วันพุธ, ตุลาคม 04, 2566

เกี่ยวกับ ‘หยก’ อีกสักครั้ง จากคำของ บุ้ง ทะลุวัง “มันแสดงถึงความเป็นตัวของตัวเองของหยก มิใช่ถูกครอบงำ หรือล้างสมองแต่อย่างใด”

เกี่ยวกับ หยก อีกสักครั้ง แม้นว่าหลายๆ ท่านที่เคยใส่ใจอาจจะลืมๆ ไปบ้างแล้วในตอนนี้ มีอะไรอื่นเข้ามาแทรก มาแทน ความจริงคงอยู่ที่ น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย ยังไม่ได้เข้าเรียนที่ ตอ.พัฒนาการ ตามความต้องการของตน

และสำหรับคำแนะนำที่ว่าก็ไปหาที่อื่นเรียนสิ มันมีช่องทางอื่นใช่จะสิ้นไร้ ฉะนั้นการต่อสู้ของหยกที่ผ่านๆ มาลืมเสียเถิดละหรือ สังคมไทยถือหลักอย่างนี้ใช่ไหม เมื่อไม่ได้ก็แล้วไป มันถึงได้วนลู้ปมาถึงวันที่ตระบัดสัตย์เพื่อให้ประเทศเดินหน้า

มันเป็นแบบนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ประเทศได้เดินต่อ แต่เส้นทางไม่ได้ตรงไปข้างหน้า ทว่ามักลดเลี้ยววกวนตลอดมา และดูเหมือนว่าจะตลอดไปอย่างน่าสิ้นหวัง ถึงอย่างนั้นเกี่ยวกับหยก มีบางอย่างที่เพิ่งเปิด อันช่วยให้เข้าใจชัดเจนขึ้น

ประชาไท สัมภาษณ์ บุ้ง ทะลุวัง หรือ เนติพร เสน่ห์สังคม อย่างละเอียดมากทีเดียวทั้งเกี่ยวกับตัวเธอเองและเกี่ยวกับหยก ขอตัดตอนเอาเฉพาะที่พัวพันหยกมาทำซ้ำ ด้วยเห็นว่ามันแสดงถึงความเป็นตัวของตัวเองของหยก มิใช่ถูกครอบงำ หรือล้างสมองแต่อย่างใด

“มีหลายๆ คนที่พูดว่าบุ้งได้ประโยชน์จากหยก จะเล่าให้ฟังเลยว่าหยกเขาขอมาอยู่กับบุ้งตั้งแต่ตอนอยู่ในเรือนจำ...ทุกบาททุกสตางค์ที่ดูแลน้อง ก็เป็นเงินของบุ้งที่ทำงานกับแฟนทำงานมา...เงินที่เลี้ยงหยก...ทุกวันนี้ก็ไม่ได้มีใครให้บุ้ง”

ประโยชน์ที่บุ้งได้รับจากหยกมันก็คงจะเป็นความหวังมั้ง ในทุกๆ วันที่บุ้งตื่นมาแล้วแบบ โห ทำไมเด็กคนนี้เก่งจังเลย ทำไมเขาไม่สะทกสะท้านอะไรเลยกับคำวิจารณ์ที่สังคมกล่าวหาเขา...ขณะเดียวกันหยกก็ยังยืนอยู่ได้อย่างกล้าหาญ

หยกก็ยังเป็นเด็กที่น่ารัก แล้วทุกวันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันก็ยังเห็นว่าเค้าร่าเริงมีความหวังในทุกๆ วัน ก็รู้สึกว่าเออ เขาเก่งจังเลยแล้วบุ้งก็ได้กำลังใจดีๆ จากเขา...สิ่งที่เขาควรทำคือควรจะตั้งคำถามกับระบบ ควรจะตั้งคำถามกับโรงเรียนมากกว่า”

บุ้งอ้างว่าระเบียบที่โรงเรียนงัดมาใช้ตัดสิทธิของหยก คือ พรบ.ผู้ปกครอง ซึ่งก็ระบุไว้ “จะต้องเป็นบุพการีหรือเป็นเจ้านายในที่ทำงานก็ได้ หรือเป็นคนที่อุปการะเลี้ยงดูอยู่...คือบุ้งก็เป็นผู้ปกครองตามกฎหมายแล้วเหมือนกัน บุ้งก็สามารถมอบตัวได้”

เขามีความพยายามมาตั้งแต่น้องโดน ๑๑๒ แล้วว่าจะไม่รับมอบตัวน้อง...มันเป็นเรื่องของมาตรา ๑๑๒ ที่น้องโดนต่างหากที่ทำให้แต่ละคนกลั่นแกล้งน้องกันขนาดนี้...ณ ตอนนั้นเราก็สู้กันจนกระทั่งน้องได้มอบตัว แล้วมาถึงวันนี้เขาก็ไล่หยกออกอีก”

บุ้งมองว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่ยุติธรรมกับหยก เค้าเป็นเด็กตัวเล็กๆ...แต่ใจเขาใหญ่มากแล้วเขากล้าหาญที่จะลุกขึ้นต่อกรกับทุกอำนาจที่ไม่ยุติธรรม คือ คุณควรจะสนับสนุนและให้กำลังใจเขามากกว่า ไม่ว่าวิธีการที่เขาทำจะก้าวร้าวหรือไม่”

(https://prachatai.com/journal/2023/10/106181)