วันศุกร์, มกราคม 03, 2563

ดูมันแถกันดิ พอจะโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ส่วนที่แล้วมาก็จบไปแล้ว”


ดูมันแถกันดิ พอจะโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้ง ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประสานเสียงวางกรอบให้ฝ่ายค้านจำกัดวงแค่รัฐบาล คสช.๒ ในเวลาทำงาน ๕ เดือนเท่านั้น อย่าแตะต้อง คสช.๑ นะ

หลังจากโฆษกพรรคเพื่อไทยเผยแผนงานอภิปราย อย่างน้อย ๔ หมวด ได้แก่เรื่องทุจริตเชิงนโยบาย ช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องพวกพ้องเครือข่ายประพฤติปฏิบัติไม่เหมาะสม และเรื่องความผิดสืบทอดจากรัฐบาลชุดก่อน

 
“ดักคอฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ จำไว้รัฐบาลนี้ทำงาน ๕ เดือน อย่าเหมาเอายุคเดิมมาอภิปรายด้วย” Wassana Nanuam กระบอกเสียงกองทัพและ คสช.ป่าวประกาศให้แก่ บิ๊กตู่ของหล่อนว่า “อย่าเอามาพันกันไปหมด”

อ้างว่า “จะทำให้สิ่งที่ทำไว้เสียไปด้วย ที่ทำดีๆ ไว้ก็เสียหายหมดเพราะไม่เข้าใจกัน” แล้วยังเฉไฉต่อไปอีกว่า “อย่าเอาความไม่ชอบส่วนตัวมาว่า...เราตอบได้ก็คือตอบ...ก็ฟังกันบ้าง...อย่าถามอย่างเดียวแล้วไม่ฟังคำตอบ”

นั่นไง สไตล์ คสช. อวดอ้าง วางก้าม ซ้ำไม่เคยฟังคนอื่นแล้วยังจะบอกให้เขาฟังตนบ้าง ถ้าตอบเป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่กางโผอ่านผิดอ่านถูกแล้วสบัดก้นออกไป เขาย่อมได้ยินกันทั้งนั้น แล้วเวลาโดนย้อนให้อย่าทำเป็นติ๊ดแตกก็แล้วกัน

สิ่งดีๆ ที่ทำไว้ ถ้ามันดีจริงก็เอามายันเขาได้ ในเมื่อเขาตั้งโจทย์ไว้แล้วว่าจะพูดถึงเรื่องไม่ดีทั้งหลายที่ติดเนื้อติดตัวพวกทั่นมาจากรัฐบาลที่แล้วนั่นละ ทั้งนายกฯ รองฯ รมว. และพวก ส.ส.องครักษ์ และ สว.ตู่ตั้ง อภิปรายได้ทั้งนั้น

คนเหล่านี้ถ้าเคยทำผิดในเกณฑ์ ๔ ประการที่ฝ่ายค้านตั้งหัวข้อไว้ ย่อมเข้าข่ายถูกอภิปรายให้เห็นความไม่เหมาะสมที่จะนั่งกุมอำนาจกันต่อ จะยกยอดเอาดื้อๆ “ส่วนที่แล้วมาก็จบไปแล้ว” อย่างที่พี่ป้อมนาฬิกา ๒๕ เรือนแนะ ไม่ได้หรอก

เรื่องเก่ามากหลายมันจบที่ไหน ยังอึมครึม ยังคาราคาซังอยู่เยอะไป แม้แต่ย้อนไปตอนประกาศ “งั้นผมยึดอำนาจ” ก็ยังได้ หลังจากที่กดดันให้รัฐบาลชุดยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) ลาออกแล้วเขาไม่ยอม จะเห็นชัดว่าขนาดผู้เคยสนับสนุน กปปส.ยังรู้สึกว่าประยุทธ์ตั้งท่า แย่ง มาแต่บ้านแล้ว

ลองกลับไปดูคลิปที่ เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง พูดถึงหนังสือของอดีต กกต. สมชัย ศรีสุทธิยากร เมื่อไม่นานนี้ (ต้นตุลา ๖๒) เรื่อง 'กกต. ม.๔๔ เชิงอรรถการเมืองไทย ๒๕๕๖-๒๕๖๑' ดูก็ดี จะรู้แจ้งเห็นจริงยิ่งขึ้น https://www.facebook.com/groups/0007A/permalink/2582041872041923/

แล้วยังการแก้รัฐธรรมนูญที่กรรมาธิการเสียงข้างมากจากฟากรัฐบาลเต็มไปด้วยพวกไม่อยากแก้ พอประธานสภาฯ พูดถึงการตั้งแม่ทัพนายกองเข้าไปเป็นวุฒิสมาชิก โดยตำแหน่งไม่ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย ก็เอาเชียว

ทั้งพี่ใหญ่ คสช.และบริวารออกมาค้านอย่างข้างๆ คูๆ เอาออกไม่ได้นะ เป็นหลักประกันความมั่นคงบ้าง หนักเข้าพี่เค้าโบ้ยเลยว่าตั้งเข้าไปกินเงินเดือนแสนกว่า เพื่อจะได้นำความไปเล่าลูกน้องในกองทัพ แหม ประเทศไทย ๔.๐ นี่สื่อสารมวลชนจำกัดรึไง ต้องให้พวกหัวๆ คาบไปบอกพวกหางๆ

ยิ่ง สว.ประเภทที่ตั้งเข้าไปแบบมีป้ายคล้องคอ กลัวตกงานถ้ามีการเลือกตั้ง ก็โวยวายสิ “หาก ส.ว.ไปรับลูกหรือเห็นด้วยอาจจะลามไปถึงอำนาจหน้าที่อื่นของ ส.ว.ด้วย” หากมีการสงวนความเห็นไม่เอา ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ๖ คน
 
“ถ้าทำแบบนี้ถือเป็นการยึดอำนาจ ส.ว.หรือเปล่า เพราะอาจจะมีคนอื่นแปรญัตติอย่างอื่น ยึดอำนาจหน้าที่ของ ส.ว.ไปหมด...ถ้าจะแก้อะไร เสนอแก้อะไร” ขอ “อย่าแตะหมวด ส.ว.” ได้ไหม “ก็จะทำงานง่ายขึ้น” เสรี สุวรรณภานนท์ ร้องแรกแหกกะเฌอ

ขออยู่ให้ครบ ๕ ปี ตอนนี้เหลืออีก ๓ ปีเท่านั้น “ไม่ได้ยาวนานและผ่านมา ๒ ปีแล้ว พอหมดตำแหน่งก็เปลี่ยนคนอื่นมา ควรเสนออะไรที่เป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาพรรคการเมืองจะดีกว่า” ใช่สิ เพราะระบบเลือกตั้งซับซ้อน ทำเอาพรรคพลังประชารัฐเอง เสีย ส.ส.ไป ๒-๓ คน

เห็นหรือยังว่าตระกูล คสช.เนี่ยดีแต่ผายลมทางปากกันตั้งแต่หัวจรดหาง ทางด้านน้องใหญ่ ไอฉุนที่ชอบอวดกึ๋นแต่กลายเป็นบ้วนก้างแทบทุกครั้งไป ก็ไม่ค่อยมีหูรูดนักหรอก พอแก้ บาทแข็ง ไม่ได้ ชาวบ้านหวาดหวั่นเผาจริงตั้งแต่ปีนี้ยันปีหน้า

ประยุทธ์จัดแจงผายละสิ “มีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย...ทุกประเทศเศรษฐกิจเขาตกหมด มันก็ตกตามกัน” โธ่ถัง ที่อื่นเขากำลังลุกขึ้น แต่ที่นี่ยังก้นจ้ำเบ้าอยู่เลย เป็นผลจาก ๕ ปีที่ผ่านมานี่ละ

“เราต้องช่วยกันว่าจะแก้ปัญหายังไง ตนอยากจะฟังจากหลายๆ คน มากกว่าจะมาบอกกันว่าไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ใช่ แต่ไม่ได้บอกว่าจะแก้ยังไง”


นี่ก็เพราะไม่เคยฟังใคร ไอ้ที่เขาวิพากษ์วิจารณ์ว่าอะไรบ้างที่ทำผิดก็พอแล้วสำหรับคนที่รู้จักคิด ถ้าจะต้องให้จ้ำจี้ว่าทำอย่างไรบ้าง ทำไมไม่ให้เขาเข้ามาทำแทนเสียเลยล่ะ