(1)ขอย้อนเล่า! หุ้นไอทีวี จุดตาย "พิธา" ไปไม่ถึงฝันนายก? จากที่ "พิธา" บอกว่า มีกระบวนการคืนชีพไอทีวี พอไปถามว่า ใคร เจ้าตัวไม่ตอบ! ทีมข่าวเราพบว่า มันมีหลายอย่างในกรณีร้องหุ้นไอทีวี สร้างความงงงวย! #หุ้นitv #หุ้นพิธา #พิธา #pptv
— В͏͏ussarin_PPTV (@Bussarin_PPTV) June 11, 2023
(2)เริ่มจาก วันที่ประชุมผู้สื่อหุ้นไอทีวี 26 เม.ย. 66 มีคนชื่อ ภาณุวัฒน์ ถามในที่ประชุมออนไลน์ ว่า บริษัทไอทีวีมีการดำเนินงานเกี่ยวกับสื่อหรือไม่
(3)เอกสารตอบว่า “ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทและมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินนิติบุคคลตามปกติ”
แต่!!ล่าสุดคลิปเสียงที่ #ข่าวสามมิติ เปิด คือ บริษัทยังไม่ได้ดำเนินการใดใด รอคดีสิ้นสุดก่อน
(4)ภาณุวัฒน์ ไม่ได้ถามคำถามเดียว เดี๋ยวไล่เรียงให้อ่าน ยาวมากๆหน่อยนะคะ/แต่ขอมาเรื่องไทม์ไลน์เหตุการณ์ก่อน จากวันที่ ประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี 26 เม.ย.
(5)ถัดจากนั้น 9 พ.ค. "เรืองไกร" ให้ข่าวว่ากำลังจะยื่นร้องเรียนเรื่องหุ้นสื่อ ITV ของนายพิธา ทั้งหมด 42,000 หุ้น
(6)ในวันเดียวกัน มี อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ปัจจุบันอยู่พรรคภูมิใจไทย ชื่อ นายนิกม์ แสงศิรินาวิน ออกมาแสดงความเห็นเรื่องหุ้นสื่อของ "พิธา"
(7)นิกม์ให้ความเห็นยกตัวอย่างการถือหุ้นไอทีวีของตัวเอง โดยเล่าว่า ตอนแรกก็เคยถือหุ้นนี้ แต่เห็นกรณีของ "ธนาธร" อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จึงมีการจัดการหุ้นของตัวเองก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง ปี 66 (มีคนใกล้ชิด"นิกม์"บอกว่าเขาขายหุ้นห่อนสมัคร5-6วัน)
(8)สิ่งที่ "นิกม์" ออกมาตั้งข้อสังเกตเรื่องหุ้นมรดก คือ เขามองว่าไม่น่าจะใช่ เพราะ หากเป็นหุ้นมรดก ต้องมีวงเล็บบอกไว้ท้ายชื่อ
(9)จากนั้น 10 พ.ค. "เรืองไกร" ยื่นเรื่องร้องเรียนกับ กกต.ตามที่ประกาศไว้ ประเด็นนี้! น่าตั้งคำถามว่า บังเอิญ หรือ ตั้งใจ ?
(10)พีพีทีวี ถาม "เรืองไกร" เขายืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องและไม่เคยรู้จักกับ "นิกม์" และ ไม่รู้จัก "ภาณุวัฒน์" ชายที่ถามคำถามในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีด้วย
(11)อีกประเด็นที่พบ คือ มีข่าวเก่าเผยแพร่เป็นสาธารณะเกี่ยวกับแจ้งจับแก๊งปลอมลายเซ็นหมอสั่งปรากฎชื่อ "นิกม์" เป็นเจ้าของคลินิกผู้เสียหายและปรากฎว่า "ภาณุวัฒน์" (นามสกุลเดียวกับคนที่ถามคำถามเรื่องไอทีวี) มีชื่อเป็นผู้จัดการคลินิกดังกล่าวด้วย
(12)พีคกว่านั้น เมื่อย้อนไปดูเฟซบุ๊กชื่อ "นิกม์" 24 เม.ย. (ก่อนประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี 26 เม.ย.) มีการโพสต์ข้อความ ว่า "นักการเมืองที่กำลังถือหุ้น ITV เตรียมตัวประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี และมอบตัวกกต.ด้วยนะครับ หัวหน้าพรรคหนึ่งถือ 42,000 หุ้น”
(13)ทีมข่าวเราพยายามประสานขอสัมภาษณ์ "นิกม์" เขาแจ้งว่าไม่สะดวก แต่ล่าสุดเหมือนเขาให้สัมภาษณ์ พี่แยมไป ส่วนก่อนหน้านี้ทีมข่าวเราไปคุยกับ "ทนายเกรียงศักดิ์" เพราะมีชื่อเป็นทนายให้ "นิกม์" ในคดีร้องแก๊งปลอมลายเซ็นหมอ
(14)"ทนายเกรียงศักดิ์" อ้างว่า สนิทกันส่วนตัวกับ "นิกม์" ไปออกกำลังกายด้วยกันบ่อย พร้อมบอกว่า "ภานุวัฒน์" เป็นคนที่ "นิกม์" ขายหุ้นไอทีวีให้ก่อนวันสมัคร ส.ส.ประมาณ 5 วัน เพราะ กังวลว่าการถือหุ้นสื่อ จะผิดกฎหมายเลือกตั้ง
(15)ส่วนกรณีที่ "ภาณุวัฒน์" สอบถามในที่ประชุม "ทนายเกรียงศักดิ์" คาดว่า "นิกม์" น่าจะอยากรู้ข้อเท็จจริงถึงสถานภาพการคงอยู่ของบริษัทไอทีวี จึงให้ "ภาณุวัฒน์" สอบถามให้เท่านั้น
(16)***ขอแวะสรุป!***นิกม์ มีหุ้นไอทีวี แต่ขายก่อนสมัครส.ส.ปี66 ทนายที่รู้จักอ้างว่านิกม์ขายหุ้นให้ภาณุวัฒน์ /ภาณุวัฒน์ ไปถามในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ว่า บ.ยังเป็นสื่อหรือไม่! ก่อนวันประชุมนิกม์ โพสต์FB พูดถึงนักการเมืองที่ถือหุ้นไอทีวี42,000หุ้น
(17)อย่างที่เกริ่นไป "ภาณุวัฒน์" ไม่ได้ถามคำถามแค่ไอทีวีเป็นสื่อหรือไม่ แต่ถาม3คำถาม/คำถามที่2 คือ ถามระหว่างการพิจารณาอนุมัติเลือกตั้งกก.แทนกก.ที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระปี66ถามว่า มีกก.ท่านใดเป็นนักการเมืองหรือไม่ คำตอบว่า "ไม่มีกก.เป็นนักการเมือง"
(18)คำถามที่3ถามในวาระเรื่องคดีพิพาทที่ไอทีวีมีกับสปน./ตอนแรกที่ประชุมไล่สถานการณ์คดี จากนั้น "ภาณุวัฒน์" ถามว่า คดีทั้งหมดจะจบสิ้งลงเมื่อใดและจะมีแนวทางจัดการกับบริษัทต่อจากนี้อย่างไร
(19)ที่ประชุม ตอบว่า คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุง และจากการคาดการณ์ น่าจะพิพากษาในปี66 หากศาลปกครองสูงสูด มีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง คดีจะถึงที่สุด ในมุมมองของบริษัทคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่จะออกมานั้นควรจะเป็นคุณกับบริษัท
(20)พีพีทีวี พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในเฟซบุ๊กของ"นิกม์"9พ.ค. มีการโพสต์คลิปจังหวะการประชุมผู้ถือหุ้น พูดถึงข้อพิพาทสปน.-ไอทีวี และเมื่อเร็วๆนี้มีการนำรายละเอียดการฟ้องร้องกับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีก็ถูกหยิบหยกขึ้นมาพูด!
(21)ส่วนประเด็นที่ "พิธา" มองว่า เป็นกระบวนการคืนชีพไอทีวี พร้อม พูดถึง แบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) พีพีทีวีไปย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558-2565 ระบุ ประเภทธุรกิจในแต่ละปี “ไม่ตรงกัน”
(22)ปี2558-2559 ช่อง “ประเภทธุรกิจ” ระบุว่า “ไม่ได้ประกอบกิจการ, ผลตอบแทนจากเงินลงทุน, ดอกเบี้ยรับ” ปี2560-2562 ระบุเป็น “กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก” ปี2563-2565 ระบุว่าเป็น “สื่อโทรทัศน์”
(23)ที่น่าสนใจคือ ปี 2563-2564 มีการระบุในช่อง “สินค้า/บริการ” ว่า “ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากติดคดีความ” ขณะที่ปี 2565 เขียนว่า “สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน”
(24)ในเอกสารแบบนำส่งงบการเงินทั้ง 8 ปี ชื่อผู้ทำบัญชี เป็นคนเดียวกันทั้งหมด คือ “นายนฤวัต นพคุณ” ทีมข่าวพีพีทีวี โทรศัพท์ไปตามเบอร์โทรที่ระบุในเอกสาร ปลายสายรับว่าเป็นนายนฤวัตจริง แต่ยังไม่สะดวกให้ข้อมูล
(25)เมื่อถามถึงสาเหตุที่มีการระบุประเภทธุรกิจในแบบนำส่งงบการเงินปี 63-65 ไม่ตรงกับปีก่อนๆ นายนฤวัต บอกว่า "ต้องไปถามจากผู้นำส่งงบการเงิน ตนเองเป็นแค่ผู้ทำบัญชี ไม่ใช่ผู้นำส่งงบการเงิน"
(26)ต้องย้ำว่า เราฝแค่การให้ข้อมูล ในแต่ละจุด ยังไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ว่าคนในรายชื่อเกี่ยวข้องกันแค่ไหน ตัวเรืองไกรคนร้องพยายามบอกว่าไม่รู้จักส่วนตัวกัยตัวละครทุกคนและยืนยันว่านี่ไม่ใช่ขบวนการ
ที่มา https://twitter.com/Bussarin_PPTV/status/1667925630942597120