ต้นเรื่องมาจากคุณหมอแกตรวจคุณลุงคนไข้รายหนึ่ง ซึ่งต้องเปลี่ยนสถานที่รักษาจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ ไปเป็นโรงพยาบาลสงขลา “ตามนโยบายจังหวัดในการลดความแออัดของโรงพยาบาลหาดใหญ่ ที่ให้ผู้ป่วยอำเภอสะบ้าย้อยขยับไปส่งต่อที่โรงพยาบาลสงขลาแทน”
หมอก็เป็นห่วงว่าเปลี่ยนโรงพยาบาลแล้วคนไข้จะต้องเดินทางลำบากหรือไม่ “เพราะระบบรถประจำทางเข้าเมืองในตอนนี้แทบจะล่มสลายไปหมดแล้ว” ลุงคนไข้ตอบว่าไม่เป็นไรครับ จากสะบ้าย้อยจะไปหาดใหญ่หรือสงขลา ก็ต้องเช่าเหมารถไปเหมือนกัน
ถามว่าค่าเช่าเท่าไร ระยะทางระหว่างสะบ้าย้อยกับสงขลาหรือหาดใหญ่ราวๆ ๑๐๐ กว่ากิโลพอกัน คุณลุงตอบว่าสองพันบาท ซึ่งแพงมาก เป็นเพราะ “ค่าน้ำมันรถไปกลับก็เกือบพันบาทแล้วหมอ เขาก็ต้องเสียเวลารอเราอีก ไปแต่เช้ามืดกว่าจะเสร็จก็บ่าย ๆ เย็น ๆ ถึงบ้านก็ค่ำ
เขาไปส่งก็ดีแล้ว หาคนไปส่งก็ไม่ง่ายนะ เสียเวลาทั้งวัน” แต่ในความเห็นของหมอสุภัทร “นี่เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากของคนบ้านนอกอยู่ดี เป็นต้นทุน indirect cost ที่คนบ้านนอกต้องจำยอมจ่าย แม้บัตรทองจะรักษาฟรี" แต่ระบบขนส่งไม่ช่วยอำนวยด้วย
มันจึงวกเข้าไปสู่ปัญหาพลังงานในประเทศไทยราคาแพงเกินจริง เนื่องจากอุตสาหกรรมประเภทนี้ถูกผูกขาดโดยเจ้าสัวไม่กี่ราย และเป็นที่เกรงอกเกรงใจของฝ่ายรัฐที่มีเพื่อนมากทางการเมือง จนทำให้สามารถตระบัดสัตย์ ข้ามขั้วเข้าไปครองอำนาจได้