พงศกร รอดชมภู
13h
·
ถ้าเลือกตั้งวันนี้จะเลือกพรรคไหนที่ศรีปทุมสำรวจนี้คงไม่เกิดขึ้นจริงเพราะรัฐบาลนี้ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯ จะต้องลากให้ครบเทอม ดังนั้นไม่ต้องตกใจนะครับ ยังจะได้บริหารปากท้องกันไปอีกนาน
ที่จะให้สังเกตคือ จากความพยายามของนักเลือกตั้งสายบ้านใหญ่ที่อาจผลักดันให้แก้รัฐธรรมนูญโดยยกเลิกระบบบัญชีรายชื่อเหลือแต่เขตเพราะเชื่อว่าเป็นเกมส์ที่ถนัด ก็น่าจะเหมือนที่ พปชร เสนอให้มีการแก้ รธน. เป็นบัตรสองใบที่คิดว่าตนเองถนัด สุดท้ายประชาชนคิดอีกแบบหนึ่ง ทีนี้เหลือแค่ ๔๐ บัญชีรายชื่อคนเดียวคือพี่ป้อม ถ้าเกมส์เขตแพ้นี่ไม่มีตัวช่วยอื่นแล้ว
ก้าวไกลคาดว่าจะได้เขตอยู่ ๔๕.๘ % เพิ่มมาจาก ๒๘% ส่วนบัญชีรายชื่อจาก ๓๙% เป็น ๖๒%
ถ้าก้าวไกลได้เขต ๔๕ % แม้ไม่ชนะขาดเกินครึ่ง แต่น่าจะเป็นอันดับ ๑ ตามด้วย ภูมิใจไทย เพื่อไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติและประชาธิปัตย์
หากจับมือกันแบบเดิม พรรคฝ่ายอนุรักษ์จารีตนิยมจะมีสัดส่วน ๑๗.๒๗ % บวก ๑๐.๐๙% บวก ๘.๙๐ % บวก ๖.๖๑ % ตัด ปชป ออกไปก่อนได้ประมาณ ๔๒.๘๗% ยังไม่ชนะก้าวไกลอยู่ดี
แต่ตัวเลขนี้ใช้ไม่ค่อยได้เพราะเขตนั้นใช้หลักผู้ชนะได้หมดหมายถึง แพ้นิดเดียวก็คือแพ้ อย่างไรก็ตามพอใช้เทียบได้
ดังนั้นการจะแก้ รธน.ให้มีแต่เขตแบบสมัยก่อนอาจไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายอนุรักษ์จารีตนิยมก็ได้
สิ่งน่าสังเกตต่อไปคือ พรรคการเมืองที่แข็งแกร่งไม่แกว่งอะไรกับใครมากที่สุดคือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งคาดว่าอีกสี่ปีข้างหน้า คงจะเป็นผู้นำถือธงสู้กับฝ่ายเสรีนิยมต่อไป ขนาดคะแนนนิยมในตอนนี้ยังมาเป็นอันดับสอง หากสมทบด้วยแนวทางบ้านใหญ่ที่เข้มแข็งก็น่ากลัวไม่น้อย
ดูสถิติเอาไว้เพื่อเตือนใจ และจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาจะพบว่าการใช้สถิติทางวิชาการผสมการลงพื้นที่เพื่อยืนยันข้อมูลด้วย ให้คำตอบที่แม่นยำมากมาแล้ว อย่างที่ระบบคิดของการเมืองแบบเดิม ๆ ที่ใช้ถามหัวคะแนนเริ่มใช้การไม่ได้
รอบหน้าถ้าใช้นิติสงครามจัดการพรรคก้าวไกลได้ พรรคภูมิใจไทยนี่คือผู้จัดตั้งรัฐบาลเลยทีเดียว
เวลาอีกยาวไกล สถานการณ์อาจเปลี่ยนได้บ้าง แต่คงไม่มากนัก เพราะคนไทยเปลี่ยนไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ พวกอยู่ในอดีตนับวันแต่จะลดลงครับ
