ข่าวที่ออกทาง ‘ช่องวัน’ @onenews31เมื่อแรกนั่นเป็นคำชี้แจงจากศาลว่า “ประตูไม่ได้ปิด ไม่ได้ล็อก แต่เยาวชนหญิงเลือกปีนรั้วเข้ามา ตำรวจศาลเห็นเลยห้ามปราม” เมื่อได้ดูคลิปจากหลายช่องทาง กรณีประตูไม่ได้ล็อคไม่เกี่ยว
เพราะพวกทะลุวังไปปีนรั้วจุดที่ตรงกับหน้าต่างห้องที่คุมขังอดีต ‘สามเณรโฟล์ค’ สหรัฐ สุขคำหล้า ผู้ต้องหาคดี ม.๑๑๒ และที่ว่าตำรวจศาลเข้าไปห้ามปรามก็ให้ข้อเท็จจริงไม่หมด ในเมื่อตำรวจนายนั้นซึ่งต่อมาใช้ดิ้วเหล็กตีบุ้ง เข้าไปจับต้องดึงตัวหยก
เป็นเหตุให้ต่อมา เนติพร เสน่ห์สังคม เดินเข้าไปต่อว่าต่อขานตำรวจนายนั้น ซึ่งตั้งการ์ด มือขวากำดิ้วเหล็กปราบจลาจลไว้บนไหล่ขวา เดินถอยขณะบุ้งก้าวเข้าไปชี้หน้าด่า จนถึงเตะออกไปด้วยขาขวาถูกบริเวณหน้าแข้งตำรวจนายนั้น
ทันควันตำรวจตีกลับแนวหัวเหนือกกหู ซึ่งบุ้งยกแขนซ้ายรับไว้ เห็นเลือดอาบในภายหลัง ตีเสร็จแล้วตำรวจนายนั้นยังถลำเข้าไปผลักอกบุ้งอย่างแรง แล้วถอยพร้อมกับขู่ต่อไปว่า อย่าเข้ามา ๆ แถลงข่าวของ ‘สิ่อศาล’ ระบุตรงข้ามว่า
“บุคคลที่ได้กระชากคอเสื้อเจ้าพนักงานตำรวจศาลก่อนหน้านั้น ได้เดินเข้ามาผลักหน้าอกเจ้าพนักงาน...เจ้าพนักงานตำรวจศาลจึงใช้กระบองขู่ แต่ก็ไม่หยุดและยังเดินเข้าหาเจ้าพนักงานตำรวจศาลจึงใช้กระบองตีเพื่อระงับเหตุและป้องกันตัว”
เมื่อศาลให้ข้อมูลปรักปรำขนาดนั้น บุ้งจึงออกแถลงของกลุ่มทะลุวังเล่าเหตุการณ์จากมุมของฝ่ายตนบ้าง “หยกและบุ้งถูกขัดขวางไม่ให้เยี่ยมโฟล์ค เลยไปตะโกนให้กำลังใจอยู่บริเวณข้างรั้วศาล เจ้าหน้าที่สองนายเดินเข้ามาพยายามดึงหยกออก...
ตำรวจพยายามจับตัวบุ้ง ให้จึ้นไปบนห้องโถงศาลชั้นสี่ โดยอ้างว่าท่านผู้พิพากษาเรียกไปไต่สวน บุ้งไม่ยอมเพราะจะต้องไปทำแผล เนื่องจากมีอาการเจ็บแขนมากและเลือดไหลไม่หยุด มีความพยายามกีดกันจากเจ้าหน้าที่ศาลและตำรวจไม่ให้บุ้งไปโรงพยาบาล”
ในแถลงของศาลกลับบอกว่า “กลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างว่าจะไปทำแผล และเดินออกไปจากศาลทั้งหมด ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจท้องที่เห็นว่าเป็นสิทธิที่จะไปรักษาตัว จึงมิได้ห้ามปรามและขัดขวางแต่อย่างใด” ทว่าสิ่งหนึ่งที่บุ้งเขียนถึง แต่ไม่ปรากฏในรายงานตำรวจ
“อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มือบีบบนหน้าอกบุ้ง บุ้งกำลังพิจารณาว่าถ้าหายบาดเจ็บแล้ว จะไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีอย่างแน่นอน”
(https://prachatai.com/journal/2023/10/106428 และ https://twitter.com/onenews31/status/1714984895423115504)
