วันพุธ, ตุลาคม 25, 2566

มติวิปรัฐบาล ไม่ยอมฝ่ายค้าน งัดเรื่องลิง-ช้าง มาแทรกคิว ญัตติประชามติ แก้รัฐธรรมนูญ


มติวิปรัฐบาล ไม่ยอมฝ่ายค้าน งัดเรื่องลิง-ช้าง มาแทรกคิว ญัตติประชามติ แก้รัฐธรรมนูญ

วันที่ 24 ตุลาคม 2566
มติชนออนไลน์

‘วิปรัฐบาล’ มีมติแทรกเรื่องน้ำ ดิน ลิง ช้าง ปาดหน้าญัตติทำประชามติฝ่ายค้าน อ้าง คกก.ศึกษาประชามติฯ ทำงานไปไกลแล้ว โวสภาทำงานเยี่ยมให้เอบวก

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยภายหลังการประชุมวิปรัฐบาลว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธที่ 25 ตุลาคม จะมีการเลื่อนระเบียบวาระอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน เกี่ยวกับเรื่องน้ำ ดิน เรื่องลิง เรื่องช้าง ที่สร้างความเสียหายขึ้นมา

ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับการทำประชามติเห็นว่าขณะนี้รัฐบาลกำลังทำงานอยู่ โดยตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 หากสภาให้บรรจุระเบียบดังกล่าวอาจจะเป็นการขัดแย้งกับคณะทำงานของรัฐบาลได้ เนื่องจากผลการหารือที่เกิดขึ้นในสภาก็ยังไม่สามารถส่งถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ เพราะต้องผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาก่อน แต่ตอนนี้ ครม.ทำงานไปไกลพอสมควร และที่ผ่านได้มีการเชิญตัวแทนพรรคก้าวไกลร่วมคณะทำงานด้วย แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ จึงเห็นว่าควรทำญัตติอื่นมาพิจารณา คาดว่าไตรมาสแรกของปีใหม่เรื่องการทำประชามติของคณะกรรมการจะสำเร็จ

เมื่อถามว่า มีการประสานไปยังวิปฝ่ายค้านหรือไม่ เนื่องจากเป็นญัตติแรกที่พรรคฝ่ายค้านเสนอขึ้นมา นายอดิศรกล่าวว่า ทางวิปรัฐบาลได้วิเคราะห์อย่างรอบคอบแล้วว่าเรื่องนี้มีความขัดแย้งกันอยู่ เนื่องจากจะมีการทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่วิปรัฐบาลเห็นว่าเราไม่ควรไปแตะต้องหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่ยากจะตกลงกันได้ ส่วนจะเป็นข้อถกเถียงกันในสภาหรือไม่นั้น การถกเถียงเป็นเรื่องธรรมดา เพราะสภาเป็นที่ถกเถียงกัน หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องการวิธีการโหวต

เมื่อถามต่อว่า วิปฝ่ายค้านจะมองว่าเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายอดิศรกล่าวว่า ฝ่ายค้านมองเป็นเกมการเมืองตลอด ที่ผ่านมาเรื่องเด็กไร้สัญชาติก็ทำไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ว่าคว่ำญัตติ ซึ่งความจริงมติดังกล่าวส่งไปที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ตนจึงเรียกร้องให้ฝ่ายค้านพิจารณาในการสื่อการให้ตรงตามความเป็นจริง เพราะสภานี้ไม่ใช่ของฝ่ายค้านฝ่ายเดียว

นายอดิศรยังประเมินถึงการทำงานของสภาที่จะมีการปิดสมัยประชุมในสัปดาห์หน้าว่า หากจะให้มีการประเมินการทำงานในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ ตนให้เอบวก แม้จะพลาดพลั้งสภาล่ม 1 ครั้ง เนื่องจากเราตั้งตัวไม่ทัน แต่ภายหลังฝ่ายรัฐบาลมีความสามัคคี อยู่ในที่ประชุมจนวินาทีสุดท้าย การที่จะล่มอย่างที่ผ่านมาคงไม่มี และขอชมเชยทางฝ่ายค้านที่ทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง เป็นตัวอย่างที่ดีให้ประชาชนว่าสภาเป็นที่แก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างแท้จริง ตนให้เอบวกเท่ากัน

เมื่อถามถึงการทำงานของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภา คนที่ 1 นายอดิศรปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น แต่ขออวยพรให้ท่านทำหน้าที่ด้วยความปลอดภัยและสะดวก นำพาการประชุมของสภาไปสู่ความสำเร็จทุกประการ