วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 02, 2566

เวลาเห็นคนให้เหตุผล(?)ด้วยแนวคิด วินเนอร์ ลูซเซอร์ เราก็อดนึกไม่ได้ทุกทีว่า คนนั้นเขาวินเนอร์ตรงไหน?

 


ภัควดี วีระภาสพงษ์
1d
เวลาเห็นคนให้เหตุผล(?)ด้วยแนวคิด วินเนอร์ ลูซเซอร์ เราก็อดนึกไม่ได้ทุกทีว่า คนนั้นเขาวินเนอร์ตรงไหน? ถ้าไม่ใช่ระดับได้รางวัลโ
นเบล หรือประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่อะไร เราว่าต้องมั่นหน้ามากนะที่คิดว่าตัวเองเป็นวินเนอร์
จากใจลูซเซอร์ค่ะ ไม่ใช่แค่เป็นลูซเซอร์ ขอเป็นอันเดอร์ด็อกด้วย เพราะอินเดียนแดงในหนังฮอลลีวู้ดเรื่องหนึ่งบอกว่า คนชนะต้องมาจากข้างหลัง
#เมาแล้วโพสต์อะไรก็ได้
.....
Thanapol Eawsakul
1d
ในบรรดาเป็นข้อเขียนเกี่ยวกับการอดอาหารของตะวัน และแบม
ข้อเขียนที่น่ารังเกียจที่สุดที่ได้อ่าน
คือข้อเขียนของคนที่ชื่อ ภูเพียง ศรีนอก
...................
แต่ความเป็นจริงคน 90% ของประเทศ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ด้วยซ้ำ เค้าทำมาหากิน มีความสุข มีความทุกข์เรื่องอื่นกัน โลกนี้มีสิ่งอื่นๆ ไอ้ที่คิดว่าก้าวหน้ามากๆ หัวก้าวหน้าสุดๆ กลับเป็นเรื่องตกยุคไม่เข้ากับยุคปัจจุบัน ทำเหมือนเดิมซ้ำๆ แบบ 40 50 ปีที่แล้ว ที่ไม่ได้ผล ก็ทำอยู่นั่น พูดประโยคเดิม ทำวิธีเดิม สูญเสียแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางคนยังพูดแบบเดิม จัดม๊อบบึ้มๆ ต้องมีม๊อบบึ้มๆ มันมีม๊อบบึ้มๆ มากี่ครั้งแล้ว แล้วมีคนตายกี่คนแล้ว ก็ยังจะม๊อบบึ้มๆ อยู่นั่นแหละ มันไม่มีประโยชน์เลย นอกจากทำให้ชาวบ้านรำคาญเบื่อหน่าย ชวนเบือนหน้าหนี เป็นคนตกยุคที่คิดว่าก้าวหน้ากว่าใคร
https://www.facebook.com/pupiang.srinawk/posts/pfbid02AnL4MRNjsdaZ8FMkbVXBzr8qs2cx2A26wEp2sV9kRj6E3TuJ5kfCdE8RGf7ayijLl
ในข้อวิจารณ์ต่าง ๆ ในการอดอาหารขอตะวัน และแบมนั้น มีมากมาย
แต่ไม่มีใครจะดูถูกน้ำจิต น้ำใจของตะวัน และแบมมากถึงเพียงนี้
ยิ่งถ้ามองว่าข้อเรียกร้องของทั้ง 2 คือข้อเรียกร้องที่ธรรมดา และเรียบง่ายมาก และเป็นข้อเรียกร้องเพื่อผู้อื่นด้วยแล้วก็ยิ่งน่ารังเกียจไปขึ้นอีก
รวมทั้ง
ข้อเขียนนี้เขียนหลังโศกนาฎกรรมที่คุณไพโรจน์ โชติศรีพันธ์พร ที่เข้าร่วมขบวนเดินเท้าจากรัชโยธินถึงศาลอาญา เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้นักโทษการเมือง เกิดอาการเป็นลม หมดสติ ล้มศีรษะฟาดพื้นหน้าศาลอาญา จนเสียวิตลงเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2566 ก็คงเป้นการเสียชีวิตที่ไร้ประโยชน์ในมุมมองของคุณภูเพียง ศรีนอก เช่นกัน


Atukkit Sawangsuk

15h
Loser ที่ไม่ยอมแพ้
ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
แม้แพ้อยู่เสมอ
แต่ก็คือผู้เปลี่ยนแปลงโลก
ขณะที่ Winner คือผู้ที่ฉกฉวยโอกาสจากความเปลี่ยนแปลง
นำการต่อสู้ไปสู่การเจรจาต่อรอง สมประโยชน์
แล้วทิ้ง Loser ไว้ข้างหลัง

Alongkorn Phomuang
สำหรับผม loser ที่มีเป้าหมายชัดเจน ไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ ผมไม่ถือว่าเป็น loser นะครับ เพียงแค่รอวันที่เป็นของเรา ส่วน winner ประเภท เหลี่ยมจัด พลิกอุดมการณ์ของตัวเองเพียงเพื่ออยากจะชนะ ถ้าเป็น winner ก็คงกระดากปากตัวเองน่าดู

Peera Emsrikul
โอ๊ย! น้าถึกอย่าหยิก...เจ๊บบบป

Kritsada Rodkrai
พูดเรื่องต่อรอง สมประโยชน์ ไม่กลัวส้นสูงยีหน้าหรอลุงถึก