พาลี ตรีเพชร
32m
·
**คำเตือนเตตัสนี้ยาวเกินแปดบรรทัด**
พักเน้เหนมีแต่คนชมป้าเอ๋ปารีณากันยกใหญ่ว่าพูดจาเหมือนมนุดมนามากกว่าป้าแขกดำคำผกาไอดอลของลิงจ๋ออะนะงับๆ มาหยามหลู่ไอดอลของลิงจ๋อกันแบบเน้บอกคำเดียวว่ายอมไม่ได้เด็ดขาด ไอ้ลิงจ๋อจะขอเปนนายแบกให้ป้าแขกมั่งคือแบกศพป้าแขกดำคำผกาไปเกบในห้องเยนให้เองงับๆ
แต่จะว่าไปมันก็ไม่ถูกไปทั้งหมดซะทีเดียวนะ เพราะป้าปารีณาตอนนี้ที่สามารถพูดตามสามัญสำนึกของตัวเองได้เพราะตอนนี้ตัวป้าปารีณาเองนั้นอิสระแล้วเปนไทแล้ว ไม่มีความยึดโยงอยู่กับพรรคการเมืองใดๆไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือแอบแฝงหรือมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรอีกต่อไปในทุกๆด้านเกี่ยวกับการเมืองแล้ว มันก็เลยสามารถพูดออกมาแบบวิญญูชนคนที่สามารถรู้ผิดรู้ชอบแลมีสามัญสำนึกเหมือนคนปกติทั่วๆไป
ไม่เหมือนกับพวกนายแบกนางแบกทั้งหลายที่ตะบี้ตะบันแบกจนแหกไปหลายร้อยโค้ง ไอ้อีนักแบกประจำถิ่นเหล่านี้ยังสามารถแบ่งออกเปนกลุ่มย่อยๆได้อีก 3 ประเภทถุยส์ คือมัลแบ่งออกมาได้ครบ 3ถุยส์พอดีตามชื่อพรรค
-ถุยส์ที่1. คือนายแบกนางแบกประเภทที่มีผลปย. เกี่ยวข้องโดยตรง เหมือนพวกผู้ดำเนินรายการต่างๆทางช่องวอยซ์นั่นแหละ พวกนี้แบกเพราะนั่นคืองานของเค้า อาชีพของเค้าเลย
การแบกนั้นมันจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆทองๆล้วนๆ ซึ่งให้ผลตอบแทนต่อเดือนถือว่าค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว มัลถึงต้องแบกกันให้คุ้มค่ากับเงินที่นายทุนเค้าเอาฟาดหัวฟาดหน้าจ้างให้มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อตอหลดตอแหลตลบตะแลงดูถูกสติปัญญาคนดูคนฟังทุกวี่ทุกวันกันสักหน่อย ขนาดเวลาหัวเราะแต่ละทียังต้องหัวเราะจนเกินเบอร์เหมือนคนบ้า หัวเราะยังปลอม
แต่ก่อนที่จะหน้าด้านตอแหลตลบตะแลงดูถูกสติปัญญาคนดูคนฟังได้นั้นมันต้องหลอกตัวเองให้เชื่อให้ได้ก่อน( Pathological lying )หลอกไปหลอกมามากๆเข้า มันจึงได้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง "แบกจนหลอน"ด่ากราดคนที่ไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ตนพยายามยัดเยียดให้เค้าเชื่อหยาบๆคายๆออกอากาศให้เหนกันอยู่บ่อยๆเปนประจำ(นายแบกนางแบกกลุ่มนี้รวมไปถึงพวกหัวคะแนนแลพวกจัดตั้งกลุ่มต่างๆที่ได้รับผล ปย.โดยตรงจากพรรค3ถุยส์ด้วยทุกภาคส่วนของประเทศ
-ถุยส์ที่2. คือพวกนายแบกนางแบกประเภทไม่ได้มีผล ปย.โดยตรงกับพรรค 3ถุยส์สักเท่าไหร่ อาจเรียกได้ว่าเปนกลุ่มที่ได้รับผล ปย.ทางอ้อมนั้นก็ว่าได้ เช่น.พอจะรู้จักหรือเกี่ยวข้องกับคนของพรรค 3 ถุยส์(ไม่เว้นแม้แม่บ้านนักการภารโรง)หรือสายสนกลในหรืออาจแค่เคยสัมผัสคนในพรรคเพียงผิวเผินเช่น .อาจเปนเพื่อนในเฟส กับคนในพรรคคนนั้นคนนี้บ้าง เพราะอย่าลืมแว่เกือบจะ 20ปีมาแล้นที่ 3ถุยส์ มีการจัดตั้งมวลชน มีการให้ความหนับหนุนในการทำกิจกรรมต่างๆ กับเสื้อแดงกลุ่มต่างๆมาโดยตลอด ก็ทำให้กลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่ม-หลายกลุ่ม คิดว่าตนหรือกลุ่มตนนั้นใกล้ชิดสนิทสนม หลงคิดว่าเขารักเราเปนพี่น้องเปนผองเพื่อนกับคนในพรรค 3ถุยส์หลายคน เขา(Erptomanic Type)บางคนอาจเปนถุงระดับรมต. ด้วย แถมยังจำเริญสัมพันธไมตรีกันต่อด้วยการขอแอดกันเปน
ฟะเรนด์ใน fb กันสืบต่อมาอีกด้วย แม๊ๆๆมีเพื่อนเปนถึง รมต. ในfb ดูมัลช่างโก้หร่านเสียนี่กระไร
เค้าถึงได้แบกกันสู้ตายถวายหัว บางคนบางทียามขัดสนถึงขั้นยืมเงินใช้ก็ได้ด้วยก็มีนิ
บางคู่ถึงขั้นจูงมือกันเข้าอุโมงค์พิศวงแล้วไปโผล่ในที่แปลกๆจนเปนข่าวอื้อฉาวสนั่นโซเชียลก็ยังมีใช่ก๊ะ แบบนี้ไม่ให้แบกจนบ้งหลงเฝ้าสาวเจ้าบางปะกงได้เยี่ยงไร
**อย่าลืมแว่พวก ภูมิธรรม หมอมิ๊ง เลี๊ยบ อดิสอน จาตุรน พวกนี้สหายเก่าเคยเข้าป่ากันมาทั้งนั้น เรื่องการทำมวลชนการจัดตั้งตนพวกนี้เค้ารู้ดีว่ามัลคือสิ่งที่จำเปนมากในทางการเมือง แล้วเค้าก็ทำกันเก่งมากด้วย
ส่วนายแบกนางแบกประเภทสุดท้ายนี่จัดแว่อีเดียดฝุดๆงับๆ
-ถุยส์ที่3.เปนนายแบกนางแบกที่ไม่ได้มีผล ปย.ใดๆเลยทั้งทางตรงหรือทางแม้แต่น้อย เพียงแต่นายแบกนางแบกพวกนี้แม่ม มีความสัมพันธ์กับพรรค 3 ถุยส์แบบ Parasocial Relationship คือหลงรักเค้าแบบบ้าคลั่งมโนไปเองคิดเอาเองว่าเค้าคงรักตัวเองเหมือนที่ตัวเองรักเขา
พร้อมทุ่มเทให้ทุกอย่าง ทั้งที่ในฟามเปนจริงไอ้คนที่โดนคลั่งเค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกนายแบกนางแบกถุยส์ที่ 3นั้นมีตัวตนหรือเปนแค่ฝุ่นอยู่ตรงไหน เหมือนพวกคลั่งพระเอกนางเอกในหนังหรือตามซีรีย์ต่างๆอย่างไงอย่างั้น
ไอ้พวกนายแบกนางแบกที่ได้รับผลปย.โดยตรงหรือโดยอ้อมๆนั่น ยังพอจะเข้าใจแม่มได้อะนะงับๆ เพราะคนเราต้องกินต้องใช้ อยากมีหน้ามีตามีที่ยืนในสังคมมันเปนเรื่องปกติธรรมดาของมนุดปุถุชน
นายแบกนางแบกบางคนจากที่เคยมีรายได้ 2-3หมื่น/เดือน พอจะมีคนรู้จักอยู่บ้าง พอได้ไปอยู่ผิดที่ผิดทางกลายเปนคนชอบเปนล้านคนเกลียดเปนสิบๆล้าน มีรายได้เดือนละเปนแสนๆ มีที่ให้ขายน้ำพริกขายแชมพู เปนเราๆเองก็คงจะ "เห่าโห้งจนลืมตนถวายตัวอย่างยอมตาย" เหมือนกันแหละ"ปากท้องเลยจึงต้องมาก่อนประเทศชาติก็ต้องก้าวเดิน" หิวนิต้องกินต้องใช้นิ เออๆ..กรูเข้าจาย
แต่ไอ้พวกนายแบกนางแบกถุยส์ที่ 3 Parasocial relationship นี่จิที่บร้าบอคอห่านดีจินๆ คลั่งจนไร้สามัญสำนึก ไอ้คนที่ตัวเองหลงไหลคลั่งไคล้เค้าพาเค้าจูงเค้าดึงเชือกที่สนตะพายให้ไปทางไหนก็ไป เหมือนไอ้อป๊ะลิ้มบอกสาวกว่ากินขี้กินเยี่ยวอร่อยดีเพิ่มกำลังวังชาไม่เจ็บไม่ป่วยสาวกมันก็เชื่ออย่างไงอย่างงั้นแหละ มิได้ต่างกันเลย เฮ้อ...
**คำเตือนเตตัสนี้ยาวเกินแปดบรรทัด**
พักเน้เหนมีแต่คนชมป้าเอ๋ปารีณากันยกใหญ่ว่าพูดจาเหมือนมนุดมนามากกว่าป้าแขกดำคำผกาไอดอลของลิงจ๋ออะนะงับๆ มาหยามหลู่ไอดอลของลิงจ๋อกันแบบเน้บอกคำเดียวว่ายอมไม่ได้เด็ดขาด ไอ้ลิงจ๋อจะขอเปนนายแบกให้ป้าแขกมั่งคือแบกศพป้าแขกดำคำผกาไปเกบในห้องเยนให้เองงับๆ
แต่จะว่าไปมันก็ไม่ถูกไปทั้งหมดซะทีเดียวนะ เพราะป้าปารีณาตอนนี้ที่สามารถพูดตามสามัญสำนึกของตัวเองได้เพราะตอนนี้ตัวป้าปารีณาเองนั้นอิสระแล้วเปนไทแล้ว ไม่มีความยึดโยงอยู่กับพรรคการเมืองใดๆไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือแอบแฝงหรือมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรอีกต่อไปในทุกๆด้านเกี่ยวกับการเมืองแล้ว มันก็เลยสามารถพูดออกมาแบบวิญญูชนคนที่สามารถรู้ผิดรู้ชอบแลมีสามัญสำนึกเหมือนคนปกติทั่วๆไป
ไม่เหมือนกับพวกนายแบกนางแบกทั้งหลายที่ตะบี้ตะบันแบกจนแหกไปหลายร้อยโค้ง ไอ้อีนักแบกประจำถิ่นเหล่านี้ยังสามารถแบ่งออกเปนกลุ่มย่อยๆได้อีก 3 ประเภทถุยส์ คือมัลแบ่งออกมาได้ครบ 3ถุยส์พอดีตามชื่อพรรค
-ถุยส์ที่1. คือนายแบกนางแบกประเภทที่มีผลปย. เกี่ยวข้องโดยตรง เหมือนพวกผู้ดำเนินรายการต่างๆทางช่องวอยซ์นั่นแหละ พวกนี้แบกเพราะนั่นคืองานของเค้า อาชีพของเค้าเลย
การแบกนั้นมันจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆทองๆล้วนๆ ซึ่งให้ผลตอบแทนต่อเดือนถือว่าค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว มัลถึงต้องแบกกันให้คุ้มค่ากับเงินที่นายทุนเค้าเอาฟาดหัวฟาดหน้าจ้างให้มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อตอหลดตอแหลตลบตะแลงดูถูกสติปัญญาคนดูคนฟังทุกวี่ทุกวันกันสักหน่อย ขนาดเวลาหัวเราะแต่ละทียังต้องหัวเราะจนเกินเบอร์เหมือนคนบ้า หัวเราะยังปลอม
แต่ก่อนที่จะหน้าด้านตอแหลตลบตะแลงดูถูกสติปัญญาคนดูคนฟังได้นั้นมันต้องหลอกตัวเองให้เชื่อให้ได้ก่อน( Pathological lying )หลอกไปหลอกมามากๆเข้า มันจึงได้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง "แบกจนหลอน"ด่ากราดคนที่ไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ตนพยายามยัดเยียดให้เค้าเชื่อหยาบๆคายๆออกอากาศให้เหนกันอยู่บ่อยๆเปนประจำ(นายแบกนางแบกกลุ่มนี้รวมไปถึงพวกหัวคะแนนแลพวกจัดตั้งกลุ่มต่างๆที่ได้รับผล ปย.โดยตรงจากพรรค3ถุยส์ด้วยทุกภาคส่วนของประเทศ
-ถุยส์ที่2. คือพวกนายแบกนางแบกประเภทไม่ได้มีผล ปย.โดยตรงกับพรรค 3ถุยส์สักเท่าไหร่ อาจเรียกได้ว่าเปนกลุ่มที่ได้รับผล ปย.ทางอ้อมนั้นก็ว่าได้ เช่น.พอจะรู้จักหรือเกี่ยวข้องกับคนของพรรค 3 ถุยส์(ไม่เว้นแม้แม่บ้านนักการภารโรง)หรือสายสนกลในหรืออาจแค่เคยสัมผัสคนในพรรคเพียงผิวเผินเช่น .อาจเปนเพื่อนในเฟส กับคนในพรรคคนนั้นคนนี้บ้าง เพราะอย่าลืมแว่เกือบจะ 20ปีมาแล้นที่ 3ถุยส์ มีการจัดตั้งมวลชน มีการให้ความหนับหนุนในการทำกิจกรรมต่างๆ กับเสื้อแดงกลุ่มต่างๆมาโดยตลอด ก็ทำให้กลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่ม-หลายกลุ่ม คิดว่าตนหรือกลุ่มตนนั้นใกล้ชิดสนิทสนม หลงคิดว่าเขารักเราเปนพี่น้องเปนผองเพื่อนกับคนในพรรค 3ถุยส์หลายคน เขา(Erptomanic Type)บางคนอาจเปนถุงระดับรมต. ด้วย แถมยังจำเริญสัมพันธไมตรีกันต่อด้วยการขอแอดกันเปน
ฟะเรนด์ใน fb กันสืบต่อมาอีกด้วย
แม๊ๆๆมีเพื่อนเปนถึง รมต. ในfb ดูมัลช่างโก้หร่านเสียนี่กระไรเค้าถึงได้แบกกันสู้ตายถวายหัว บางคนบางทียามขัดสนถึงขั้นยืมเงินใช้ก็ได้ด้วยก็มีนิ
บางคู่ถึงขั้นจูงมือกันเข้าอุโมงค์พิศวงแล้วไปโผล่ในที่แปลกๆจนเปนข่าวอื้อฉาวสนั่นโซเชียลก็ยังมีใช่ก๊ะ แบบนี้ไม่ให้แบกจนบ้งหลงเฝ้าสาวเจ้าบางปะกงได้เยี่ยงไร
**อย่าลืมแว่พวก ภูมิธรรม หมอมิ๊ง เลี๊ยบ อดิสอน จาตุรน พวกนี้สหายเก่าเคยเข้าป่ากันมาทั้งนั้น เรื่องการทำมวลชนการจัดตั้งตนพวกนี้เค้ารู้ดีว่ามัลคือสิ่งที่จำเปนมากในทางการเมือง แล้วเค้าก็ทำกันเก่งมากด้วย
ส่วนายแบกนางแบกประเภทสุดท้ายนี่จัดแว่อีเดียดฝุดๆงับๆ
-ถุยส์ที่3.เปนนายแบกนางแบกที่ไม่ได้มีผล ปย.ใดๆเลยทั้งทางตรงหรือทางแม้แต่น้อย เพียงแต่นายแบกนางแบกพวกนี้แม่ม มีความสัมพันธ์กับพรรค 3 ถุยส์แบบ Parasocial Relationship คือหลงรักเค้าแบบบ้าคลั่งมโนไปเองคิดเอาเองว่าเค้าคงรักตัวเองเหมือนที่ตัวเองรักเขา
พร้อมทุ่มเทให้ทุกอย่าง ทั้งที่ในฟามเปนจริงไอ้คนที่โดนคลั่งเค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกนายแบกนางแบกถุยส์ที่ 3นั้นมีตัวตนหรือเปนแค่ฝุ่นอยู่ตรงไหน เหมือนพวกคลั่งพระเอกนางเอกในหนังหรือตามซีรีย์ต่างๆอย่างไงอย่างั้น
ไอ้พวกนายแบกนางแบกที่ได้รับผลปย.โดยตรงหรือโดยอ้อมๆนั่น ยังพอจะเข้าใจแม่มได้อะนะงับๆ เพราะคนเราต้องกินต้องใช้ อยากมีหน้ามีตามีที่ยืนในสังคมมันเปนเรื่องปกติธรรมดาของมนุดปุถุชน
นายแบกนางแบกบางคนจากที่เคยมีรายได้ 2-3หมื่น/เดือน พอจะมีคนรู้จักอยู่บ้าง พอได้ไปอยู่ผิดที่ผิดทางกลายเปนคนชอบเปนล้านคนเกลียดเปนสิบๆล้าน มีรายได้เดือนละเปนแสนๆ มีที่ให้ขายน้ำพริกขายแชมพู เปนเราๆเองก็คงจะ "เห่าโห้งจนลืมตนถวายตัวอย่างยอมตาย" เหมือนกันแหละ"ปากท้องเลยจึงต้องมาก่อนประเทศชาติก็ต้องก้าวเดิน" หิวนิต้องกินต้องใช้นิ เออๆ..กรูเข้าจาย
แต่ไอ้พวกนายแบกนางแบกถุยส์ที่ 3 Parasocial relationship นี่จิที่บร้าบอคอห่านดีจินๆ
คลั่งจนไร้สามัญสำนึก ไอ้คนที่ตัวเองหลงไหลคลั่งไคล้เค้าพาเค้าจูงเค้าดึงเชือกที่สนตะพายให้ไปทางไหนก็ไป เหมือนไอ้อป๊ะลิ้มบอกสาวกว่ากินขี้กินเยี่ยวอร่อยดีเพิ่มกำลังวังชาไม่เจ็บไม่ป่วยสาวกมันก็เชื่ออย่างไงอย่างงั้นแหละ มิได้ต่างกันเลย เฮ้อ... 
