ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับรายงานตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค. ยังคงติดลบอยู่ที่ประมาณ 4% กว่าๆ แต่ถือว่าเป็นการติดลบที่น้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนก.พ. ที่ติดลบ 6.14% เนื่องจากการที่ส่งออกติดลบยังมาจากสาเหตุของการส่งออกที่ลดลงของยางพารา และราคาน้ำมันที่ลดลง ซึ่งส่งผลให้ 3 เดือนแรกของปีนี้ส่งออกติดลบประมาณ 4% กว่าๆ
"วันที่ 28 เม.ย.นี้ ปลัดกระทรวงพาณิชย์จะแถลงสถานการณ์ตัวเลขส่งออกอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และจะชี้แจงการปรับประมาณการเป้าหมายส่งออกทั้งปีของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวเลขลงมา และน่าจะขยายตัวได้ประมาณ 1% จากเป้าหมายเดิมกำหนดไว้ที่ 4% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า, ราคาน้ำมันที่ลดลง"
อย่างไรก็ตาม หลังไตรมาสแรกผ่านไป ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณเชิงบวกดีขึ้น และมีแนวโน้มว่าการส่งออกเริ่ม
ติดลบน้อยลง คาดว่าในช่วงไตรมาส 2 และ 3 การส่งออกจะไต่ระดับมาดีขึ้น กระทรวงพาณิชย์พยายามหาทาง ผลักดันการส่งออก สินค้ากลุ่มต่างๆ 10 กลุ่มสินค้า และ 1 รายตลาด ซึ่งจะสรุปออกมาเป็นแผนในการกระตุ้น ส่งออกภายในเดือนพ.ค.นี้ แล้วจะเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมทันทีในเดือนมิ.ย.
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตัวเลขส่งออกไตรมาสหนึ่ง ที่คาดว่าติดลบ 4% เป็นไปตามที่เอกชนคาดการณ์ไว้แล้วว่าจะติดลบประมาณ 4-5% ซึ่งช่วง 3 เดือนแรกน่าจะเป็นช่วงที่แย่ที่สุดของการส่งออกไทย เนื่องจากผลพวง จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงทำให้การส่งออกสินค้ากลุ่มน้ำมันสำเร็จรูป เม็ดพลาสติก ยางพารา และผลิตภัณฑ์ยาง ติดลบหมดทุกตัวเฉลี่ยที่ 4-5%
ด้านนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการส่งออกในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนมีสัดส่วน 13% ของการส่งออกทั้งหมด และยังสามารถขยายตัวได้ดี สะท้อนจากยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ในเดือนมี.ค. มียอดส่งออก ถึง 127,619 คัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่มี
ooo