ยุทธการ ‘จิกกันในเข่ง’ ของสองพรรคที่ได้จำนวน ส.ส.มากกว่าใคร มากกว่าอันดับสามกว่าครึ่ง จนทำให้การตั้งรัฐบาลซึ่งในภาวะปกติแน่เหมือนแช่แป้ง แต่ขณะนี้กลับไม่แน่ว่าจะรอดปากเหยี่ยว ที่คอยจ้องเฉี่ยวเอาไปกินหรือไม่
จากรายการ ‘ซ้อขอเล่า’ คุยกับคุณวาส ณ นาน่วม @bigooboss เก็บมาปูดว่า “ตู่บอกลูกพรรค ช่วงนี้ให้นิ่งเข้าไว้ ยิ้มอย่างเดียว ผมเชื่อว่ายังไงเราก็เป็นรัฐบาล” แม้นเจ้าตัว #ประยุทธ์ เฉไฉไม่ยอมตอบประเด็น “รอส้มหล่นทางการเมือง”
ก็ต้องไปฟัง ‘ซ้อกับป้า’ ว่าทั้งสองคุยกันไว้อย่างไร ก่อนอื่นซ้อเกริ่นโหมโรงไว้ว่า “อยากให้ทุกคนลองใช้สติ คิดดีๆ ตอนนี้ข่าวมันมาเยอะมาก หลายทางสารพัดสูตร แล้วที่ผ่านมา พท.ก็โดนหนักสุด” เธอว์บอก กระหน่ำโดยไม่มีหลักฐาน “มันไม่แฟร์”
“เราควรจะมองว่า พท. กะ กก.ต้องร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เพื่อเข้าไปช่วยกันแก้ รธน. ให้เรียบร้อย จะได้หลุดพ้นจากเผด็จการ...อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ยิ่งทะเลาะกัน ยิ่งไม่ไว้ใจกัน ยิ่งใส่ร้ายกัน คนที่จะได้ผลประโยชน์คืออำนาจเก่านะ”
ฟังดูดี๊ดี แต่เรื่องที่ยกมาเป็นตัวอย่างว่า มีคนของก้าวไกลโทรศัพท์ไปคุยกับ สว.บางคน ชักชวนมาโหวตให้ พิธา เป็นนายกฯ พอซ้อเล่าอย่างนั้น วาสนาเม้นต์ทันที ว่ามันเป็น ‘แบล็คเมล’ เนื่องจาก สว.ที่ถูกทาบทาม มีชนักติดหลังกันอยู่
ถ้าอย่างนี้ย่อมไม่มีอะไรจะต้องแสดงความเห็นใจ สว.เหล่านั้นกันเลย ในเมื่อ แผล ที่เกิดกับ สว.ผู้ถูกกล่าวอ้าง เป็น ‘self inflicted wound’ ซึ่งตนเองทำเอง จะมาบอกว่า “เด็กๆ เหล่านี้น่ากลัวจัง” ก็สมแล้วละ เด็กพวกนี้มิใช่หรือขุดอะไรต่ออะไรขึ้นมาตรวจสอบตลอดสี่ปี
แล้วก็เกมกดดันให้เพื่อไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลก้าวไกล ที่พากันไปร้องแรกแหกกะเฌอกันนั่น คนที่พูดถึง “แยมสตรอแบรี่เปลี่ยนเป็นแยมส้ม” แสดงความก้าวร้าวอย่างหน้าชื่น เกินกว่าจะทำให้เห็นชอบก็ข้อเรียกร้องของพวกเขา
การขอโทษไปหัวเราะไป ไม่ทำให้ ‘สภาพ’ ของพรรคขณะนี้ดีขึ้น ควรต้องฟังคำของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เสียบ้าง “สถานการณ์แบบที่เพื่อไทยเจอครั้งนี้ แล้วไม่มีการลุกขึ้นมาผ่าตัดใหญ่ตัวเอง ไม่มีการยกเครื่ององค์กรอย่างมีนัยสำคัญ ไม่มีทางที่จะเดินต่ออย่างแข็งแรงได้”
พรรคจะคิดเห็นเป็นอย่างไร ไม่รู้ละ แต่ว่าพวกที่ชอบแบกหามต้องสำเหนียก ว่าจะแค่ ‘เต้น’ หรือจะไป ‘โด่ง’
(https://twitter.com/jin_somroutai/status/1663033633823952896 และ https://twitter.com/sorkorlao/status/1662795075741691905)