เบี้ยร่ายปลายทางจนมาถึงจุดนี้ ผบ.ตร.แจ้งว่า “มือยิงป่วยจิตเวชและขาดยา” เคยรักษาโรงพยาบาลราชวิถี แต่อธิบดีกรมสุขภาพจิตบอก “ด.ช.ก่อเหตุไม่มีประวัติรักษาในกรมฯ” กระนั้น “จะควบคุมตัวเด็กส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อทำการไต่สวน”
เจ้าของร้าน ‘take toys’ ซึ่งลูกจ้างชาวเมียนมาร์ถูกยิง กระสุนเข้าคอ ๑ นัด ด้านหลัง ๒ นัด ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล บอกจะเอาเรื่องถึงที่สุด ฟ้องอาญาไม่ได้ก็จะฟ้องแพ่ง “ไม่สนหรอกว่าเป็นเด็กหรือเปล่า” เอาเงินไปเยียวยาครอบครัวผู้ตายทุกเดือนละหมื่น
ผู้เสียชีวิตอีกคนเป็นหญิงนักท่องเที่ยวชาวจีน มีลูกสาวแฝดเล็กๆ สองคนเดินตามหาแม่ในมอลล์นั้น โดยไม่รู้ว่าแม่เสียชีวิตไปแล้ว ผู้เคราะห์ร้ายได้รับบาดเจ็บ ๔ ราย อยู่โรงพยาบาลจุฬา ๓ ราย หนึ่งในนั้นเป็นหญิงไทยอาการสาหัส นอกนั้นปลอดภัย
ด้านรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ดี๊ด๊า ไปสอบสวนเด็กชายผู้ก่อเหตุถึงสยามพารากอน แต่เสียงจากผู้รู้หลักการอาชญวิทยาบอก เผือกไม่เข้าท่า ไม่ใช่เรื่อง พร้อมด้วยคอมเม้นต์ต่างๆ นานาเกลื่อนโซเชียลมีเดีย รวมทั้งที่ว่า “มีคนจีนไปโพสต์พร้อมรูป
เคยเจอคนร้ายที่สนามยิงปืน ไปซ้อมยินปืนอย่างน้อยยิงไปมี ๑๐๐ กว่านัดวิธีการยิงไม่น่าเชื่อว่าจะอายุ ๑๔” อีกทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับเด็กคนนี้ออกมาหมดแล้ว ว่าพ่อแม่เป็นอาจารย์มหา ’ลัยทั้งคู่ ให้เด็กเรียนภาษาอังกฤษแต่เล็ก
(อันนี้เราเผือก) ถ้าเด็กช่ำชองเรื่องอาวุธปืนก็น่าจะได้รับแรงดลใจจากสื่อสารออนไลน์ในหมู่เด็กอเมริกัน ที่เด็กวัยนี้ก่อเหตุกราดยิงบ่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นโรคจิตถึงขั้นต้องรับการรักษาเป็นประจำเสมอไป ปืนที่ใช้ยิงเป็นปืน ‘กล็อค’ ฮิตในหมู่เด็กกราดยิงในอเมริกา
แล้วก็ รปภ.ของห้างคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ไทยรัฐว่า “คนร้ายไม่ได้มีอาการหลอนอะไรเลย ชักปืนขึ้นมายิง รปภ. แต่ไม่โดน แล้วเดินหาเป้าหมายต่อไป” นี่เป็นข่าวแบบ Sensational ของไทย โปรดรับทราบด้วยวิจารณญาน
(https://twitter.com/oonginlavender/status/1709398640182341804, https://twitter.com/joe_black317/status/1709416921245135330 และ https://matichon.co.th/local/quality-life/news_4213876)
