วันเสาร์, พฤษภาคม 20, 2566

Wind of Change คืน "ความยุติธรรม" ให้แก่ผู้สูญเสีย คืน "ผู้ลี้ภัย" กลับบ้านเกิดเมืองนอน


Suchart Sawadsri
8h
·
Wind of Change
คืน "ความยุติธรรม" ให้แก่ผู้สูญเสีย
คืน "ผู้ลี้ภัย" กลับบ้านเกิดเมืองนอน

Voice TV
12h
.
ญาติผู้สูญเสียเหตุสลายชุมนุมปี 53 จี้รัฐบาลใหม่รื้อฟื้นคดี ตัวแทน 'ก้าวไกล-เพื่อไทย' รับลูกตั้งรัฐบาลได้ เลิกแช่งแข็งคดีเก่า หวังลบบาดแผลตั้งแต่ปี 49
วันที่ 19 พ.ค.2566 ที่วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร พะเยาว์ อัคฮาด หรือ แม่น้องเกด และ พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดา หรือ พ่อน้องเฌอ ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน ร่วมกันทำบุญเลี้ยงพระเพล และร่วมรำลึกโอกาสครบรอบ 13 ปี โดยมีนักเคลื่อนไหวและตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วม อาทิ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ,โตโต้-ปิยรัฐ จงเทพ ว่าที่ ส.ส.กทม พรรคก้าวไกล ,นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ,อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พิธีช่วงต้นเป็นการทำบุญ พระสงฆ์ 9 รูป จากนั้นครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์เพื่อส่งถึงรัฐบาลใหม่ ก่อนวางพวงมาลาแสดงความรำลึกอาลัยแก่ผู้สูญเสีย
พันธ์ศักดิ์ อ่านแถลงการณ์ว่า นับเป็นเวลา 13 ปีแล้ว ที่เหตุการณ์ดังกล่าวมีการสังหารประชาชนยังโหดเหี้ยม จนมีผู้เสียชีวิต 94 ราย และบาดเจ็บอย่างน้อย 1,283 คน และทรัพย์สินเอกชนเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุการณ์หนึ่งของความอยุติธรรมที่เกิดในสังคมไทย ฉะนั้นญาติผู้ที่ได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์ทางการเมืองปี 2553 จึงมีความเห็นขอเรียกร้องต่อรัฐบาลประชาธิปไตย 8 ประเด็นประกอบด้วย
1.) ทำความจริงให้ปรากฏและยุติ
2.) ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบที่ถูกละเลย
3.) นำผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
4.) รื้อฟื้นคดีก่อนหน้าที่องค์กรอิสระ และศาลได้ตัดสินไปแล้วแต่สังคมยังกังขาขึ้นมาพิจารณาใหม่
5.) มีมาตรการเพื่อทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีกรณีเหตุการณ์กระทำรุนแรงกับประชาชนเกิดขึ้นอีกในอนาคต
6.) เร่งสะสางและนิรโทษกรรมประชาชนจากคดีทางการเมืองตั้งแต่ปี 2549
7.) ลงนามในสัตยาบันรับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ
8.) นำกองทัพออกไปจากการเมืองตลอดกาล
นอกจากนี้ ญาติผู้ได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์ปี 2553 ขอประกาศให้วันที่ 19 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวัน ยุติวัฒนธรรมคนผิดลอยนวลแห่งชาติ
ขณะที่ ชัยธวัช เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้ตนมาในฐานะตัวแทนพรรค ไม่ใช่ตัวแทนรัฐบาลเนื่องจากกระบวนการจัดตั้งยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งนี้เหตุการณ์ล้อมปราบโดยทหารจนทำให้มีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก ก็มีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนชัดว่า 13 ปีมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุยังไม่มีใครเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและรับโทษ เพราะปัญหาสังคมไทยมากๆอย่างหนึ่งคือ การยอมให้เกิดวัฒนธรรมการลอยนวลคนผิด เมื่อเจ้าที่รัฐใช้กำลังต่อประชาชนแต่ไม่มีใครเลยที่ต้องรับผิด ฉะนั้นหากปล่อยไปอย่างนี้ก็จะไม่มีหลักอะไรว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
ทั้งนี้ หากเราจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ วาระหลักสำคัญของรัฐบาลชุดใหม่ ก็คือการแก้ไขปัญหายุติความขัดแย้งเรื่องบาดแผลของสังคมไทยที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน และการคืนความยุติธรรมการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ก็เป็นอีกเรื่องสำคัญประเด็นหนึ่ง ฉะนั้นคดีที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม อย่าง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ถูกแช่แข็งหยุดนิ่งไปเลยหลังการรัฐประหารปี 2557 ก็ต้องเป็นประเด็นแรกๆที่จะต้องผลักดันเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมหรือหน้าต่อ เพื่อคืนความปกติให้กระบวนการยุติธรรมภายในประเทศให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการยุติบาดแผลและความขัดแย้งของฝ่ายต่างๆไม่เช่นนั้นก็เดินหน้าไม่ได้ และมั้นใจว่าเรื่องนี้ไม่ยากไป ถ้ามีความตั้งใจ
ขณะที่ นพ.ทศพร กล่าวว่า ตนขอแยก 2 สองประเด็นคือ 1.) การยุติความขัดแย้ง 2.) การให้ความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งทั้งหมดต้องกลับเข้าไปสู่กระบวนการทางกฎหมายที่ต้องผลักดันเพื่อคืนความเป็นธรรมให้ทุกคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดงานทำบุญและรำลึกผู้เสียชีวิตเหตุการณ์ชุมนุมปี 2553 ปีนี้ จัดขึ้นบริเวณศาลาใหญ่ ภายในวัด ซึ่งเป็นพิธีที่ใหญ่ต่างจากทุกปี และเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ที่ปกติจะจัดได้เพียงทำบุญถวายสังฆทานเท่านั้น
#VoiceOnline