ขณะที่ทั้งตัวหัวหน้า (รัฐประหาร) และโฆษกเล่นบทตลกโปกฮากันครื้นเครง
ทหารไทยเร่งซื้อยุทโธปกรณ์เพิ่มกันใหญ่ ทัพบกจะได้ฮอจากรัสเซียอีกสองลำ ด้านคอหนัง
(นาวิกโยธิน) กำลังเล็งรถถังยูเครน
หลังจากที่ประยุทธ์ไปยืนโยกร่างบนโพเดี้ยม ชวนผู้เข้าฟังคำบรรยายในการประชุมลุ่มน้ำโขงที่ญี่ปุ่น
ให้ลุกขึ้นยืนร่วมออกกำลังกาย ‘Japanese style’ ที่มีคุณยายชาวญี่ปุ่นบอก อจ.ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ว่า ‘ปัญญาอ่อน’ แล้ว
โฆษกสำนักนายกฯ เอาดีทางบันเทิงบ้าง
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เปิดตัวรายงานวิทยุใหม่ ‘ศุกร์สบายสไตล์ไก่อู’
อ้างตัวผู้ประกาศเป็น ‘โฆษกคณะรักษาความสนุกแห่งชาติ’ กระจายเสียงทางสถานีเรดิโอไทยแลนด์เฉพาะวันศุกร์ ตอน ๔ โมงถึง ๖ โมงเย็น
และเปิดให้ผู้ฟังขอเพลงล่วงหน้าได้
ข่าวว่าในการเปิดตัววันแรกที่มีการเผยแพร่คลิปทางหน้าเฟชบุ๊คของ
วาสนา นาน่วม มีคนสนใจชมและแสดงข้อคิดร่วมรายการจำนวนมาก รวมทั้ง บก.ลายจุด สมบัติ
บุญงามอนงค์ ที่ยังผิดหวังกับการเรียกร้องให้ คสช. ยุติการอายัติบัญชีเงินฝากเสียที
เห็นแววความรักสนุกของโฆษกไก่อู บก.ลายจุดเขียนคอมเม้นต์ชักชวนให้ไปร่วมเข้าพรรคเกียนของตน
ที่ยึดปรัชญา ‘นำความบันเทิงสู่การเมืองไทย’
น่าจะไปกันได้ดีมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันแบะท่า ประกาศเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลของประยุทธ์
จันทร์โอชา หลังเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เผยใจเมื่อวานนี้
(๑๒ ต.ค.) ว่าถ้าเขาได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง
จะพิจารณาเรื่องการร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าไม่กลับเข้ามาเป็นนายกฯ
คนนอก แต่หากประยุทธ์ได้รับการเสนอชื่อ ๑ ใน ๓ คนของพรรคการเมืองเป็นแคนดิเดทนายกฯ
ก็ต้องดูว่า
“พรรคคุณเป็นตัวแทนของความคิดอะไร และได้เสียงมาเท่าไหร่ เราต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน...ถ้าคุณประยุทธ์ได้คะแนนเสียงมามาก
ก็มีความชอบธรรมที่จะมาเชิญชวนคนไปร่วมรัฐบาล” อภิสิทธิ์เสริม
“แต่ถ้ามาชวนผม
ผมก็ต้องถามว่า คุณจะบริหารงานแบบสี่ปีที่ผ่านมาหรือไม่ ถ้าคุณบริหารแบบสี่ปีที่ผ่านมาผมไม่คิดว่าผมจะไปช่วยสนับสนุนคุณได้”
ใครจะว่าทอดสะพานหรืออ่อยเหยื่ออย่างไรไม่สำคัญ ข้อแม้ก็คือ
“คุณต้องมีการเปลี่ยนแปลง
ต้องมีการปรับปรุง” นายอภิสิทธิ์ทำเสียงกร้าวแจงคำเรียกร้อง “ถ้ารวมศูนย์
ไม่กระจายอำนาจ หรือแนวทางที่เขาทำอยู่ในขณะนี้เราไม่สนับสนุน”
ไม่แน่ใจว่า
คสช.จะให้ความสนใจกับการเปิดวับวับแวมแวมของ ปชป.แค่ไหน แน่ๆ ว่าพวกตัวหัวๆ กำลังเพลิดเพลินกับกิจกรรมจำอวดบันเทิง
ส่วนระดับแม่ทัพนายกองกำลังง่วนกับการสะสมเพิ่มพูนยุทโธปกรณ์
สองวันก่อน
เว็บบล็อกของข่ายงานกลาโหมนานาชาติรายงานว่า คณะตัวแทนจากหน่วยนาวิกโยธินของไทย นำโดยพลเรือโท
ศังกร พงษ์ศิริ เดินทางไปเจรจาขอซื้อรถถังแบบ BTR-4MV1 ของยูเครน จำนวน ๒ คัน
โดยที่รถถังรุ่นดังกล่าวเป็นแบบใช้ในการรบประจันบาน
รายงานอ้างด้วยว่ารถถังรุ่นนี้มีประสิทธิภาพสูง
ออกแบบมาตามมาตรฐานขององค์การเนโต้ มีความเร็วสูงถึง ๑๑๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อีกทั้งยังสามารถแล่นสะเทิ้นน้ำได้ด้วยความเร็ว ๑๐ ก.ม./ช.ม.
ทางกองทัพบกก็ไม่เบาเพิ่งจัดซื้อเครื่องบินเฮลิค้อปเตอร์ลำเลียงรุ่น Mi 17V-5
จากรัสเซีย ๒ ลำ ในวงเงินจัดสรร ๔๐.๔ ล้านยูโร หรือเท่ากับ ๑,๖๑๗ ล้าน ๙ แสน ๓ พันบาท
กระบวนการเสร็จสิ้นเมื่อ ๒๗ ก.ย.๒๕๖๑ โดยระบุว่าเป็นการทำสัญญาระหว่างรัฐต่อรัฐ
การนี้สำนักข่าวอิศราได้รับหนังสือตอบข้อซักถามจาก
พ.อ.วิธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกว่าสนนราคาที่ตกลงซื้อเป็นราคายุติธรรม
จากการตรวจสอบของฝ่ายผู้ขาย ผ่านทาง “สถานเอกอัคราชฑูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย
เพื่อให้เชื่อมั่นว่าเป็นราคาที่ได้รับการรับรองจากฝ่ายรัสเซียแล้ว”
ไม่เข้าใจว่าทำไมให้ผู้ขายเป็นฝ่ายตรวจสอบความยุติธรรมของราคา
แล้วผู้ซื้อจะได้ประโยชน์อะไรจากการตรวจสอบนี้ หากผู้ขายโก่งราคาหรือบวกค่าโสหุ้ยต่างๆ
นานาเข้าไป แล้วตรวจความยุติธรรมด้วยตนเองว่าดีแล้ว ผู้ซื้อจะทำอะไรได้