วันเสาร์, พฤษภาคม 13, 2566

เพื่อไทยชัดเจนอย่างหนึ่งแล้ววันนี้ “แพทองธารนำพรรค-เศรษฐานำรัฐบาล”

ปราศรัยใหญ่ หาเสียงรอบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทยก่อนถึงวันหย่อนบัตร คนร่วมงานคงจะเอ่อล้นอัฒจันทร์ “เหยียบเท้ากัน” ดัง Noppakow Kongsuwan ว่า “น่าจะประมาณ ๑๕,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐” ขณะที่ความจุของ อิมแพ็คอรีน่า อยู่ที่ ๑๒,๐๐๐

เป็นอันว่าเพื่อไทยชัดเจนอย่างหนึ่งแล้ววันนี้ว่า “แพทองธารนำพรรค-เศรษฐานำรัฐบาล” เศรษฐา ทวีสิน จึงพูดเต็มปากถึง “๑๐ ข้อที่รัฐบาลเพื่อไทยจะทำทันที่ตั้ง ครม.สำเร็จ” และ “ขอเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐ ของประเทศไทย”

ด้าน อุ๊งอิ๊งเก็บคำคุณพ่อมาเล่า “ถ้าพ่อกลับมาติดคุก แล้วระหว่างที่พ่ออยู่ในคุก ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลแล้วเพื่อไทยขอคำแนะนำ หวังว่ามันสมองท่านจะช่วยให้คนไทยผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปได้ ตีความได้ว่ายินดีติดคุก

แล้วอีกอย่างที่เศรษฐาในฐานะตัวจริงแคนดิเดทนายกฯ พูดถึงกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ว่า “จะไม่เห็นการบังคับใช้ ม.๑๑๒ เพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง” อันเป็นส่วนหนึ่งในนโยบาย “จะไม่เห็นความอยุติธรรมจากตำรวจหรือหน่วยงานรัฐ”

อีกส่วนหนึ่งของการทิ้งทวนหาเสียงพรรคเพื่อไทย จากการปราศรัยของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ทำให้เสื้อแดงมีสังกัดน้ำหูน้ำตาไหลกันเจิ่งจอ เมื่อ พี่เต้น บอกว่า “พี่ไม่ได้ไปยืนหน้าสภาหรอกตอนที่เขายึดอำนาจ มันเอาเอ็ม ๑๖ มาจี้หัวพี่ตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว”

กรรมกรข่าว เป็นผู้เล่าว่าเขา “ไม่เชื่อจะมีพรรคไหนชนะเพื่อไทยได้” และหากมีอีกพรรคแซงหน้าไปได้ “เพื่อไทยไม่มีถือมีดไว้คุกคามเพื่อนเด็ดขาด ขออย่างเดียวอย่าให้ “แปลงดินที่ถูกเขาขุดพรวนด้วยชะตากรรม” ต้องมารองรับความเย่อหยิ่ง และค่อนแคะ

ลงท้าย “เข้าคูหากาเพื่อไทยให้เเลนส์สไลด์ ไปเลย

(https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/pfbid02Um8Bg และ https://www.facebook.com/Noppakow.kong/posts/pfbid0uxnyApno)