จนได้ การปีนเกลียวกันระหว่าง ‘ศิธา’ กับ ‘ชลน่าน’ “บานปลาย” ดังที่สื่อหลายแหล่งจั่วหัวข่าวเมื่อวาน ถึงขั้นที่คนดังพรรคไทยสร้างไทยประกาศ “ผมยินดีลาออกจากพรรคให้ทันที” ถ้าคิดว่า ๖ เสียงของพรรคเขาเป็น “เงื่อนไข”
อันเนื่องมาจากข่าวเรื่อง “ชลน่านเดือดไม่เลิก บี้ก้าวไกลเคลียร์ศิธาให้ชัด” กรณีที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่พอใจ นต.ศิธา ทิวารี เสนอให้มีบันทึกความเข้าใจต่อกันของพรรคร่วมรัฐบาล พิธา ลิ้มเจริญวงศ์ แบบล้ำหน้า หรือ ‘Advanced MOU’
หมอชลน่านให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมในเรื่องนั้นว่า “ตนไม่สบายใจ ถ้าพรรคแกนนำไม่จัดการเรื่องนี้” เขาชี้ว่าเป็นความรับผิดชอบของพรรคแกนนำ “ต้องจัดการพรรคร่วมของคุณให้อยู่ในร่องในรอย” ไม่เช่นนั้นคงต้องย้อนถามกันว่า เห็น ๖ เสียงสำคัญกว่า ๑๔๑ หรือ
นักข่าวก็ช่างถาม “ว่าส่วนตัวจะไม่ให้ น.ต.ศิธาไม่รับตำแหน่งใดๆ ในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรคแกนนำ...เพียงแต่ขอให้เกียรติกันเท่านั้นก็พอ ตนไม่ติดใจ...แต่ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ทำงานร่วมกันยาก”
ประเด็นหนึ่งที่ชลน่าน ‘ยั้วะ’ มาก เมื่อศิธาต่อล้อต่อเถียง ไปพูดเรื่องที่ว่าถ้าก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ให้เพื่อไทยไปร่วมเป็นฝ่ายค้าน “ทำตัวว่าเป็นผู้แทนของประชาชน มาบอกว่าต้องการให้กำจัดเผด็จการด้วยการผูกมัดกัน”
นั่นเป็นข้อที่ ‘I’ และ ‘E’ แบกเพื่อไทยเม้นต์กันขรมว่าศิธาไม่ได้รับเลือกตั้งเสียหน่อย อันที่จริงประเด็นให้ร่วมหัวจมท้ายเป็นฝ่ายค้านนั้น จาตุรนต์ ฉายแสง ต่างหากที่พูดมาก่อน และก็ยังพูดอยู่ เพียงเอ่ยถึงเหตุล่าสุดนี่ว่าเป็นเรื่อง “ระหองระแหง”
จาตุรนต์โพสต์ความเห็นวันนี้ว่า “เพื่อนกับเพื่อนๆ กำลังร่วมกันทำงานใหญ่ คือการตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยตามที่ประชาชนมอบหมายมา ถ้าตั้งไม่สำเร็จก็จะเป็นประโยชน์กับการสืบทอดอำนาจเผด็จการ” ต้องอดทนซึ่งกันและกัน
“ถ้าความอดทนมีขีดจำกัดก็ต้องขยายขีดความจำกัดให้ได้” แต่ “#ความอดทนบางทีแม่งก็มีขีดจำกัด” เช่นที่ @DuangritBunnag ทวี้ตไว้ลอยๆ ให้ ทักษิณ ชินวัตร เอาไปรีทวี้ตว่า “คนที่เรียกตัวเองว่าเพื่อน เอาตีนถีบหน้าอยู่ทุกวัน” ต้องทนด้วยหรือ
“แต่ต้องช่วยมันเพราะลำพังตัวเองมันไปเองก็ไม่รอด ไม่ช่วยมันกูก็ผิด ช่วยมันกูก็เจ็บ” อู้ย วลีนี้ค้ม คมเสียจนพวกด่าอเมริกันกรี๊ดกันระงม
(https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7681855, https://twitter.com/SitaDivari/status/1661315608758325249 และ https://www.khaosod.co.th/politics/news_7681196)