วันศุกร์, มิถุนายน 02, 2566

มาเงียบๆกะฟาดเรียบ #อุ้มบุญกลืนชาติ #จีนเทา


ลุยจีน
April 4
·
#อุ้มบุญกลืนชาติ #จีนเทา
มาเงียบๆกะฟาดเรียบ นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
มาสรุปให้อ่านแบบเข้าใจง่ายครับว่าคืออะไร ทำยังไง เป็นมายังไง...สกู๊ปจาก PPTV ครับ

1
ขบวนการ “อุ้มบุญผิดกฎหมาย” ให้ชาวจีนเริ่มเป็นข่าวใหญ่โตที่ไทยครั้งแรกปี 2563 ตอนนั้นจับหัวหน้าเครือข่ายชาวจีนชื่อ จ้าวหลาน มีพฤติการณ์คือรับเป็นนายหน้าจัดหาหญิงไทยมาอุ้มบุญให้ลูกค้าชาวจีน เพื่อให้ท้อง 9 เดือนแล้วพอคลอดแล้วลูกค้าก็บินมาเอาลูกกลับไปประเทศ --- ลักษณะคือคู่ตัวเองมีลูกไม่ได้ ไม่อยากเสียเวลาทำเด็กหลอดแก้วเอง ก็เลยไปหานายหน้าจัดหาจ้างหญิงไทยมาอุ้มท้องให้ ลดความเสี่ยง ไม่ต้องลำบาก เด็กที่ได้ก็จะเอาไปรับเลี้ยงไปขอสัญชาติที่ประเทศจีน ซึ่งจนถึงปัจจุบันการอุ้มบุญผิดกฎหมายแบบนี้เริ่มน้อยลงในไทยมากๆแล้ว แต่อุตสาหกรรมนี้มีการย้ายไปประเทศเพื่อนบ้านแทน โดยทำเป็นธุรกิจครบวงกร

2
แต่ขบวนการ “อุ้มบุญกลืนชาติ” ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยไปเจอมาล่าสุดน่าตกใจกว่า เพราะวัตถุประสงค์ต่างกับการอุ้มบุญผิดกฎหมายแบบเดิมๆที่แค่ “ต้องการลูก” แต่คือ “ให้ลูกเป็นนอมินี” ...พฤติการณ์คือ ลูกค้าชาวจีน(จีนเทา)ที่ต้องการทำธุรกิจอยู่ไทยยาวๆ จะไปหานายหน้าเพื่อจัดหาหญิงไทยมาช่วยลูกค้าชาวจีนอุ้มบุญ แล้วนายหน้าจะพาหญิงไทยไปทำเด็กหลอดแก้วที่กัมพูชา(ทำไม่ได้แล้วในไทย) พอทำเสร็จก็กลับมาอุ้มท้องที่ไทยจนคลอด เมื่อเด็กคลอดออกมาก็ได้สัญชาติไทย ทีนี้ลูกค้าพ่อจีนแม่จีนก็จะเข้ามา “จดทะเบียนรับรองบุตร” โดยไม่ต้องจดทะเบียนสมรสไทย(อาศัยช่องว่างกฎหมาย)

3
ค่าตอบแทนที่นายหน้าจะได้เลยจากลูกค้าชาวจีนอยู่ที่หลักล้านบาทซึ่งก็จะจะมีการแบ่งสรรปันส่วนไปให้แต่ละขั้นตอนในอุตสาหกรรมนี้จ่ายกันเป็นทอดๆ โดยหญิงไทยที่อยู่ส่วนปลายของห่วงโซ่จะ ได้ค่าตอบแทนหลักแสนบาทต่อครั้ง และยังได้รับสวัสดิการที่พัก อาหาร บำรุงครรภ์ฟรีตลอดจากเครือข่ายนายหน้า พอคลอดเด็กแล้วก็สามารถกลับมาทำต่อได้เรื่อยๆ

4
กลับมาดูที่ตัวเด็ก...พ่อจีนแม่จีนเมื่อรับรองบุตรเสร็จจะได้ประโยชน์ระยะสั้นทันทีคือ จากเดิมที่เข้ามาไทยแล้วต้องต่อวีซ่าทีละเดือนๆ ก็จะได้ “วีซ่าอุปการะบุตร” ที่ต่ออายุทีละปีๆได้เลย แทนการขอ Elite Card ที่ต้องลงทุนหลักหลายๆล้าน แล้วยังต้องมีการจดทะเบียนบริษัทซื้อทรัพย์สินในไทยแบบถูกกฎหมายนู่นนี่นั่น แต่นี่แค่ลงทุนหลักล้านต้นๆ ก็ได้อยู่ไทยแบบถูกกฎหมายยาวๆเลย แถมได้ลูกคนไทยด้วย

5
แล้วมาดูที่ผลประโยชน์ระยะยาวที่พ่อจีนแม่จีนจะได้...คือเด็กที่พ่อจีนแม่จีนส่งเสียเลี้ยงดู เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ก็จะสามารถถือครองทรัพย์สิน อสังหาริมทรัพย์ ที่ดินต่างๆในไทยได้แบบถูกกฎหมาย และวิธีนี้ยังเซฟกว่าการจ้างนอมินี เพราะเด็กคนนี้เป็นสายเลือดโดยตรงของพ่อจีนแม่จีนเลย เป็น “นอมินีโดยสายเลือด” แล้วจังหวะเด็กอายุครบ 20 ปี พ่อจีนแม่จีนอายุต่ำๆก็จะ 50 ปีขึ้นไป สามารถมาใช้ “วีซ่าเกษียณอายุ” อยู่ไทยเพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจยาวๆในช่วงบั้นปลายชีวิตได้เลย

6
ล่าสุด พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผู้กำกับ ตม.จังหวัดจันทบุรี หัวหน้าชุดสืบสวนที่ตามคดี “อุ้มบุญกลืนชาติ”มายาวนานได้เข้าทลายแหล่งนายหน้าอุ้มบุญกลืนชาติ ที่ตึกอาคารใจกลางกรุงเทพฯ ย่านสีลม พบว่าชั้นล่างจดทะเบียนเป็นบริษัทเอกชนทั่วไป แต่ชั้นบนเป็นที่พักของหญิงไทยอุ้มบุญจำนวนมาก มีการแบ่งซอยพื้นที่เป็นห้องๆในลักษณะหอพักให้หญิงไทยที่อุ้มบุญ บางห้อง 2 เตียง บางห้อง 3 เตียง มีข้าวของเครื่องใช้ของหญิงตั้งครรภ์อยู่ภายในจำนวนมาก(ภาพชัดเจนในคลิปสกู๊ปข่าว PPTV) รวมทั้งเป็นออฟฟิศจัดหาแม่ไทยอุ้มบุญให้ชาวจีนที่ต้องการ “ลูกสัญชาติไทย” โดยในออฟฟิศมีแต่พนักงานชาวจีนที่พูดไทยได้ รวมถึงพนักงานชาวต่างด้าวจำนวนมาก

7
การเข้าทลายแหล่งอุ้มบุญกลืนชาติแห่งนี้เป็นการสืบขยายผลจากอีกคดีเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา คือคดีนั้นเป็นคดีจีนอุ้มจีนที่ชลบุรี ซึ่งผู้เสียหายชาวจีนเป็น 2 ผัวเมียชาวจีนซึ่งมีลูกบุญธรรมชาวไทย ซึ่งเมื่อตำรวจไปสืบลึกลงไปก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า ลูกคนไทยที่พ่อจีนแม่จีนคู่ดังกล่าวอุปการะไม่มี DNA ของแม่ชาวไทย เรื่องเครือข่าย “อุ้มบุญกลืนชาติ” โดยนายหน้าชาวจีนจึงเริ่มผุดเหนือผิวน้ำขึ้นมา...ซึ่งแม่หญิงไทยคนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามตัว และเพิ่งทราบจากหน่วยสืบสวนว่าเธอกำลังอุ้มท้องลูกอีกคนซึ่งคาดว่าจะเป็นเด็กในเครือข่ายนี้เหมือนกัน

8
ความน่ากลัวของการ อุ้มบุญกลืนชาติ ที่เจ้าหน้าที่ไปพบครั้งนี้ผลกระทบอาจจะยังไม่เห็นทันที แต่ใน 10-20 ปีเหล่า “ลูกหลานนอมินีจีนเทา” กำลังรุกคืบและผลกระทบในเชิงลบหลายๆอย่างจะเริ่มเห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆในรุ่นลูกรุ่นหลานของเรา และธุรกิจอุ้มบุญสีเทาตัวนี้กำลังเฟื่องฟูและขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติในไทยอย่างเงียบๆ แถมยังน่าจะมีคนวงในของเราไปเกี่ยวข้องด้วยอีก

Cr. PPTV(ลิงค์สกู๊ปข่าวเต็มในคอมเมนต์)
...  
ลุยจีน
สกู๊ปข่าวเต็ม "อุ้มบุญกลืนชาติ" จาก PPTV ครับ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องของจีนเทาที่น่าเป็นห่วงมาก เรื่องนี้มีการพูดในเชิงข่าวลือในเชิงได้ยินมาเป็นระยะเวลานานมากๆแล้วในกลุ่มเครือข่ายนักธุรกิจไทย-จีน สุดท้ายมีข่าวจริงมีหลักฐานผุดขึ้นมาเรื่อยๆแล้วครับ
https://www.youtube.com/watch?v=cWn1SScZO5Y