วันเสาร์, พฤศจิกายน 19, 2565

ตำรวจใช้อำนาจอะไร ใช้ความรุนแรงสลายม็อบ ใช้กระสุนยางทำร้ายประชาชน เราไม่ได้อยู่ใต้ ม.44 ไม่มี พรก.ฉุกเฉิน พรบ.ชุมนุมสาธารณะ จะสลายม็อบต้องขอคำสั่งศาล : ถ้าจะปฏิรูปประชาธิปไตยต้องรื้อล้างอำนาจตำรวจครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่โยกย้าย

https://www.facebook.com/baitongpost/posts/5722291874519261
Atukkit Sawangsuk
9h

ตำรวจใช้อำนาจอะไร ใช้ความรุนแรงสลายม็อบ ใช้กระสุนยางทำร้ายประชาชน
เราไม่ได้อยู่ใต้ ม.44 ไม่มี พรก.ฉุกเฉิน
พรบ.ชุมนุมสาธารณะ จะสลายม็อบต้องขอคำสั่งศาล
แล้วการสลายม็อบก็ต้องทำตามหลักสากล ไม่ใช่ใช้กระสุนยางยิงใส่ร่างกายส่วนบนระยะประชิด
:
มันคืออำนาจเถื่อน ตำรวจเถื่อน
ที่สุดแห่งความชั่วร้าย เมื่อวิชาชีพรีดไถฉ้อฉลรับใช้ประยุทธ์
ตำรวจไทยนั้นเลวร้ายทุกยุคสมัย
ใช้อำนาจใช้กำลัง ตั้งข้อหายัดข้อหา ข่มขู่ชาวบ้าน เรียกรับเงิน
รัฐประหารเหมือนเพิ่มอำนาจทหาร แต่พอคุมตำรวจตั้งตำรวจได้
ระบอบประยุทธ์ก็ใช้ประโยชน์จาก "วิชาชีพฉ้อฉล" เต็มคาราเบล
:
ตำรวจยุคประยุทธ์อำนาจนิยม
จึงใช้เล่ห์อ้างกฎหมายแล้วใช้อำนาจเกินกฎหมาย
ตั้งตัวเป็นกฎหมาย ออกคำสั่งเป็นกฎหมาย
ขุดข้อหาร้ายแรงมายัดใส่ ทั้งม็อบและคดีที่เอาใจกระแสสังคม
ให้สังเกตด้วยว่ามันใช้ตำรวจที่รู้จักอ้างข้อกฎหมาย มาพูดออกสื่อหรือรับมือม็อบ
ในท่าทีที่เหมือนเคร่งครัด แต่บิดเบือนกฎหมาย
:
ตำรวจที่เป็นใหญ่ในยุคนี้ เก่งในการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ
เช่น ผบ.ตร.คนก่อน ออกคำสั่งให้ยึดรถเครื่องเสียงม็อบ
ทั้งที่ความผิดฐานใช้เครื่องเสียงมีโทษแค่ปรับ การยึดรถใช้กับความผิดร้ายแรงเช่นขนยาเสพติด
แต่พวกแม่-ใช้ข้ออ้าง เพื่อยัดข้อหาร้ายแรง
เช่นจะยึดรถทะลุฟ้า พอไม่ยอม กระทบกระทั่งกัน
พวกแม่-ยัดข้อหาต่อสู้ขัดขวาง ทำร้ายเจ้าพนักงาน หลบหนีการจับกุม โทษจำคุกหลายสิบปี
นี่คือความเชี่ยวชาญของวิชาชีพฉ้อฉล
พวกแม่-คงสอนกันมาตั้งแต่สามพราน
:
ถ้าจะปฏิรูปประชาธิปไตยต้องรื้อล้างอำนาจตำรวจครั้งใหญ่
ไม่ใช่แค่โยกย้าย
แต่น่าคิดไหมว่า ทั้งที่นับถอยหลังสู่เลือกตั้ง ตำรวจยังรับใช้ประยุทธ์สุดจิตสุดใจ
เพราะมันเชื่อว่าประยุทธ์ไปต่อ หรือมันเชื่อว่าเปลี่ยนรัฐบาลก็ทำอะไรพวกมันไม่ได้
ตั๋วหนุนหลังคงจะใหญ่กว่าประยุทธ์