มาตรา 28 กับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’
มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 ตุลาคม 2561
ตอนนี้สปอตไลต์ฉายจับไปที่นายทักษิณ ชินวัตร
ซึ่งว่าที่จริงก็สาดแสงใส่จนผิวแทบไหม้ทั้งตัวมานานแล้ว
ในฐานะเป็น “เงื่อนไข” ร้อน
ที่อาจจะทำให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบ
ด้วยมีพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
ในมาตรา 28
ที่กำหนดว่า
“ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํากิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”
ซึ่งก็มีเค้าอยู่
และตอนนี้ กกต.เริ่มขยับเก็บข้อมูลแล้ว
จึงนำไปสู่การตั้ง “พรรคสำรอง” อย่างพรรคเพื่อธรรมเอาไว้เป็นทางออก
เมื่อพูดถึง “บุคคลอื่น” ที่อาจเป็นเงื่อนไขให้ถูกยุบพรรคแล้ว
ว่าที่จริงจะพูดถึงนายทักษิณฟากเดียวก็ดูจะไม่เป็นธรรมนัก
เพราะอีกฟาก
ก็มีเรื่องไม่ใช่เฉพาะ “บุคคลอื่น” เท่านั้น
หากแต่-แฮ่ม เป็นเรื่อง “คณะบุคคลอื่น” เลยทีเดียว
ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองบางพรรค
พูดกันตรงไปตรงมา ไม่ต้องอ้อมค้อม
นั่นก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ที่แซดกันไปทั้งประเทศว่าอยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองเช่นกัน
นั่นก็คือพรรคพลังประชารัฐ
แค่ชื่อก็เอื้ออาทรกันเห็นๆ
หากขั้วตระกูล “เพื่อ”
ตั้งชื่อว่าพรรคเพื่อประชารัฐขึ้นมา จะยอมหรือไม่ หรือจะส่งเสียงคัดค้านกันขรม
อันนี้ยกตัวอย่างง่ายๆ ถึงการเป็นพวก และไม่ใช่พวก
ถามว่า นาทีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ครม. และ คสช. เป็นอะไรกับพรรคพลังประชารัฐ
คำตอบก็คือ “คนนอก” และไม่ใช่สมาชิกพรรคด้วย
แล้วถามต่อไปว่า แล้วคน-คณะนอก มีการ “ควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา” หรือไม่
หลายคนอาจชักเริ่มลังเลๆ ว่า แตกต่างจากนายทักษิณกับพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า
ซึ่งถ้าไปถาม ไม่ว่าจากฝ่ายใด
ก็จะได้รับคำตอบอย่างเดียวกัน นั่นคือ ไม่ได้ควบคุม ครอบงำ หรือเข้าไปยุ่งเกี่ยว
แต่ถ้าถามต่อไป แล้วพลังดูด พลังบีบ ให้คนเข้ามาร่วมพรรคบางพรรคนั้น
เป็นเพราะฤทธานุภาพของกลุ่มสา,มิตร หรือ 4 รมต. ใช่หรือไม่
วงแตกเอาได้ง่ายๆ
เพราะคำตอบกับข้อเท็จจริง มันคนละเรื่อง
นี่แค่เริ่มต้น
จะยิ่งยุ่งเหยิงมากขึ้น หากชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ไปโผล่ในรายชื่อผู้สมควรเป็นนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ
ถามว่า ในกรณีนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะถือเป็นคนในหรือคนนอก
ถ้าเป็นคนใน
แล้วหมวกความเป็นนายกฯ ความเป็นหัวหน้า คสช. จะแขวนเอาไว้ตรงไหน
จะแยกแยะอย่างไร
ถ้ามองเข้าข่ายคนนอก เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองหรือไม่
กกต.จะมองอย่างไร
หากมองไม่เห็น
ลุยยุบพรรคเพื่อไทย ด้วยข้อหานายทักษิณเข้ามาจุ้นจ้านฟากเดียว
อย่างนั้น งานเข้า กกต.แหงมๆ