
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
13h
1 พ.ย. 2565 “บอส” (นามสมมติ) นักกิจกรรมกลุ่ม “กอผือรื้อเผด็จการ” และอาสาสมัครเครือข่ายลุ่มน้ำโขง อีสาน วัย 28 ปี ให้ข้อมูลกับศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า เย็นวานนี้ หลังจากเขาไปลงพื้นที่ต่างอำเภอเป็นเวลาหลายวัน กลับมาถึงบ้านที่อยู่ในอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เขาได้รับการบอกเล่าจากญาติว่า
.

.
🧔อาที่มองเห็นชายคนนั้นจากด้านนอกไม่ประหลาดใจ เพราะนั่นเป็นสิ่งที่บอสทำเป็นปกติ ซ้ำชายคนดังกล่าวยังมีลักษณะคล้ายบอส แต่งกายก็เหมือนกัน ทั้งหมวกกันน็อคและมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ต่างกัน แต่เมื่ออาถามน้องสาวของบอสว่า บอสกลับมาบ้านแล้วใช่มั้ย น้องสาวตอบว่า บอสไม่ได้กลับมาบ้าน
.

.

.
เมื่อแน่ใจว่าไม่ใช่คนรู้จัก บอสเริ่มสงสัยว่า ชายคนดังกล่าวเป็นใคร มีวัตถุประสงค์อะไรที่ทำตัวคล้ายบอส และเข้าไปที่บ้านในเวลานั้น
.
การสอบถามน้องในกลุ่ม ทำให้บอสได้ทราบอีกว่า ก่อนหน้าวันที่ชายคนนั้นขับรถเข้าไปที่บ้านเขา 1 วัน ผู้ใหญ่บ้านได้โทรมาสอบถามกับย่าของ “บอล” (นามสมมติ) ทำนองว่า บอลอยู่ไหน ทำอะไรอยู่ โดยบอกว่าตำรวจประสานมา ต้องการรู้ข้อมูลของบอล คาดว่าเป็นตำรวจในพื้นที่คือ สภ.บ้านผือ
.
เมื่อปะติดปะต่อสองเหตุการณ์เข้าด้วยกัน ทำให้บอสค่อนข้างแน่ใจว่า ชายที่มาบ้านเขาเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ เขานึกดูถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ บอสก็นึกไปถึงกำหนดการมาบึงกาฬในวันที่ 28 ต.ค. 2565 ของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ก็ยังไม่มั่นใจ เพราะการคุกคามดูห่างจากวันที่ประยุทธ์มาหลายวัน บอสนึกขึ้นได้อีกว่า มีน้องเล่าว่า ราววันที่ 25 ต.ค. 2565 เส้นทางเข้าตัวเมืองอุดรฯ มีการปิดถนนแบบมีขบวนเสด็จ เมื่อค้นดูข่าวจึงพบว่า มีหมายกำหนดการของพระเทพฯ เสด็จมาถวายผ้าพระกฐินสภากาชาดไทยที่วัตธาตุสว่างโนนยาง อำเภอเมืองอุดรฯ ในวันที่ 25 ต.ค. 2565 จริงๆ
.

.

.
รวมถึงก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา “อาร์ม” สมาชิกอีกคนของกลุ่มกอผือรื้อเผด็จการ ก็ถูกตำรวจตามประกบตลอดเวลาขณะไปร่วมงานรับปริญญาของรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ทั้งที่อาร์มตั้งใจไปแสดงความยินดีกับรุ่นพี่เท่านั้น เหตุการณ์ที่บอส บอล และอาร์ม เจอจึงคาดหมายได้ว่าสมาชิกของกลุ่มกอผือรื้อเผด็จการตกเป็นเป้าหมายการติดตามของเจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว แม้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำเป็นเพียงการใช้เสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงออกและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น
.
