สถานการณ์หักหาญและโหมเหี้ยม โดยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ
ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้ง ‘อีแอบ’ (ทหารปลอมเป็นทั้งพลเรือนและตำรวจนอกเครื่องแบบ)
ทำการฉุดกระชากลากถูกลุ่มนักศึกษาจัดกิจกรรม ‘ศุกร ๒๒
มาฉลองกันมะ’ ที่บริเวณหน้าหอศิลป์ปทุมวัน ไปคุมขังยังสถานีตำรวจปทุมวัน
กับการจับกุมนักศึกษากลุ่มดาวดิน จ.ขอนแก่น ที่ทำกิจกรรมแสดงออกความไม่พอใจไม่ต้องการรัฐประหารครบรอบ
๑ ปี และการสั่งปิดอนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลาฯ แล้วควบคุมตัวกลุ่มเยาวชนสังคมนิยมประชาธิปไตยไว้ที่สน.
ชนะสงคราม คลี่คลายต่อเมื่อย่ำรุ่งวันใหม่ (ฟ้าเก่า)
เวลาประมาณ ๖ โมงกว่าๆ วันเสาร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม
นักศึกษาที่ถูกคุมขังใน สน.ปทุมวันราว ๓๔ คน ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหา
เพียงแต่ทุกคนต้องเขียนบันทึกว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองอีก
(โดยไม่ต้องลงชื่อกำกับ)
หลังจากที่มีแรงกดดันจากเพื่อนนักศึกษาและประชาชนไปรวมตัวกันหน้า สน.ปทุมวัน
จำนวนมาก อีกทั้งมีการรณรงค์ผ่านสื่อโซเชียลโดยสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย แถลงการณ์โดยคณะทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
และองค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องกันอย่างพร้อมเพรียงให้ทางการปล่อยตัวนักศึกษา
มีเหตุคู่ขนานของความอัปลักษณ์และประทับใจเกิดขึ้นไม่น้อยเลยในช่วงไม่ถึง
๒๔ ชั่วโมง
ส่วนหนึ่งของความอัปลักษณ์ :
หากแต่มียิ่งกว่านั้น :
สุนัย ผาสุก (Sunai @sunaibkk) เจ้าหน้าที่องค์การสิทธิมนุษยชน Human Rights Watch เขียนข้อความไว้บนทวิตเตอร์ว่า "นักศึกษาที่ถูกจับที่หน้าหอศิลป์
กทม.บอก HRW ว่า
เจ้าหน้าที่เข้าชาร์จ-ทำร้ายร่างกาย ต่อย,เตะ,เหยียบอก,บีบอวัยวะเพศ,รัดคอ,กระชากผม"
ทางด้านนักศึกษากลุ่มดาวดินที่ขอนแก่น ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่วางหลักประกันคนละ ๗,๕๐๐ บาท เนื่องจากถูกตั้งข้อหาความผิดฝ่าฝืนประกาศคณะรัฐประหารฉบับที่ ๗ ห้ามชุมนุมทางการเมือง
ก่อนหน้านั้น :
ผู้ถูกคุมขังคนหนึ่งเขียนแถลงการณ์ด้วยลายมือบนฝากล่องโฟมส่งออกมาจากในคุก
ภายนอก บริเวณหน้าสถานีตำรวจมีชาวบ้านนามูลและดูนสาดไปเฝ้ารอให้กำลังใจพวกนักศึกษาที่ถูกคุมขัง รวมทั้งพากันไปหย่อนแผ่นกระดาษความเห็นใส่ตู้ที่ทางการตั้งไว้รับ แต่เมื่อมีคนไปหย่อนความเห็นกันมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจขอนแก่นได้มายกเอาตู้ความเห็นนั้นหลบไปเสีย
เช่นกัน กลุ่มเยาวชนสังคมนิยมประชาธิปไตย หรือ YPD ซึ่งถูกห้ามจัดเสวนาเรื่อง 'สิทธิชุมชน เสรีภาพ และการศึกษา' ภายในห้องประชุมอนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลาฯ แล้วยังดำเนินกิจกรรมกันต่อในบริเวณภายนอกหน้าอนุสรณ์สถาน ถูกตำรวจนำขึ้นรถกระบะไปควบคุมตัวที่ สน.ชนะสงคราม ก็ได้รับการปล่อยตัวในวันต่อมาเช่นกัน
สำหรับความประทับใจในเหตุการณ์อัปลักษณ์ไม่มีใดอื่นนอกไปจาก ความองอาจแกร่งกล้าของนักศึกษาและเยาวชนเหล่านี้ ที่ไม่เพียงแต่มั่นคงในหนทางประชาธิปไตยแล้วยังมั่นใจในสิทธิมนุษยชนแห่งตน อีกทั้งหลังจากได้รับการปล่อยตัวแล้วหลายคนยังคงประกาศปณิธานยืนยันว่า จะไม่ยอมรับรัฐประหารตลอดไป