ตั้งแต่มีการชุมนุมของราษฎรในปี 2563 ขบวนเสด็จถูกใช้เป็นเงื่อนไขหนึ่งของการพยายามจำกัดการชุมนุมหรือการแสดงออกของประชาชน

ตั้งแต่มีการชุมนุมของราษฎรในปี 2563 ขบวนเสด็จเป็นเงื่อนไขหนึ่งของการพยายามจำกัดการชุมนุมหรือการแสดงออกของประชาชน อย่างเช่น วันที่ 14 ตุลาคม 2563 ตำรวจได้อ้างเรื่องขบวนเสด็จเพื่อไม่ให้ผู้ชุมุนมเดินขบวน แต่เมื่อประชาชนเดินขบวน กลับมีการวางเส้นทางขบวนเสด็จให้เผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม และมีการตั้งข้อหาดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 หรือ ในเดือนมีนาคม 2565 ตำรวจเคยขอให้ผู้ชุมนุม #ม็อบชาวนา ที่ปักหลักบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ย้ายออกไปเนื่องจากมีขบวนเสด็จแล้ว ผู้ชุมนุมยอมย้ายออกไป ก่อนจะขอให้ย้ายอีกครั้งในการชุมนุมคัดค้าน พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มฯ
.
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา มีกรณีที่ยังจัดการชุมนุมได้แม้จะมีขบวนเสด็จ อาทิ ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ตำรวจพยายามอ้างเรื่องขบวนเสด็จกับผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่สุดท้ายขบวนเสด็จก็ผ่านไปอย่างสงบเรียบร้อย ในขณะที่ผู้ชุมนุมเพียงยืนชูสามนิ้วเคารพธงชาติ โดยมีตำรวจควบคุมฝูงชนยืนเป็นแนวกั้น ดังนั้น การชุมนุมและขบวนเสด็จสามารถดำเนินร่วมกันได้ ตราบเท่าที่ตำรวจมีปฏิบัติการอำนวยความสะดวกให้กับทั้งสองฝ่ายอย่างเต็มที่ เพราะแม้กลุ่มผู้ชุมนุมจะมีการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ แต่ก็ไม่ได้ตั้งต้นเป็นภัยต่อประมุขของรัฐ

ที่มา https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10166615052545551

iLaw
11h ·

ตำรวจล้อมรั้ว-ยืนคุม-ขอความร่วมมือม็อบ NPO จนกว่าขบวนเสด็จจะผ่าน
.
27 พฤษภาคม 2565 เป็นวันที่ห้าของการชุมนุมของขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนนัดหมายชุมนุมกันที่หน้าองค์การสหประชาชาติ สะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อคัดค้านร่างพ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร (พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มฯ #NoNPObill) ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคม 2565 จะมีการพระราชทานปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งตำรวจได้มีการพูดคุยถึงแนวทางความเป็นไปได้ในการจัดการพื้นที่ชุมนุมระหว่างมีขบวนเสด็จ
.
ท้ายที่สุดตัวแทนยืนยันว่า ไม่ย้ายสถานที่การชุมนุม แต่จะดูแลความเรียบร้อยให้เป็นอย่างดี ตำรวจจึงเสนอว่า ถ้ามีการปิดผ้า มีรั้วที่ตำรวจควบคุมฝูงชนยืนเรียงแถวประกบ
.
บรรยากาศตั้งแต่เวลา 09.20 น. พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณากร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 แจ้งกับตัวแทนผู้ชุมนุมว่า ขบวนเสด็จจะเคลื่อนผ่านพื้นที่ชุมนุมสองครั้งคือ เวลา 16.00 น. และเวลา 19.00 น. ซึ่งเวลาอาจะคลาดเคลื่อนเล็กน้อย แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณสิบนาที รูปแบบการรักษาความปลอดภัยของขบวนเสด็จคือ จะนำแผงเหล็กกั้นมาวางซ้อนที่ริมฟุคบาทพื้นที่ชุมนุมและให้ตำรวจมายืนเรียงแถวซ้อนอีกชั้นเป็นแบบไหล่ชนไหล่ ซึ่งจะมีจำนวนมากหน่อย รวมทั้งจะมีการถ่ายทอดสดระหว่างที่ขบวนเคลื่อนผ่าน โดยจะตั้งกล้องจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ นอกจากนี้ยังขอให้ตัวแทนช่วยดูแลความเรียบร้อยและแจ้งต่อผู้ชุมนุมอิสระ
.
เวลา 11.10 น. เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้ามาตรวจสอบวัตถุระเบิดในพื้นที่ชุมนุม โดยมีการ์ดผู้ชุมนุมนำตรวจ ต่อมาเวลา 11.51 น. เจ้าหน้าที่เริ่มนำแผงเหล็กมาวางกั้นรอบพื้นที่ชุมนุม ต่อมาเวลา 14.00 น. ตำรวจในเครื่องแบบประมาณหนึ่งกองร้อย ตั้งแถวอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งหน้าแมคโดนัล มีรถผู้ต้องขังอย่างน้อยสองคันจอดอยู่ ถนนราชดำเนินกลาง บริเวณแยกผ่านฟ้าฯ มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบสวมเสื้อเหลือง ยืนเฝ้าอยู่อย่างน้อยสองคน ขณะที่เวลา 14.14 น. เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจพื้นที่บริเวณที่ชุมนุมอีกครั้ง
.
เวลา 14.40 น. หน้าทำเนียบฯ ฝั่งราชดำเนินนอก ตำรวจตั้งแถวฟังบรีฟจากผู้บังคับบัญชา ตอนหนึ่งระบุว่า วันนี้ไม่ได้มาเพื่อ #สลายการชุมนุม แต่มาดูแลความสงบเรียบร้อย ให้อดทนต่อความเจ็บใจและระวังการก่อเหตุของมือที่สาม หากมีการขว้างปาประทัดเข้าไปใน #ขบวนเสด็จ จะมีการจับกุมทันที กรณีถ้ามีการ #สลายการชุมนุม จนมีความวุ่นวาย ตร. จะเข้ากระชับพื้นที่ [อาจหมายถึงการยึดคืนพื้นที่ชุมนุม] บริเวณเดียวกันมีการเตรียมรถผู้ต้องขัง, มอเตอร์ไซค์เคลื่อนที่เร็วและรถเครื่องขยายเสียง
.
เวลา 15.09 น. ตำรวจเริ่มเดินแถวจากสะพานมัฆวานฯเข้ามาที่ฟุตบาทฝั่งตรงข้าม UN และเวลา 15.13 น. รถบัสอคฝ.ขับเรียงมาจอดขนาบฟุตบาทหน้า UN พื้นที่ชุมนุม โดยผู้สังเกตการณ์ได้ยินตำรวจ.สั่งการว่า ให้ตำรวจมาตั้งแถวที่หลังรถบัสอีกทีหนึ่ง ซึ่งจะจอดยาวจนกว่าขบวนเสด็จกลับ เวลา 15.25 น. บริเวณทางเข้าพื้นที่ชุมนุม ฝั่งสะพานมัฆวานฯ มีตำรวจยืนวางกำลังพร้อมถือโล่ ด้านในฝั่งผู้ชุมนุม มีการ์ดผู้ชุมนุมยืนอยู่บริเวณหลังแผงกั้นเหล็กประมาณสามถึงสี่คน
.
ต่อมาเวลา 15.30 น. มีการนำรถบัสที่จอดบังพื้นที่ชุมนุมออก และนำกำลังพลมายืนเป็นแนวยาวบริเวณฟุตบาทข้างพื้นที่ชุมนุมแทน ขณะเดียวกันด้านหลังเต็นท์ผู้ชุมนุมบริเวณหน้ากองทัพบก ตำรวจประกาศให้ผู้ชุมนุมอยู่ตามปกติ ไม่ต้องกังวล โดยตำรวจไม่ได้มาเพื่อสลายการชุมนุม หรือรื้อถอนพื้นที่ชุมนุม และประกาศซ้ำอีกครั้งในเวลา 15.52 น. ว่า ขอให้ผู้ชุมนุมอยู่กันตามปกติ ไม่ได้มาจับกุมรื้อถอน รบกวนใดๆ อาจจะตกใจ ทำไมมาเยอะ อยากจะประชาสัมพันธ์ว่ามีงานพระราชทานปริญญาบัตร การจราจรหนาแน่น เจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวก โดยขอเวลาอีกสองวันเพื่อดูแลความปลอดภัย
.
เวลา 15.54 น. ที่เวทีกลาง ผู้ชุมนุมมีการเล่นดนตรีแบบไม่ใช่เครื่องเสียง ขณะที่เวลา 15.56 น. ตำรวจที่หน้ากองทัพบกประกาศซ้ำอีกครั้งว่า ขออย่าไปเชื่อโซเชียลว่า จะมีการสลายการชุมนุม ให้ฟังเสียงประชาสัมพันธ์ที่นี่
.
เวลา 16.00 น. ขบวนเสด็จเคลื่อนผ่านไป ต่อมาเวลา 16.05 น. เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ประกาศว่าขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว ขอให้ตำรวจขยับแนวไปอยู่ที่เกาะกลาง ไม่ต้องมายืนจ้องตากันตรงนี้ แล้วเวลา 19.00 ค่อยกลับเข้ามาใหม่ หรือถ้าไม่ขยับก็ให้หันหลัง ด้านธัชพงศ์ประกาศบอกผู้ชุมนุมว่าขอให้ทำกิจกรรมกันต่อตามปกตื ขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว
.
เวลา 16.23 น. เลิศศักดิ์ประกาศย้ำว่า ขบวนผ่านไปแล้ว ท่านต้องขยับออกไป หน้าที่ของท่านคือพยายามปิดกั้นถนนเพื่อรับขบวนเท่านั้น ตอนนี้กำลังทำเกินไปหน่อย อาศัยจังหวะนี้มาถ่ายเจาะหน้า [ถ่ายภาพแบบเจาะอัตลักษณ์]พวกเรา ขอให้เลิกทำ เหลือเวลาอีกสองวันของขบวนเสด็จ ไม่อย่างนั้นจะไม่ทำตามข้อตกลงที่ได้ตกลงกันไว้ เราถ้อยทีถ้อยอาศัย พบกันครึ่งทาง ขอให้หยุดถ่ายเจาะหน้าพี่น้อง ขอให้ถอย ถ้าไม่ถอยจะให้พี่น้องไปยืนข้างหน้าแล้วดันตำรวจออกไป
.

เวลา 16.32 น. ผู้สังเกตการณ์ได้ยินเสียงสั่งการของตำรวจระดับบังคับบัญชาที่ยืนริมรั้วหน้ากองทัพบกระบุว่า ไม่มีพักเบรก ให้ยืนยาวและหันหน้าไปทางถนนราชดำเนินกลาง อย่างไรก็ตามเวลาประมาณ 16.50 น. ตำรวจถอนกำลังออกจากรอบพื้นที่ชุมนุมไปพัก ทั้งนี้ก่อนและระหว่างที่ขบวนเสด็จเคลื่อนผ่าน การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏการรายงานว่า ตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดพบวัตถุต้องสงสัยใด
.
.
Chanakarn Laosarakham