วันพุธ, ตุลาคม 25, 2566

“ปีกอันเสรีของนกตัวนั้นได้บินไปในใจของผู้คนแล้ว” อานนท์ นำภา เขียนจากแดนสี่

ตั้งแต่ อานนท์ นำภา เข้าไปอยู่ในคุก และถูกปฏิเสธการให้ประกันปล่อยตัว เพราะเป็นคดีวิเศาของประเทศนี้ ข้อหาอาญา ม.๑๑๒ เขาเขียนจดหมายหรือเนื้อหาออกมาสู่ภายนอกหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวสิทธิมนุษยชน และความเป็นไปภายในนั้น

แต่ครั้งนี้ เมื่อ ๒๓ ตุลา เขาเขียนถึงลูกรักทั้งสอง ปราณและอิสรนนท์ เนื่องในโอกาสถูกย้ายจากแดนแรกรับไปยังแดนสี่ ที่เขาบอกว่า “คุ้นเคยดี” เพราะเคยอยู่ที่นั่นมาแล้วเมื่อปี ๒๕๖๔ เป็นเวลา ๗ เดือน แต่เรื่องเล่าครั้งนี่เกิดจากที่เห็นในแดนแรก

เป็นจดหมายที่บรรจุเนื้อความหลักอันเป็นปรัชญาชีวิตควรแก่การใส่ใจและจดจำ ไม่เฉพาะต่อตัวเขา ลูกๆ มิตรสหาย หรือใครก็ตามที่ความไม่เป็นธรรมในสังคมยัดเยียดความทุลักทุลี กดดัน และเศร้าหมอง ให้แก่การดำรงชีวิต แต่กับคนทั่วไปไว้ใช้เป็นอุทธาหรณ์

ระหว่างอยู่แดนแรกช่วงเช้ารอเวลาไปศาล เขามักนั่งมองฝูงนกราว ๒๐๐ ตัว “บินโฉบลงมาพร้อมกันและเดินหากิน...ที่สนามในแดน” เขาสังเกตุมีนกตัวหนึ่งไม่ได้เดินเที่ยวจิกกินจากพื้นดินเหมือนพวกเพื่อนในฝูง แต่ว่ามันจะใช้การกระโดดและบินเป็นช่วงๆ

เมื่อสังเกตุนกตัวนั้นอย่างพินิจจึงเห็นว่า มันมีขาอยู่เพียงข้างเดียว พลันความคิดคำนึงและจิตวิญญานของเขา ก็ผุดเนื้อหาปรัชญาเอามาเขียน “บางทีสิ่งที่ขาดก็ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่มี” ประโยคนี้ทำให้เขานึกถึงตัวเองเปรียบเปรย

“แม้ขาของมันจะพิการ มันยังคงดำเนินชีวิตตามวิถีของมันตามสิ่งที่มันมี ไม่ได้ท้อแท้ในสิ่งที่มันขาด” เขาเองเหมือนนกตัวนั้น “แม้ตอนนี้...ไม่มีอิสรภาพ แต่ความคิดความฝันอันงดงาม...ได้โบยบินไปไกลแสนไกล” นี่คือความสมบูรณ์ของมัน

“ปีกอันเสรีของนกตัวนั้นได้บินไปในใจของผู้คนแล้ว ถ้าลูกทั้งสองเห็นนกสักฝูงที่โบยบินบนฟากฟ้า ให้พวกเธอจงนึกถึงคำของพ่อว่า บางสิ่งที่ขาดก็ไม่สำคัญเท่าสิ่งที่มีจงใช้ชีวิตเหมือนนกตัวนั้น นกแห่งเสรี

(https://www.facebook.com/permalink.php?story29Nnmk25BY100000942179021)