเลิกเถอะแนวทาง ‘คลังแข็ง’ เอาเงินออกมาใช้กระตุ้นดีกว่า
แต่ว่า ตอนนี้มีหนี้ก้อนกลมๆ อยู่ ๑๐ ล้านล้าน อันนี้อ้างอิง Soravee Sitirat ‘ติ่ง’ เศรษฐาน่ะนะ ที่บอกว่า “แต่มีเงินเก็บอยู่ ๗ ล้านล้าน ยินดีด้วยค่ะประเทศเราติดลบอยู่ ๓ ล้านล้านบาท” นี่คือโจทย์ที่รัฐมนตรีว่าการคลังคนใหม่ต้องขบ