วันอาทิตย์, ตุลาคม 29, 2566

วิชาทหารคืบเข้าเป็นวิชาประจำในมหาวิทยาลัยแล้ว “ถ้าจะลงเก็บ A ก็แนะนำเลย แต่ความรู้ก็คือ 0 อะจ้า”

ถ้าเรียกให้ทันสมัยก็ต้องว่า นี่เป็น พลังละมุนหรือ ‘Soft power’ ของฝ่ายทหารต่อสังคมไทย แต่เมื่อดูการคืบเข้าไป ๆ ในชีวิตของประชากร แทบทุกซอกทุกมุม คงเป็น บีบขาย หรือ ‘Hard sell’ เพราะเดี๋ยวนี้วิชาทหารเข้าไปฝังอยู่ในมหาวิทยาลัยแล้ว

อันนี้ไม่ได้อ้างถึง หลักสูตรรักษาดินแดน หรือ รด. ที่นักศึกษาต้องเลือกเรียนถ้าไม่อยากถูกเกณฑ์ทหารกลางคันระหว่างอยู่ในมหาวิทยาลัย แต่เป็นวิชาหลักซึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างจุฬาลงกรณ์ จัดไว้ให้เลือกเรียนถึง ๒ วิชา

คือวิชา การพัฒนาความมั่นคงแห่งชาติ และ Military science (ศาสตร์การทหาร) Thanapol Eawsakul นำเรื่องราวเกี่ยวกับการสอนวิชาทหารในมหาวิทยาลัยนี้มาแพร่ จากการรีวิวของ เด็กสามย่าน บางคน หลักใหญ่ที่เลือกลงกัน “เพื่อเอาเกรด...เนื้อหาไม่ยาก”

สำหรับศาสตร์การทหาร “งานสบายๆ ให้เขียนว่าได้อะไรจากการเรียนอาทิตย์นั้นๆ แล้วก็ส่งลงกูเกิ้ลไดรฟ์...ทุกคนก็ก็อปๆ คำกันแล้วก็ส่ง บางคนโหลดไฟล์เพื่อนที่ส่งแล้วเอามาเปลี่ยนชื่อส่งก็มี” การสอบมีสองหน ภาคกลางกับภาคปลาย

“ปลายภาคนี่เค้าจะบอกข้อสอบแล้วก็บอกคำตอบในห้องก่อนเลย ให้เวลาจำ ๓๐ นาที แล้วก็เริ่มสอบ แต่ความทรมาณของวิชานี้นั่นคือการต้องไปเข้าค่าย ๒ ครั้ง...ก็ต้องไปทำนู่นนี่ตามที่เค้าจัดตารางไว้ให้ ส่วนใหญ่ก็คือไปนั่งดูนั่นนี่ ดูเค้าซ้อม”

ประการสำคัญ “อีเข้าค่ายนี่เค้าพูดอ้อมๆในห้องว่า ใครที่ไม่ไปจะไม่ได้ A ถ้าจะลงเรียนวิชานี้ก็ต้องเตรียมใจไปค่ายด้วยหนีไม่ได้ โดยรวมแล้วเราลงกับเพื่อนหลายคน ทุกคนก็ได้ A หมด ถ้าจะลงเก็บ A ก็แนะนำเลย แต่ความรู้ก็คือ 0 อะจ้า”

ส่วนวิชาการพัฒนาความมั่นคงแห่งชาติ “อาจารย์เป็นทหารมาสอนทุกคาบ...มีการสอบมิดเทอม/ไฟนอลเป็นช้อย ก่อนสอบมีติวให้แบบแม่นๆ...มีการไปทริป ๒ วัน ๑ คืน ทั้งหมด ๒ ครั้งช่วงหลังมิดเทอม มีค่าใช้จ่ายเพิ่มก็คือไปทัศนศึกษาเกี่ยวกับ ทหารบก เรือ อากาศ”

อันนี้มีอีกคนรีวิวด้วย “มีไปทัศนศึกษาสามครั้ง ครั้งแรกไป อนุสรณ์สถานแห่งชาติ...อีกสองครั้งไปดูงานของทหารอากาศควบกับทหารบก แล้วก็ทหารเรือ...ถ้าโชคดีจะได้เล่น Flight Simulator ด้วย โดยรวมก็เหมือนงานวันเด็กแบบพรีเมี่ยม”

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/v8vBBcW8CD2)