วันอังคาร, สิงหาคม 29, 2566

วารุณีอดอาหารวันที่ 8 น้ำหนักลด 3 กก. ปวดท้อง หอบ เผย ‘อดน้ำ’ คือสิ่งที่ทรมานที่สุด


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
9h
·
วารุณีอดอาหารวันที่ 8
น้ำหนักลด 3 กก. ปวดท้อง หอบ
เผย ‘อดน้ำ’ คือสิ่งที่ทรมานที่สุด
.
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 ทนายความได้เข้าเยี่ยม “น้ำ” วารุณี ชาวพิษณุโลกวัย 30 ปี ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง หลังถูกศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. 2566 ในคดีมาตรา 112 กรณีโพสต์เฟซบุ๊กเป็นภาพรัชกาลที่ 10 ขณะเปลี่ยนเครื่องทรง “พระแก้วมรกต” เป็นชุดกระโปรงยาวสีม่วงจากแบรนด์ Sirivannavari และใส่ภาพสุนัข โดยศาลอุทธรณ์รวมถึงศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี
.
วันที่ทนายเข้าเยี่ยมนี้นับเป็นการอดอาหารประท้วงวันที่ 8 ของวารุณี การแสดงออกดังกล่าวดำเนินมาตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงของวันที่ 21 ส.ค. 2566 มีจุดประสงค์เพื่อเรียกร้องสิทธิประกันตัวและประท้วงต่อศาลที่มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวเรื่อยมา โดยเธอได้ยกระดับเป็นการอดอาหารและน้ำ ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. เป็นต้นมา โดยจะจำกัดการดื่มน้ำเฉพาะเวลารับประทานยานอนหลับและยารักษาโรคอารมณ์สองขั้วเท่านั้น
.
.
ผลข้างเคียงจากการอดอาหาร-น้ำ รุนแรงมากขึ้น
.
วันนี้เราสังเกตเห็นว่า วารุณีดูอ่อนเพลีย ไม่สดใส ใบหน้าซูบตอบและสีหน้าซีดเหลือง เธอบอกว่าเพื่อนผู้ต้องขังทักบ่อยครั้งว่า ‘หน้าเหลืองมาก, กินน้ำหรือกินนมสักกล่องไหม’ นอกจากนี้ วารุณีมีอาการปากแห้งผาก ไม่ค่อยมีแรงยิ้มและหัวเราะเหมือนเคย คิดและตอบสนองช้ากว่าปกติ เธอบอกว่ารู้สึกเพลีย เหนื่อยหอบ หายใจถี่รู้สึกกระหายน้ำมาก รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายและรู้สึกปวดท้องตลอด แต่ยังพอทนได้อยู่ ส่วนความหิวเธอบอกว่าตอนนี้รู้สึกว่า ‘ชินชา’ กับมันไปแล้ว
.
“ตอนนี้ปวดท้องประจำเดือนด้วย ทรมานมาก ทั้งที่ตอนอยู่ข้างนอกไม่เคยปวดขนาดนี้”
.
เธอบอกว่า “เหนื่อย แค่นั่งอยู่เฉยๆ ชีพจรก็เต้นเร็วกว่าปกติแล้ว” วันนี้เธอได้รับการตรวจค่าชีพจร ซึ่งปรากฏว่าค่าชีพจรของเธอนั้นอยู่ที่ 115 ครั้งต่อนาที ค่าชีพจรปกตินั้นควรจะอยู่ประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาที แปลว่า ชีพจรของวารุณีขณะนี้นั้นเต้นเร็วกว่าปกติ แม้เธอจะไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายหนักหรือออกกำลังกายก็ตาม
.
ตอนนี้วารุณีได้รับการตรวจวัดชีพจรทุกวัน เพราะเธออยากรู้ว่า ‘ความรู้สึกเหนื่อย’ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกไปเองหรือไม่ “มันเหนื่อยจริงๆ ค่ะ วันศุกร์ที่แล้วก็วัดค่าชีพจรได้ 125 ครั้งต่อนาที ตอนเช้าอาบน้ำก็รู้สึกว่าไม่มีแรงยกขันเลย แค่นั่งหายใจเฉยๆ ก็เหนื่อยแล้ว …”
.
ปัจจุบันน้ำหนักตัวของวารุณีลดลงประมาณ 3 กก. แล้ว จากก่อนหน้านี้เธอหนัก 37.2 กก. ตอนนี้เหลือประมาณ 34.4 กก. อ้างอิงจากการชั่งน้ำหนักครั้งล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (25 ส.ค.) วารุณีเล่าเรื่องน้ำหนักพร้อมยกแขนขวาให้เราดูว่าตอนนี้เธอผอมลงจน ‘แขนลีบเล็ก’ กว่าปกติแล้ว
.
“หนูดูโทรมไม่ไหวแล้ว อีกอย่างคือ ‘ตัวร้อนมาก’ เพราะเหงื่อไม่ออกเลย ร่างกายไม่ได้ระบายความร้อน”
.
ตอนนี้แพทย์ในเรือนจำได้จ่ายยาให้วารุณีเพิ่มอีก 2 ตัว ได้แก่ ‘ยาคลายเครียด’ และ ‘ยาเพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับ’ “พอได้กินยามันก็นอนหลับได้ค่ะ แต่ยาเพิ่มประสิทธิภาพการนอนนี่แรงมาก กินแค่ครึ่งเม็ดหนูก็รู้สึกหน้ามืด ยกหัวไม่ขึ้น ปวดท้องจนต้องเกร็งนิ้วเท้า แต่วันถัดไปก็ดีขึ้นค่ะ”
.
“หนูเพิ่งรู้ว่า สิ่งที่ทรมานที่สุดไม่ใช่การอดอาหาร แต่มันคือ ‘การอดน้ำ’ หนูรู้สึกกระหายน้ำมาก ทรมานสุดๆ เวลาเห็นคนได้กินน้ำ เราจะรู้สึกอยากดื่มน้ำมาก ยิ่งช่วงกลางวันที่อากาศร้อน เสื้อผ้าที่เราใส่ก็ไม่ได้ถ่ายเทอากาศเลย น้ำลายมันจะเหนียวขึ้นมากๆ ปากมันก็จะแห้ง แล้วก็รู้สึกขมในปากเหมือนจะเป็นไข้ หนูเลยต้องขอน้ำแข็งก้อนเล็กๆ (เธอทำมือให้ดูว่าก้อนเล็กเท่า 1 ข้อนิ้วชี้) ที่เพื่อนทุบมากิน เพื่อให้อาการดีขึ้น แต่ไม่ได้กินตลอดนะคะ แค่ช่วงที่ร้อนมากจนทนไม่ไหวเท่านั้น”
.
“เวลากินยาแล้วต้องกินน้ำ ใจหนึ่งก็อยากกินเยอะๆ แต่ก็พยายามข่มไว้ตลอดค่ะ กินทีละอึกสองอึก ให้สามารถกลืนยาได้ ปริมาณรวมๆ แล้วจะไม่เกิน 150-170 มล.”
.
“เรือนจำไม่ให้ทำอะไรเลย ให้หนูนั่งเฉยๆ แต่มันจะมีงานเล็กน้อยที่ต้องใช้แรง อย่างกวาดแดนอะไรพวกนี้ หนูทำไม่ไหว เพื่อนมาช่วยทำให้ หนูก็ซื้อขนมตอบแทนค่ะ แต่ตัวเองไม่ได้กินสักอย่าง”
.
.
อ่านบันทึกเยี่ยมวารุณีต่อบนเว็บไซต์ : https://tlhr2014.com/archives/58854