นึกแล้วเชียวต้องแห่มาหนุน ผบ.ทบ. ‘ปฏิวัติ’ (รัฐประหาร) กันพร้อมหน้า พี่ใหญ่ พี่กลาง เพื่อนทัพฟ้า
และพี่บุญธรรม
พี่ใหญ่ที่อยู่ฝ่ายกะลาโหมนั่นไม่เท่าไหร่
พูดไปตามเพลง “หากบ้านเมืองสงบเรียบร้อย
ก็ไม่มีอะไร...เป็นการพูดความจริง ไม่ได้ออกมาขู่
และเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อบรรยากาศที่กำลังเข้าสู่การเลือกตั้งในขณะนี้” พล.อ.ประวิตร
วงษ์สุวรรณ ให้เหตุผลว่า “เพราะตลอด ๕ ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองก็สงบเรียบร้อย”
พี่กลางนั้นนานๆ พูดที
จะออกกร่างๆ นิดหน่อย “ท่านพูดชัดเจน
คุณจะไปตีความอย่างไรตนไม่วิจารณ์
แต่ท่านพูดชัดว่าหวังให้ประเทศไทยไม่มีความขัดแย้ง” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
หมายถึง “พรรคการเมืองใช้อำนาจในทางที่ถูกโดยไม่ขัดแย้งกันก็ไม่เกิดอะไรขึ้น”
มีอีก “เอาเป็นว่าที่ใช้อำนาจกับผู้ที่ถูกปกครองอยู่ร่วมกันโดยสงบ
ยอมรับกติการ่วมกัน ใช้อำนาจให้ดี ให้ถูกต้อง ใช้สภาควบคุมและกำกับการใช้อำนาจรัฐ
แบบนี้ก็ไม่มีการออกสู่ถนน” เอ๊ะ ตรงนี้ไม่ค่อยเข้าใจ ทั่นหมายถึงปี ๕๓ หรือปี ๕๗
เพราะที่ออกมาสู่ถนนสองปีนั้น มันคนละฟากกัน
โอเค ผ่านไปที่เพื่อนทัพฟ้าแล้วกัน
พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ออกตัวว่ารัฐประหารที่ผ่านมา ไม่รู้รายละเอียดว่าใครทำ
ที่พวกนักการเมืองกล่าวหาทหารเองเป็นคนสร้างสถานการณ์วุ่นวาย ข้ออ้างยึดอำนาจนั้น “คำถามที่ถามลึกเกินไป...
ส่วนตัวไม่คิดว่าอยากจะให้มันเกิดขึ้นอีกด้วยซ้ำ”
แต่ผู้บัญชาการทหารบกพูดมีเหตุผล เรามีหน้าที่รักษาความสงบ ความมั่นคง
ถ้าทุกคนร่วมใจกันอยู่ในกติกา ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แล้ว” อ่า
แต่ว่ามีคนท้วงเยอะเลย
ว่ากติกาแท้ๆ ในรัฐธรรมนูญ ไม่ให้ล้มล้างการปกครองไม่ว่าด้วยวิธีใด
ขืนทำเป็นความผิดถึงขั้นประหารชีวิตเสียด้วย ดังที่ปิยบุตร แสงกนกกุล นักกฎหมาย Doctorat
en droit ผู้รู้จริงทั้งทางไทยและสากลแจง
“ทหารในนาม ศอฉ.
กลับลั่นกระสุนสงครามสังหารประชาชน ไม่ได้ทำการรัฐประหารโค่นรัฐบาลอภิสิทธิ์
ทั้งที่ ผบ.ทบ. เองก็เป็นนายทหารผู้ปฎิบัติการใน ๓ เหตุการณ์” อันนี้คำหมอเหวงวิจารณ์ที่
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ให้สัมภาษณ์เรื่องอนาคตในการรัฐประหาร
(https://prachatai.com/journal/2018/10/79204,
https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_141220 และ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/816094)
ตานี้ถึงทีพี่บุญธรรมตระกูล คสช. บ้างว่า “การออกมาพูดเรื่องนี้ของ
ผบ.ทบ.เป็นเพราะมองตามประวัติศาสตร์การเมืองมากกว่า ส่วนจะเป็นการปรามนักการเมืองหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ”
พี่เค้าบอก
“การออกมาพูดครั้งนี้
ท่านพูดเพื่อชี้ให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่าเกิดขึ้นเพราะอะไรอย่างไร
ผมอยากให้ทุกคนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในอดีตมากกว่าชี้นิ้วกล่าวหากันไปมา” แน่ะ
พี่เค้าเตือนใครๆ อย่าได้วิจารณ์ทั่น ผบ.ทบ.สุ่มสี่สุ่มห้า
“ไม่ควรชี้นิ้วต่อว่าใครเป็นต้นเหตุ
แต่ทุกฝ่ายควรจะย้อนดูตัวเอง” ก็พี่เค้า “พูดหลายครั้งแล้วว่าการทำรัฐประหารที่ผ่านๆ
มา คนทำรัฐประหารก็ถูกต่อว่า ขณะเดียวกันคนที่สร้างเงื่อนไขทำให้เกิดรัฐประหารก็ต้องทบทวนตัวเองด้วย”
Well, พี่คนนี้คงไม่ได้หมายถึงการสร้างเงื่อนไข
เป่านกหวีดปิดบ้านปิดเมือง ปิดอนาคตเศรษฐกิจ ขวางเลือกตั้งตอนกุมภา ๕๗ แน่ๆ
เพราะพี่เค้าเป็นนักเสรีนิยมตามความพอใจ หัวหน้าพรรคการเมืองสังคโลก
ชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ฟังแล้วอย่าเพิ่งหมดอาลัย
ลองไปฟังบุคคลากรของพรรคการเมืองอีกแห่งให้จำเริญปัญญา รายนี้เป็น ‘สาวน้อยอนาคตใหม่’ (นามที่ ‘ไทยโพสต์’ ของ โรจน์ งามแม้น ใช้พาดหัวแทนตัวเธอ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ)
‘ช่อ’ พรรณิการ์
วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ให้ความเห็นข้ามช็อตไปถึง ‘การป้องกัน’ รัฐประหาร ว่าเหมือนการป้องกันทุจริตคอรัปชั่น ถ้า “อาศัยสามัญสำนึก
ความเชื่อใจว่าผู้มีอำนาจจะไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบเพราะเป็นคนดี
ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง” ค่ะ
“จะป้องกันรัฐประหาร
ต้องอาศัยมติมหาชนเห็นพ้องกันว่า การรัฐประหารไม่ใช่ทางออกของสังคม บวกกับกลไกกฎหมาย
รัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปกองทัพ
ให้รัฐบาลพลเรือนมีอำนาจเหนือผู้บัญชาการทหารบก
ตามที่อารยประเทศเป็น นี่จึงจะเป็นวิธีป้องกันรัฐประหารที่ได้ผล”