เอ็นจีโอ ในอียูทำโฆษณาต้านสินค้าประมงไทย!!!
(เห็นต่างได้ แต่อ่านให้จบก่อน-ต้าร์)
นายธวัชชัย เดชาเชษฐ์ อัครราชทูตที่ปรึกษา องค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ในสหภาพยุโรป (อียู) ได้สร้างโฆษณาเรื่องประมงไทย รณรงค์ให้ผู้บริโภคในอียูเกิดความรังเกียจ และเลิก หรือเลี่ยงการบริโภคสินค้าประมงจากประเทศไทย ซึ่งหากเกิด กระแสต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ กระแสการต่อต้านสินค้าไทยจะเป็นตัวผลักดันการพิจารณาใบเหลือง กรณีการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน ไร้การควบคุม (ไอยูยู) ให้เป็นใบแดงได้ และเมื่อนั้นสินค้าประมงไทยก็จะถูกอียูห้ามนำเข้า กระทบและซ้ำเติมการส่งออกของไทย
ขณะนี้คณะผู้แทนไทยที่ดับบลิวทีโอ และบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อชี้แจงความคืบหน้าการแก้ปัญหาไอยูยูของไทย ในประเด็นที่อียูตั้งข้อสงสัยว่าไทยเอาเปรียบคู่ค้า โดยใช้แรงงานผิดกฎหมาย เพื่อให้ต้นทุนการค้าต่ำกว่าคู่แข่ง หากผลการตรวจสอบออกมาว่าไทยไม่ได้เอาเปรียบคู่ค้า ไม่ได้ทำการค้าผิดกฎหมาย อียูก็จะประกาศยกเลิกใบเหลือง เหมือนกรณีเกาหลีและฟิลิปปินส์ ขณะนี้รัฐบาลไทยกำลังเร่งดำเนินการเพื่อปรับปรุงให้การทำประมงไทยได้มาตรฐานสากล หากแก้ปัญหาได้ ภาพพจน์สินค้าประมงไทยจะดีขึ้น
http://www.thairath.co.th/content/499879
***
จะว่าไป ส่งออกไปอียู ปีละประมาณ 5,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 150,000 ล้านบาท) นี่ถ้าเจอหนักกว่านี้ คงต้องบริโภคในประเทศ และอยู่กันแบบเกาหลีเหนือแน่นอนครับ
อันนี้มีหลายคนสงสัยว่า ทำไมก่อนหน้านี้เค้าไม่แบนเรา ไม่หาเรื่องเรา คลายความสงสัยคือ เพราะเราเป็นรัฐบาลพลเรือนไงครับ พอเราถูกรัฐประหารปุ๊บ สังเกตครับว่ามาตรการกีดกันการค้าพวกนี้คือมาตรการที่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร (เป็นมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจต่อเผด็จการทหาร)
คนที่ไม่ได้ทำประมง ชื่นชมคสช.และคลั่งชาติหลายคนอาจบอกว่า งั้นเราก็ไม่ต้องส่งออกอาหารทะเลไปให้พวกมันแดก อาหารทะเลจากน่านน้ำไทย คนไทยกินกันเองได้โว้ย เอาจริงๆนะครับ ถ้าพูดแบบนี้ก็ตื้นเขินมาก
อุตสาหกรรมประมง มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ปริมาณส่งออกที่กล่าวถึงก่อนหน้า ยังไม่ได้นับรวมปริมาณการบริโภคภายในประเทศ ถ้านับรวมเข้าไป คนไทยทุกคนคงต้องกินอาหารทะเลกันประมาณ 3-4 มื้อ ต่อสัปดาห์ แต่จะไหวมั้ย เมื่อเทียบกับรายได้ต่อหัวโดยเฉลี่ยของประชากร คนมีเงินเยอะแล้วก็อาจจะบอกว่าฉันกินได้ ก็ดีถ้าทำได้และคงต้องชวนคนอีกเป็นล้านคนให้ทำแบบเดียวกันด้วย
ต่อให้อียูเขาไม่ซื้อจากไทย เขาก็ซื้อจากฟิลิปปินส์ อินโด มาเลเซีย บังคลาเทศ จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นได้นะครับ ประเทศเรามีทะเลเจ้าเดียวเสียเมื่อไหร่
ปัญหานี้ ไม่ได้ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวนะครับ มันถูกพิจารณาร่วมกับเรื่องการค้ามนุษย์ เรื่องโรฮิงยา เรื่องการกดขี่แรงงานบนเรือประมง การที่เรือไม่มีใบอนุญาตไปรุกล้ำน่านน้ำเพื่อนบ้าน การใช้อวนตาถี่ การจับปลาในฤดูวางไข่ การไม่ได้มาตรฐานของเรือ และอื่นๆ
ถ้าจะพูดเรื่องการแก้ปัญหานี้ ต้องคำนึงถึงผู้ประกอบการประมงนับหมื่นๆรายด้วยนะ นอกจากคนมีเรือใหญ่ ก็มีเรือเล็ก มีคนเรือ มีห้องแช่แข็ง มีโรงงานแปรรูป ฯลฯ เกี่ยวข้องอีกเยอะ
ขอให้ คสช.แก้ปัญหาได้โดยไวก็แล้วกันนะ และอย่าหันกลับมาบอกว่า "จะแก้ยังไง" หรือบอกว่า "ให้ประชาชนช่วยตัวเองไปก่อน" อีกล่ะ มันแสดงให้เห็นว่า หัวหน้า คสช.มองไม่เห็นภาพรวม และไม่มีความรู้ความสามารถ (มันน่าอายน่ะ)
เรื่องเกี่ยวข้อง...
อียูทำโฆษณาต้านสินค้าประมงไทย
อียูทำโฆษณาต้านสินค้าประมงไทย
ooo
https://www.youtube.com/watch?v=lQoM8BaSXHk
Thailand faces threat of EU seafood ban: What's at stake?
Published on Apr 21, 2015
Video credit: Bloomberg