อเมริกาฉลองวันชาติ ๔ กรกฎาปีนี้ ด้วยฉากหลังบรรยากาศการเมืองที่แปลกไป จากอุดมคติของการประกาศอิสรภาพเมื่อปี ค.ศ.๑๗๗๖ ดังภาพการ์ตูนล้อที่เปรียบเทียบปีนั้น เป็นการปฏิเสธระบอบกษัตริย์ แต่ปีนี้กลับสถาปนามันขึ้นมาใหม่
อันเนื่องมาแต่คำตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐ ให้สิทธิพิเศษปลอดจากการถูกดำเนินคดีบางกรณี แก่อดีตประธานาธิบดี ดอแนลด์ ทรั้มพ์ โดยเฉพาะในส่วนที่เขากระตุ้นให้ผู้สนับสนุนยกขบวนกันไปยังตึกรัฐสภา เพื่อยับยั้งการประกาศชัยชนะของ โจ ไบเด็น
เหตุการณ์รุนแรงที่เอ่ยถึงกันในชื่อ ‘แจนยูอารี่ ๖’ วันที่เกิดการบุกเข้าไปในสภาก่อความเสียหายมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บนั้น ศาลกรุงวอชิงตันอยู่ระหว่างดำเนินคดีกับทรั้มพ์ หลังจากผู้สนับสนุนของเขาที่ก่อเหตุร้าย ถูกพิพากษาความผิดไปแล้วหลายคน
สิทธิพิเศษ ‘immunity’ ที่ทรั้มพ์ได้รับครั้งนี้ทำให้เขาเหลิง ประกาศว่าถ้าการเลือกตั้งที่จะมาถึงปลายปีนี้ เขาได้คะแนนสู้คู่แข่งไม่ได้อีก ก็จะจัดการประท้วงเพื่อยกเลิกผลเลือกตั้งนี้อีกครั้ง คอลัมนิสต์การเมืองบางคนชี้ว่านี่คือการสถาปนา ‘คิงทรั้มพ์’ นั่นเอง
เสียงวิจารณ์ต่อการตัดสินของศาลสูงสุดก็ไม่เบาเช่นกัน เนื่องจากศาลชุดนี้เต็มไปด้วยผู้พิพากษาสายอนุรักษ์นิยม ซึ่ง ๓ ใน ๙ คน ทรั้มพ์เป็นผู้แต่งตั้ง ผู้พิพากษาขวาจัดสองคน คือแคลเร้นซ์ ธอมัส กับ แซมมวล อลิโต้ ออกตัวแรงกว่าเพื่อน
ภรรยาของธอมัสนั้นเล่นการเมืองหลังบ้านอย่างแข็งขัน จัดประชุม รณรงค์หาทุนทำกิจกรรมให้ฝ่ายขวา ถูกสื่อเปิดโปงแต่ก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ เพราะที่ผ่านมายังไม่มีใครปักใจเอาเรื่องจริงๆ จนกระทั่งการประดับภูมิคุ้มกันแก่ทรั้มพ์ดังกล่าวข้างต้น
เรื่องนี้สมาชิกสภาสาวจากเขตมหานครนิวยอร์ค อเล็กซานเดรีย อ็อคคะสิโอ-คอร์เทซ หรือ ‘เอโอซี’ ไม่ยอมปล่อยหายเป็นคลื่นกระทบฝั่งอีกต่อไป เธอประกาศว่าจะเสนอญัตติ ‘Impeachment’ ประจานความผิดและถอดจากตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูง
เธอบอกว่าคำพิพากษาศาลเซาะกร่อนแก่นกลางใจของรัฐธรรมนูญอเมริกัน ที่บอกว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” เช่นกันกับผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนฯ (เฮ้าส์) ฮาคีม เจ็ฟฟรี่ส์ ที่บอกว่าคำประกาศอิสรภาพต้องการให้มีประชาธิปไตยภายใต้หลักกฎหมาย
“ไม่มีใครมุ่งมาตรให้ประเทศเราปกครองโดยกษัตริย์หรือราชวงศ์ ผู้ที่จะทำอะไรก็ได้ด้วยสิทธิพิเศษปลอดจากการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี” ในปัจจุบันมีชื่อเรียกกันว่า #ImperialPresidency หรือ ‘จักรพรรดิ์ประธานาธิบดี’