วันอังคาร, ตุลาคม 24, 2566

ความดังหนัง ‘สัปเหร่อ’ รายได้เกิน ๕๐๐ ล้าน เท่านั้นไม่พอ ศปปส.เห็นความสำคัญ จ่อฟ้อง ม.๑๑๒

ความดังหนัง สัปเหร่อ ไม่เพียงฉายเกือบ ๒๐ วัน รายได้กว่า ๕๐๐ ล้านบาทแล้ว ทว่า อานนท์ กลิ่นแก้ว แกนนำ ศปปส. กลุ่มปกป้องสถาบันฯ ให้ความสำคัญ จะไปแจ้งความ ต้องเตผู้กำกับฯ และเขียนบท ในข้อหา ม.๑๑๒

ธิติ ศรีนวล ออกรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอรับว่า “เซอร์ไพร้ส์” เหมือนใครต่อใครในวงการหนัง ซึ่งตอนนั้นฉายได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ รายได้ก็ปาเข้าไป ๓๐๐ ล้าน เขาเล่าถึงตอนทำเสร็จ (เขาทำเองเกือบทุกอย่าง รวมทั้งใส่เพลงและตัดต่อ)

“ส่งดร๊าฟแรกให้นายทุนดู เขามีคอมเม้นต์มาเยอะมาก ให้เราไปแก้ ดร๊าฟสองก็เลยไม่ส่ง บางจุดก็ไม่แก้” เรื่องของเรื่องก็คือบอกนายทุนว่าเรื่องนี้ ในเครือข่าย จักรวาลไทบ้านลำดับที่ ๖ ได้ร้อยล้านแน่ ตอนเสนอให้ดูจึงใส่ตลกเต็มที่

พอทำจริงก็แบ่งเป็นครึ่งต่อครึ่ง ตลกกับผี มีปรัชญาแฝง นายทุนถึงได้ติติงเยอะมากเมื่อดูดร๊าฟแรก ว่าเรื่องไม่ตรงปก ทำให้ตัว ต้องเต เองก่อนหนังเริ่มฉายคิดไว้ว่า “เจ๊งแน่” ขนาดเตรียมแผนไว้แล้วว่าจะไปหยิบยืมเงินใครบ้างเอาไปใช้หนี้ผู้อำนวยการสร้าง

หนังเรื่องนี้ใช้ทุนน้อยมาก ประมาณสิบล้านกว่าๆ เท่านั้น ตอนฉายสามวันรายได้ ๕๐ ล้านก็ตลึง คิดว่าเพราะปากต่อปาก ไม่มีงบโฆษณา ไม่มีโปรโมชั่น ธิติคิดว่าที่คนนิยมกันมากเพราะหนังบรรจุประเพณีพื้นบ้านอีสานไว้มากมาย คนเห็นคุณค่า


แต่คนอย่าง อานนท์ กลิ่นแก้ว และพวกพ้องห้อยโหนหากินกับสถาบันกษัตริย์ของเขา ย่อมมองไม่เห็น และจากที่ Nithiwat Wannasiri ไปส่องเพจ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันฯรุมสาดเสียเทเสียผู้กำกับฯ กันขนานใหญ่ ว่าเขาเป็น สามกีบ

เมื่อเห็นภาพตอนเขาขึ้นปราศรัยต่อต้านเผด็จการที่มหาวิทยาลัยสารคาม บ้างว่า “ทำหนังโสโครก” รายหนึ่งบอกทำไมไม่มีหน่วยงานไหนเซ็นเซอร์ แต่ที่ทำให้ยิ่งตลกไปกว่าหนัง เป็นรายที่บอกว่า “ที่มันได้เยอะ เพราะคนยังไม่รู้ว่ามันเป็น ๓ กีบ”

แถมทิ้งท้ายด้วยว่า รู้แล้ว “ตอนนี้คงยอดตก (เหลือ) ๕๕๕” เขาลืมเติมคำ ล้านบาท

(https://www.facebook.com/photo?fbid=6663455983740048&set=pcb.6663456677073312 และ https://www.youtube.com/watch?v=XQiN_3LqiaU)