วันศุกร์, พฤษภาคม 06, 2565

จ่าฝูง ‘ไฮยีน่า’ หงุดหงิดอีกแระ นี่เป็นปัญหาโครงสร้าง ของผู้นำกักฬระที่ไร้กึ๋น

ประยุทธ์หงุดหงิดอีกแล้ว เมื่อวานนักข่าวถามถึง พี่ป้อม ว่าดีกันแล้วเหรอ น้องตู่และคณะติดสอยกำลังเดินขึ้นตึกทำเนียบก็หับขวับ พากันจ้องมองเหมือนฝูง ไฮยีน่า หมาไน @WassanaNanuam บรรยายภาพว่านายกฯ ตอบด้วยเสียงหงุดหงิด

“ทำไมเหรอ เธอมีอะไรกับพล.อ.ประวิตรเหรอ” นักข่าวไม่ลดละตอบว่าปัญหาไม่มี เลยโดน ตุ๊ดตู่ เหน็บว่า “เออ ถ้าไม่มีแล้วทำไมถามถึงเขาทุกวันล่ะ” แสดงนิสัยจัดจ้านจำเจแบบนี้ไม่ใช่ความบกพร่องส่วนตัวแล้วละ แต่เป็นปัญหาระดับโครงสร้างนั่นเชียว

พวกผู้นำที่มีสันดานเผด็จการมักจะวางก้ามอย่างนี้ คนชอบก็มีแม้ในประเทศประชาธิปไตย อาจจะทำให้รู้สึกว่ามีคนนำที่เข้มแข็ง ม้าชโชแต่นั่นย่อมต้อง มีกึ๋น ไว้หนุน ยกตัวอย่างอดีตประธานาธิบดีอเมริกันคนก่อน ใครๆ รู้ว่าเขาสามหาว แต่เขาเอาพรรครีพับลิกันอยู่

ตอนนี้สายการบังคับบัญชาของพรรครีพับลิกัน จ๋อง ให้กับทรั้มพ์กันหมด จนมีเสียงคาดหมายจากสื่อหลายแหล่งว่า ทรั้มพ์อาจได้เป็นผู้เข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในปีโน้น (ค.ศ.๒๐๒๔) เนื่องเพราะในความ เขี้ยว ทางการเมืองไม่มีใครเทียบ

ด้วยหลักการเดียวกันเทียบเคียงได้กับการเมืองไทย ซึ่งความกักฬระของตู่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังได้เพราะตลอด ๘ ปีที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่มีทั้งกึ๋น และสมรรถนะที่จะสะสมทักษะการบริหารงานปกครองบ้านเมือง ต่างกับอดีตนายกฯ ที่กลับมาดังเวลานี้

จนทำให้พวกสัมภเวสีต้องออกมา ปลุกผี กันอีก ดังนั้นการปรับโครงสร้างจึงต้องดูจากการเมืองท้องที่เขตปกครองพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ปลายเดือนนี้ มีการแข่งขันแสดงวิสัยทัศน์กันอย่างคึกคัก บ้างล้มลุกคลุกคลาน บ้างทะลุ

คนหนึ่งที่ทำท่าจะได้เข้าโค้งสุดท้ายอาจปลายแถว เป็นผู้สมัครของพรรคไทยสร้างไทย ที่ในระดับชาติเจอกับเสียงยี้ เพราะมีว่าที่ผู้สมัครเป็นอดีต กปปส. เจ้าตัวขอโทษขอโพย เคยร่วมปิดกรุงเทพฯ กวักมือเรียกทหารมายึดอำนาจ “แต่ตอนนี้กลับใจแล้ว”

จอนนี่ แอนโฟเน่ จะไปรอดไหม ไว้รอดูเขาแสดงวิสัยทัศน์ จากคำถามข้องใจหลายๆ อย่างที่รอคำตอบอยู่ ขณะที่ ศิธา ทิวารี ปล่อยออกมาแล้ว สร้างความประทับใจได้พอควรทีเดียว จากการไปพูดในเวที กรุงเทพ เมืองที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

กับประเด็น ม็อบเยาวชนที่พวกเขาประกาศและแสดงให้เห็นความมุ่งมั่น ว่าจะ ไม่ถอย “ไม่ว่าม็อบนั้นจะมาไล่ผม หรือจะมาไล่ฝั่งเดียวกับผมที่เป็นรัฐบาลก็แล้วแต่ จะต้องอำนวยความสะดวก แล้วต้องทำมากกว่านั้น “เข้าไปคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งเป็นต้นเรื่องที่ทำให้เกิดความคับข้องใจ สิ่งที่คุณ (และหน่วยงาน) ทำมา ผมไม่ได้บอกว่าใครผิดใครถูกนะ แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น มันมาเกิดขึ้นในพื้นที่ของผู้ว่า กทม. จึงต้องดูแล เพราะฉะนั้นเราจะต้องให้หน่วยงานนั้นเข้ามาแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด”

แม้จะได้แค่นี้ยังดีกว่าสภาวะที่ทั้ง กทม. ตำรวจ และศาล พร้อมหน้ากันห้ำหั่น พวกออกมาแสดงกิจกรรม เรียกร้องการปรับแก้และปฏิรูประเบียบกฎหมาย ทางปฏิบัติซึ่งมีลักษณะกดขี่ข่มเหง ถ้ายอมรับการแสดงออกทางความคิดที่แตกต่าง

(https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10166551187050551, https://www.facebook.com/100001454030105/posts/5210767792314970/?d=n และ https://www.voicetv.co.th/read/rKjl5pZ9A)