วันอังคาร, กรกฎาคม 09, 2562

#ดักตบอีช่อ "นี่คือลักษณะการเป็น ‘สลิ่ม’ ที่เผด็จการนักยึดอำนาจชอบ"


ทา ถ้า ยัง กลับมาดังตอนวัยเยอะ แต่เป็นเรื่องดังทางร้าย ซ้ำไม่เสล็นเดอร์เหมือนตอนสาว กำหนดการแสดงคอนเสิร์ตกลางเดือนตุลาเห็นท่าจะเจอกระแสต้านแบบ ปั้นจั่น ที่เมื่อออกมาแสดงการ ขอโทษก็สายไปแล้ว

ถึงแม้ว่า อมิตา ทาทา ยัง จะขอโทษทันควันชั่วข้ามคืน ก็ดูเหมือนจะสายไปอีกเช่นกัน เพราะกระแสต้านเธอเร็วและแรงพอดู น่าจะเป็นเพราะนักร้องคนนี้ไม่มีประวัติการเป็น สลิ่มชนิดติดลมบนเหมือนหลายๆ คน

การแสดงความเห็นต่อปัญหาสังคมล่าสุดของอมิตา ในยุคที่ความขัดแย้งทางการเมืองไทยร้อนแรงช่วง ๕-๑๐ ปีที่ผ่านมานี้ เป็นเรื่อง ดูดี ในทางความคิดก้าวหน้าด้วยซ้ำ จากการให้สัมภาษณ์ THE STANDARD เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ตอนหนึ่งว่า

“การ bullying มันเป็นการแสดงออกที่คนทำควรต้องรู้สึกอายตัวเอง เพราะฉะนั้นเราต้องไม่เป็นเหยื่อของคนที่กำลังทำร้ายเราอยู่ เราไม่ได้ทำอะไรผิด คนเหล่านี้อาจจะมีปัญหาอยู่แล้วไม่รู้จะไปลงกับใคร เขาก็มานั่งสร้างกลุ่มกันเองเพื่อให้รู้สึกว่ามีกลุ่ม

แต่มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากนะ เพราะว่า 'ยูเอาความเกลียด' มาสร้างเป็นกระแส” (คัดจากการอ้างอิงในข้อเขียนของ Noppakow Kongsuwan) แต่เมื่อ ๘ กรกฎา ๒๕๖๒ ทาทาก็เอาตัวไปทำเช่นนั้นเสียเอง

การเขียนเพียงวลีสั้นๆ “รบกวนด้วยค่ะ” ต่อโพสต์ของผู้ใช้นาม ‘a adisorn’ ที่ว่า #ดักตบอีช่อช่อง Arrival #อีช่อหนักแผ่นดิน #อีช่อคอสั้น #อีช่อคางทูม #อนาคตใหม่กับพวกมึงกูไม่เอา นั้นเกิดอาการ ‘backfired’ ตีกลับอย่างหนักหน่วง
 
“คนในสังคมส่วนใหญ่ มองว่า เป็นการสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”

ไม่เท่านั้นด้วยความว่องไวของโซเชียลมีเดีย มีการระบุรูปพรรณสันฐานของผู้ที่เข้าไปคอมเม้นต์สนับสนุนและต่อยอด ‘hate speech’ ของ เอ อดิสร ว่าเป็นพวกคนดังและดาราเพียบ นอกจาก tatamorray ‘ผัวทาท่าที่ไม่ว่าไรมาก แค่ “ร่วมลงขัน” แล้ว

ก็มี ‘eddy_the_next_king’ หรือ จิณณวัตร สิริวัฒน์ รองประธานบริษัท Next ผู้จัดคอนเสิร์ตของทาท่าในเดือนตุลา นอกนั้นก็ ‘yvessirachaya’ 'อีฟ พุทธิดา ศิระฉายา' ลูกสาวของศิลปินดัง เศรษฐา ศิระฉายา ที่ข่าวสังคมมติชนรายงานว่า “แจง ไม่ได้เจตนาแสดงความเห็นทางการเมือง หากไม่ถูกใจต้องขอโทษด้วย”

ส่วน ‘petepol’ ดาราชาย Pete Pol Christensen 'พีท the star' ลงอินสตาแกรมว่า “ขอชี้แจงนะครับ ผมสนิทกันกับพี่เจ้าของ ig พี่เค้าชอบใครเป็นสิทธิ์ของพี่เค้านะครับ แล้วจากที่พี่เค้าโพสต์ผมก็คอมเมนท์ใส่ไอคอน 🤣 คือผมรู้สึกว่าสิ่งที่พี่เค้าโพสต์ตลกดี” แค่นั้น

จะหนักหน่อยก็ตรงที่มีวัยดึกอย่าง ‘noiparadai’ หรือภราได สุวรรณรัฐ ที่เป็นน้องขององคมนตรี พลากร สุวรรณรัฐ และเป็นแม่ของภูริ หิรัญพฤกษ์ นักแสดงชาย (ทินกร หิรัญพฤกษ์ บิดาแยกทางกับมารดาแล้ว) เธอคอมเม้นต์แรงกว่าพวกเด็กๆ

“ฝากด้วยสักสองฉาด เอาชนิดนิ้วมือขึ้นแดงเลยนะคะ แต่เปลี่ยนเป็นใช้รองเท้าแตะก็ได้ค่ะ” ในขณะตัวต้นเรื่องยังไม่วายต่อความยาวอีกว่า “ผมโดนด่าอะไรต่างๆ แล้วไม่เป็นไร...ผมตามคำตอบจาก อีช่อ เรื่องความเคารพต่อสถาบัน”
นี่คือลักษณะการเป็น สลิ่ม ที่เผด็จการนักยึดอำนาจชอบ ความขัดแย้งในสังคมอันเป็นแรงกดดันต่อนักประชาธิปไตย จะทำให้อ้างอิงการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ ใช้กำลังอาวุธได้เสมอ เหตุการณ์เช่นนี้เป็นมาแล้วหลายหนในประวัติศาสตร์ไทย ทั้งในยุคกลางเก่ากลางใหม่ และสมัย เพิ่งสร้าง

คนเหล่านี้ไม่น่าจะมีจำนวนมากนัก แต่เสียงดังเพราะมีกำลังอำนาจหนุนหลัง การเร่งชี้ตัวเพื่อให้คนทั่วไปรับรู้ ไม่ใช่เอาไม้ไปแหย่ขี้ หรือตามแห่แล้วกลายเป็นให้ท้าย แต่ถ้าทำไม่รู้ไม่ชี้ไม่อยากแตะ นั่นละจะทำให้พวกนี้เสียงดังยิ่งๆ ขึ้น จนเสียท่าเขามาแล้วหลายครั้ง

กรณีล่าแม่มด สาดโคลนใส่ช่อนี่เป็นสิ่งสำคัญที่มหาชนฝ่ายประชาธิปไตยต้องช่วยกันดูแล และชี้ให้เห็นว่าเป็นการคุกคามหยามหมิ่นสิทธิเสรีภาพและความเป็นปัจเจกชน เสาหลักของอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่ว่าชนชั้นที่เกื้อหนุนเผด็จการรุกเร้ากี่ด้าน ก็จำต้องถ่ายโอนกำลังไปช่วยคัดง้างให้หนักแน่นพอกัน

จะเห็นว่าในขณะที่สลิ่มโหมโจมตีช่อ ธนาธร และปิยบุตร สมุนคสช.ก็ยังคงออกรังควาญนักประชาธิปไตยไม่ยั้ง “ยังใช้อำนาจข่มขู่+ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ปชช.ราวกับเพิ่งยึดอำนาจมาเมื่อวาน” ประจักร ก้องกีรติ พาดพิงถึงการที่มีตำรวจไปบ้านของ อจ.อนุสรณ์ อุณโณ
 
บ่ายวันที่ ๘ กรกฎา รุ่งขึ้นหลังจากที่ร่วมเสวนา ‘ดีทอล์ค ล้างพิษรัฐประหาร’ ในหัวข้อมหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร ก็มีตำรวจสองไปหาที่บ้าน อ้างว่า นาย สั่งให้มาตรวจสอบว่าอาจารย์ยังพักอาศัยอยู่ที่บ้านนี้ไหม เรื่องแค่นี้แหละที่เจ้าหน้าที่รัฐของ คสช.คอยรบกวนสิทธิส่วนบุคคลของประชาชน

“ในวันเดียวกันนี้ นายกันต์ แสงทอง นักศึกษาปริญญาโทซึ่งเคยร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองต่อต้านอำนาจ คสช. เปิดเผยกับ ‘มติชน’ ว่าเมื่อเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบประมาณ ๕-๖ นายเดินทางมาพบตนที่บ้านย่านตลิ่งชัน”
 
ที่มีนบุรีก็มี ประจิณ ฐานังกรณ์ สมาชิกกลุ่มคนอยากเลือกตั้งและประธานกลุ่มธรรมาธิปไตย โพสต์ว่ามีตำรวจนอกเครื่องแบบ ๕ คนไปหาที่บ้านเช่นกัน “ผมไม่อยู่บ้าน มีแต่ญาติผมอยู่ ญาติผมได้ถ่ายรูปตำรวจเอาไว้” ตำรวจบอก “มึงอย่ามาถ่ายรูปนะไอ้อ้วน เดี๋ยวกูจับมึงเข้าคุกเลย”

นี่ละพวกข้าทาสเผด็จการ ชอบพูดเหมือนเด็กทะเลาะกัน