วันพุธ, พฤษภาคม 25, 2565

ภาคประชาสังคม เรียกร้องให้รัฐบาลถอนร่างกฏหมาย พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มฯ



iLaw
16h

24 พฤษภาคม 2565 ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน นัดหมายชุมนุมเพื่อคัดค้านการเสนอร่างพ.ร.บ.องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรฯ https://ilaw.or.th/node/6112 โดยเริ่มการชุมนุมตั้งแต่วันก่อนหน้านี้ที่บริเวณถนนราชดำเนินนอก หน้าอาคารสหประชาชาติ และวางแผนจะเดินขบวนไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ และต้องการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ออกมารับหนังสือ พร้อมรับปากว่าจะหยุดการเสนอกฎหมายนี้
8.00 ผู้ชุมนุมเริ่มตั้งขบวนหน้าอาคารสหประชาชาติตามเวลานัดหมาย ด้านตำรวจเอารั้วเหล็กกั้นไม่ให้ผ่านทางสะพานมัฆวานรังสรรค์ซึ่งเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดที่จะเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล ตำรวจยังเอาตู้คอนเทนเนอร์มาวางกั้นทางสะพานอรทัย และรั้วลวนหนามวางกั้นทางที่จะไปถึงทำเนียบรัฐบาลได้ เพื่อให้ผู้ชุมนุมเดินผ่านทางแยกนางเลิ้งเพื่อไปทำเนียบรัฐบาลทางสะพานชมัยมรุเชษฐ์เท่านั้น
ขณะที่บริเวณแยกนางเลิ้งมีรั้วเหล็กของตำรวจวางปิดถนนอยู่ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่บางตา ขณะที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์มีรั้วกั้นพร้อมลวดหนาม มีรถผู้ต้องขัง และรถฉีดน้ำจอดอยู่
08.15 ตำรวจเสริมกำลังเข้ามาเรื่อยๆ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยใช้ตำรวจชุดสีกากียืนแถวหน้า ส่วนตำรวจควบคุมฝูงชนพร้อมโล่ ยืนด้านหลังถัดไป และรถเครื่องเสียงของตำรวจขนาดใหญ่
ขณะที่ผู้ชุมนุมกำลังตั้งขบวนที่มีสีสัน มีคนใส่ชุดจิงโจ้นำหน้า
08.30 ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนเป็นระยะทางสั้นๆ ไปถึงหน้าแนวรั้วเหล็กและรั้วลวดหนามที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ แล้วเจอกับแนวรั้วเหล็กของตำรวจจึงเริ่มเจรจาเพื่อขอผ่านทาง แต่ตำรวจไม่ให้ผ่านทางโดยบอกว่าเส้นทางนี้มีสถานที่สำคัญ จึงให้ผู้ชุมนุมเลี้ยวขวาไปทางนางเลิ้ง
08.40 ผู้ชุมนุมขึ้นไปยืนบนรถกระบะของตำรวจที่จอดขวางแล้วโปรยกระดาษ ข้อความว่ายกเลิกกฎหมายรวมกลุ่มทุกฉบับ ด้านตำรวจประกาศผ่านเครื่องเสียงให้ผู้ชุมนุมลงจากรถกระบะ
08.48 ขบวนผู้ชุมนุมไม่ปะทะกับแนวตำรวจ โดยเดินเลี้ยวขวาเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ไปทางนางเลิ้ง
9.20 เมื่อผู้ชุมนุมเดินใกล้ถึงแยกนางเลิ้ง การจราจรถูกปิดแล้ว ตำรวจเอารั้วที่กั้นบริเวณแยกนางเลิ้งออก เมื่อมีรั้วเหล็กอีกชั้นอยู่บริเวณสะพานลอยโรงเรียนราชวินิตมัธยม ผู้ชุมนุมพยายามตัดลวดที่พันรั้วเหล็กออก ด้านตำรวจก็มาเจรจาว่า ไม่ต้องตัดลวด และเปิดให้เดินไปถึงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ได้
เมื่อไปถึงแนวรั้วเหล็กหน้าสะพานชมัยมรุเชษฐ ผู้ชุมนุมได้แจ้งกันให้หยุดขบวนเพื่อรอการเจราจรกับตำรวจ โดยมีสมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผู้กำกับสน.นางเลิ้งมาเจรจา
9.32 ตำรวจพยายามประสานงานว่า อย่าใช้เสียงดังเพราะกำลังมีประชุมคณะรัฐมนตรี และขอให้รอรัฐมนตรีออกมารับหนังสือบริเวณนี้ผู้ชุมนุมประกาศให้ตั้งแถวและเข้าประชิดรั้วตำรวจที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ และให้เวลาตำรวจ 5 นาทีในการรื้อรั้วออก
09.41 ผู้กำกับสน.นางเลิ้ง ประกาศเตือนว่าถ้าผู้ชุมนุมรื้อแนวกั้นที่สะพานชมัยมรุเชษฐ เป็นแนวกั้นสุดท้ายถือว่าผิดกฎหมาย จะจับกุมเพราะตัวแทนกำลังจะมารับหนังสือแล้ว ขณะที่ตำรวจชุดสีกากียกโล่ขึ้นตั้งแนว ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเข้าเสริมกำลังหน้าแนวรั้ว และรถฉีดน้ำติดเครื่องอยู่ด้านหลัง
9.56 เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ใช้เครื่องเสียงประกาศให้ผู้ชุมนุมตั้งแถวหน้ารั้วของตำรวจ และสื่อสารกับตำรวจ โดยเรียกร้องให้เอาแนวรั้วออกแล้วเปิดให้ประชาชนสามารถขึ้นไปชุมนุมบนสะพานชมัยมรุเชษฐ์ได้เพื่อรอตัวแทนรัฐบาลมารับหนังสือ และเพื่อทำการเจรจาบนสะพานให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดี โดยตำรวจต้องเอาแนวรั้วลวดหนามและแนวกั้นออก เพราะการตั้งแนวเช่นนี้เป็นการกีดกันดูถูกประชาชนมากเกินไป ถ้าหากตำรวจเอาแนวรั้วออกผู้ชุมนุมสัญญาว่าจะนั่งอยู่บนสะพานและไม่บุกเข้าไปในรั้วทำเนียบรัฐบาล โดยย้ำข้อเรียกร้องในวันนี้ว่าคณะรัฐมนตรีต้องเอาร่างพ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มฯ ออกจากการพิจารณาเท่านั้น
10.12 หลังเลิศศักดิ์ยืนยันประกาศอีกครั้งให้ตำรวจรื้อรั้วลวดหนามเพื่อการเจรจาที่ดี ก็มีตัวแทนรัฐบาลเดินออกมาหลังแนวตำรวจ และมีผู้ชุมนุมบางส่วนเข้าไปรื้อรั้วลวดหนามออก โดยยังเหลือแนวรั้วเหล็กอยู่ มีการโปรยกระดาษใส่แนวรั้วเหล็กขณะที่ตำรวจชุดสีกากีพร้อมโล่เข้าประชิดรั้วเหล็ก โดยเครื่องเสียงของผู้ชุมนุมประกาศของให้ตำรวจถอยหลังจากแนวรั้วเหล็ก มีผู้ชุมนุมบางคนเตรียมบันไดไม้ไผ่มาที่แนวหน้า ใช้เพื่อดันลวดหนามออกแต่ยังไม่ได้ใช้เพื่อการปีนข้ามแนวรั้ว
10.14 ตำรวจพร้อมโล่ตั้งแถวและยอมเดินถอยจากแนวรั้วเหล็กประมาณ 5 เมตร ขณะที่ผู้ชุมนุมเข้าประชิดแนวรั้วเหล็ก แต่ยังไม่ได้รื้อรั้วเหล็กออก
10.18 ตำรวจเอารถฉีดน้ำขึ้นมาข้างหน้า แล้วประกาศว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนทำลายแผงกัน จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย
เครื่องเสียงผู้ชุมนุมประกาศถามว่า ตำรวจจะเอายังไงกันแน่ จะให้เจรจา หรือจะสร้างสถานการณ์ ขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่นั่งลงบริเวณหน้าแนวรั้วเหล็ก
10.30 อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นตัวแทนรัฐบาลออกมาเจรจากับสมบูรณ์ กำแหง ตัวแทนผู้ชุมนุม โดยตกลงกันว่า ตัวแทนรัฐบาลจะไม่ยืนอยู่หลังรั้ว แต่จะออกจากแนวรั้วมาคุยกับผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมที่นั่งอยู่จึงถอยหลังประมาณ 10 เมตร และตัวแทนรัฐบาลเดินออกมานอกรั้ว ขณะที่เครื่องเสียงของตำรวจยังประกาศให้กำลังควบคุมฝูงชนถือโล่ตั้งไว้
สุภาภณ์ มาลัยลอย ตัวแทนผู้ชุมนุมกล่าวยืนยันข้อเรียกร้องเดิมให้ถอนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มฯ ออก โดยผู้ชุมนุมจะยื่นหนังสือและขอให้รัฐมนตรีรับหนังสือแล้วเอากลับเข้าไปประชุมคณะรัฐมนตรีทันที โดยผู้ชุมนุมจะนั่งรอฟังคำตอบอยู่ ถ้าหากคณะรัฐมนตรียืนยันว่าจะถอนร่างนี้ออก ผู้ชุมนุมพอใจก็จะกลับบ้านเลย
อนุชา นาคาศัย กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาในวันนี้ ทุกอาจจะมีความคิดเห็นไม่ตรงกันร้อยเปอร์เซ็น อยากขอร้องด้วยใจจริงว่า ประเด็นนี้นี้ยังไม่เคยมีการพูดคุยกันอย่างชัดเจน ถ้าจะให้ผมให้คำตอบในเวลานี้ หรือให้คณะรัฐมนตรีประชุมเรื่องนี้ตอนนี้ ถ้าท่านเห็นว่าเป็นสิ่งที่ชอบธรรม ผมก็ไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดอะไร ในฐานะคนไทยด้วยกัน จะให้ผมตอบอย่างไร หรือผมขอเวลาอีก 1 เดือนที่จะศึกษาแล้วเชิญตัวแทนของพวกท่านเข้ามาพูดคุยด้วยกัน
ด้านผู้ชุมนุมตะโกนกลับไปว่า “แปดปีแล้วค่า” อนุชาจึงตอบกลับว่า อันนี้ผมไม่ทราบ เราคนไทย
สุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า เราไม่ได้เพิ่งมายื่นข้อเรียกร้องวันนี้วันเดียว แต่เราเคยจัดการชุมนุมใหญ่ก่อนหน้านี้เพื่อได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงพม. ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2565 โดยบอกว่าจะยังไม่มาทำเนียบรัฐบาล ขอให้กระทรวงพม.ถอนร่างก่อน แต่ปรากฏว่ากระบวนการยังคงเดินหน้าอยู่ เราจึงไม่ได้มาวันนี้วันเดียว แต่เป็นเวลาสองเดือนมาแล้ว เราคิดว่าต้องได้คำตอบจากรัฐบาลทันที ไม่เช่นนั้นสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มจะอยู่ในมือรัฐบาล
สมบูรณ์ กำแหง ตัวแทนผู้ชุมนุมกล่าวว่า ขอให้อนุชารับเรื่องเข้าไปคุยกับคณะรัฐมนตรีในวันนี้ เพื่อให้ได้คำตอบ

อนุชาตอบว่า สิ่งที่เราต้องการก็คือการพูดคุย ซึ่งเป็นประชาธิปไตย ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่อยากจะเจรจา อยากจะเดินทางด้วยระบบประชาธิปไตย ผมไม่มีอะไรที่เคลือบแคลงแอบแฝง พยายามจะแก้ไขเรื่องที่ประชาชนคิดเห็นแตกต่าง ไม่ใช่พวกเราทุกคนเห็นเป็นหนึ่งกันทั้งประเทศ ผมยังไม่เคยคุยกับพวกเราเลย ผมต้องการเวทีที่จะคุยกับพวกเรา การจะเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกันน่าจะเกิดขึ้น แต่ถ้าให้ผมตัดสินใจเวลานี้ก็คงได้แค่รับข้อเสนอของพวกเราไปได้เท่านั้นเอง แล้วไปเรียนคณะรัฐมนตรี โดยยังไม่มีการพูดคุยเป็นวงกว้างในคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้
ด้านสุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เคยมีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาแล้ว ท่านอาจจะตอบตรงนี้ไม่ได้ เราอยากใช้กระบวนการประชาธิปไตยหาทางออกแต่ร่างกฎหมายฉบับนี้ก่อนมีขึ้นไม่ได้ถามเราเลย ร่างขึ้นแล้วค่อยมาถามเรา เราแสดงความคิดเห็นในเวทีและเป็นเอกสารไปแล้วว่าไม่เห็นด้วย แต่ท่านกลับเดินหน้า เราไม่ได้ต้องการมาทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ต้น แต่เราต้องการคำตอบจากคณะรัฐมนตรีตรงนี้ว่าจะทำอย่างไร จะรอให้ท่านตอบกลับ
จากนั้นอนุชาจึงเดินกลับเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล เวลาประมาณ 11.000 ผู้ชุมนุมประกาศให้แยกย้ายกันพักผ่อนบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ เพื่อรอคำตอบจากรัฐบาล






ทะลุฟ้า - thalufah
5h

ภาพบรรยากาศกิจกรรมขบวนการต่อต้านร่างกฎหมายทําลายการรวมกลุ่มของประชนชนและเครือข่ายภาคประชาชนต่างๆทั่วประเทศ พร้อมใจเดินขบวนจากบริเวณหน้าองค์การสหประชาติ (UN)ไปยังทําเนียบ
เนื่องในวันที่23 พ.ค.2565 ไร้ท่าทีการตอบรับจากภาครัฐในเรื่องของการหยุดร่างพรบ.การควบคุมภาคประชาสังคม ทุกฉบับ
.
ก่อนเริ่มเดินขบวนมีการตรึงกําลังของเจ้าหน้าที่ตํารวจหลายกองร้อยไว้ก่อนหน้าแล้วในช่วงเวลาเช้าตรู่ มีรถคุมคัง รถนํ้าจีโน่ และมีการปิดเส้นทางการสัญจรหลายบริเวณ อาทิถนนเส้นข้างทําเนียบรัฐบาลประตู1 ถนนบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ฯลฯ
.
ขบวนการต่อต้านฯ ประกาศตั้งขบวนเพื่อเดินไปหาแนวกลั้นของตํารวจตั้งคําถามถึง รั้วเหล็ก แผงกลั้น นํามาใช้หาสิแตกอิหยัง ในช่วงเวลา8:02 น. และพร้อมมุ่งหน้าสู่ทําเนียบรัฐบาล โดยมีเป้าหมายเพียงเป้าหมายเดียวคือ ยกเลิกร่างกฎหมายพรบ.การรวมกลุ่ม
.
เริ่มขบวนด้วย PDMT สมัชชาคนจน เครือข่ายแร่ ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิ์ ทะลุฟ้า กป.เหนือ และประชาชนจากหลายภาคส่วนหลายภูมิภาค
.
.
เวลาโดยประมาณ 8:15 น. มีการแสดงกิจกรรมเชิงสัญญาลักษณ์จากเครือข่ายภาคประชาชน โดยการแต่งตัวเป็นจิงโจ้และพ้นสเปย์ใส่ไวนิลรูปประยุทธ์ เพื่อต้องการสื่อสารในเชิงประเด็นทางสังคม"เราจริงใจ รัฐบาลจิงโจ้"
เวลา 08:31 น. มีการแสดงเชิงสัญลักษณ์อีกรอบโดยการปลอยกระดาษที่บริเวณหน้ารั้วเหล็กแพงกลั้นของตํารวจ หรือ สะพานมัฆวานรังสรรค์ สื่อข้อความเกี่ยวกับการให้ยกเลิกพรบ.การควบคุมการรวมกลุ่ม
.
.
เวลา 08:36 น. เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณถนนราชดําเนินนอกหรือหน้าองค์การสหประชาชาติ(UN)
เวลา 08:38 น. มีการพูดผ่านเครื่องขยายเสียงเพื่อเจราต่อรองใช้เส้นทางบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จากขบวนต่อต้านฯ และแนวร่วมเครือข่ายต่างๆ กล่าวถึงการตั้งรั้วแพงเหล็กนั้น คือการริดรอดสิทธิเสรีภาพ กดขี่ข่มเหงประชาชน ขอให้เปิดรั้ว
เวลา 08:43 น. ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจเจรจาตอบกลับมาว่าไม่สามารถเปิดเส้นทางให้เดินผ่านบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ไปได้ เนื่องจากมีสถานที่ที่สําคัญอยู่หลายจุด
เวลา 08:47 น. การเจรากับเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อขอให้เปิดเส้นทางไม่เป็นผล ทางภาคประชาชนจึงยอมหลีกเหลี่ยงเส้นทางและใช้ทางอื่นเพื่อเดินไปให้ถึงยังทําเนียบรัฐบาล
เวลา 09:08 น. ขบวนต่อต้านฯและกลุ่มเครือค่ายภาคประชนจากทั่วประเทศ เดินมาถึงได้เพียงแค่ แยกยมราช ถนนพิษณุโลก เนื่องจากได้มีรั้วเหล็ก แผงกลั้น ของทางเจ้าหน้าที่รัฐได้ปิดเส้นทางไว้หมดแล้ว ไม่สามารถเดินไปถึงทําเนียบรัฐบาลได้
.
.
เวลา 09:12 น. ได้ทําการรื้อลวดเหล็กแผงกลั้นด่านแรกของเจ้าหน้าที่ตํารวจออก และเคลื่อนขบวนต่อเพื่อไปให้ถึงทําเนียบรัฐบาล
-ขอประกาศจุดยืนให้พวกเราเข้าไป เพื่อเจรายกเลิกร่างกฎหมายให้เป็นไปตามเป้าประสงค์ อีกทั้งกล่าวว่าพวกเราจะไม่กระทําการใดๆที่รุนแรง ความรุนแรงจะไม่ได้มาจากภาคประชาชน
เวลา 09:32 น. ขบวนต่อต้านกฎหมายฯและเครือข่ายประชาชนทั่วประเทศ เริ่มเคลื่อนชิดรั้วเหล็ก แผงกลั้นด่าน2ของเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมกดดันเจ้าหน้าที่ตํารวจให้รื้อรั้วออกภายในเวลา5นาที
เวลา 09:35 น. ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจชี้แจงกลับว่าไม่ให้กระทําการอันใดที่เป็นการทําลายทรัพย์สินของทางราชการ ไม่งั้นจะถือว่าเป็นการกระทําผิดกฎหมาย และโดนดําเนินคดีได้ อย่ายุยุ่ง ปลุกปั่น ขอให้ควบคุมมวลชนของท่านให้อยู่อย่างสงบ
เวลา 09:36 น. ทางฝั่งภาคประชาชนรื้อรั้วด่านที่2 บริเวณหน้าสะพานชมัยเมษรุ ออกและยังคงยืนยันเดินไปให้ถึงทําเนียบรัฐบาล
เวลา 09:39 น. เคลื่อนขบวนถึงด่านสุดท้ายของเจ้าหน้าที่ตํารวจ ประชาชนพร้อมประชิดแนวตํารวจ กดดันให้รื้อลวดเหล็กออกจากบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ
เวลา 09:59 น. สถานการณ์ยังคงตรึงเครียด ทั้งทางฝั่งของเจ้าหน้าที่รัฐ และฝั่งประชาชนที่พร้อมกดดันรัฐบาลทุกรูปแบบในเชิงสันติวิธี
เราต้องการให้คํามั่นสัญญาว่าจะเจรจาบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐเท่านั้น เพื่อยกเลิกกฏหมายการควบคุมประชาชน ยืนยันขอเจรจากับตัวแทนรัฐบาลยังดีกว่าต้องเจรจากับนายประยุทธ์ เพราะเกลียดขี้หน้า-เลิศศักดิ์ คําคงศักดิ์
เวลา 10:10 น. ทางเจ้าหน้าที่ยังคงไม่เปิดทางให้ ทางฝั่งภาคประชาชนจึงตัดรั้วลวดหนามด่านสุดท้ายของเจ้าหน้าที่เพื่อฝ่าเข้าไปยังบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ พร้อมการประกาศจากเจ้าหน้าที่รัฐให้หยุดรื้อรั้วลวดนาม
.
.
เวลา 10:16 น. ทางเจ้าหน้าที่ตํารวจนํารถนํ้าจีโน่ขยับเข้าใกล้ผู้ชุมนุมเพื่อเตรียมควบคุมการชุมนุมที่เข้มงวดมากขึ้น ทางฝั่งพี่น้องใส่เสื้อกันฝนพร้อมเผชิญกับแรงประทะจากฝั่งภาครัฐทุกรูปแบบ
.
.
เวลา 10:20 น. มีการส่งตัวแทนรัฐบาลออกมาเจรจากับตัวแทนผู้ชุมนุม
เวลา 10:27 น. มีคําสั่งให้เจ้าหน้าที่คฝ.กันสื่อ ออกจากนอกพื้นที่บริเวณการเจรจารระหว่างตัวแทนของรัฐบาล และตัวแทนจากภาคประชาชน
เวลส 10:31 น. ตำรวจจะเปิดพื้นที่ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ชุมนุมร้องขอให้รัฐมนตรีอนุชา นาคาศัย เพื่อล้อมวงคุยเจรจากับผู้ชุมนุม รัฐมนตรีอนุชากล่าวกับผู้ชุมนุมว่าอาจจะไม่สามารถหารือในวันนี้ได้ แต่ขอระยะเวลา 1 เดือน
เวลา 10:55 น. ผู้ชุมนุมยืนยันนั่งรอบริเวรณสะพานชมัยมรุเชษฐ์เพื่อรอผลการประชุมของคณะรัฐมนตรีภายในวันนี้เท่านี้
.
.
เวลา 13:16 น. ทางฝั่งผู้ชุมนุมตั้งขบวนบริเวณหน้าสะพานฯอีกครั้ง กดดัน อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไทย ให้ออกมาแจ้งความคืบหน้าการประชุมหลังจากรอเป็นระยะเวลากว่า2ชั่วโมง
ในขณะเดียวกันทางฝั่งเจ้าหน้าที่ตํารวจมีการตรึงกองกําลังมากขึ้น อีกทั้งทางฝั่งภาคประชาชนไม่ขอรับฟังการประกาศจากจนท.ตํารวจ ยันขอฟังคําชี้แจ้งผลประชุมเท่านั้นว่าการยื่นเรื่องคัดค้านพรบ.การดําเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหาผลกําไร เข้ามติครม.แล้วหรือยัง!
.
.
เวลา 13:32 น. มงคลชัย สมอุดร รองปลัดประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ออกมาเจรจากับตัวแทนฝั่งผู้ชุมนุม
แต่กลับไม่ใช่การออกมาชี้แจงผลประชุม เพียงแต่มาขอต่อเวลาเพิ่มอีก30นาที ในการรับเรื่องไปเสนอ มติครม. ทางฝั่งผู้ชุมนุมยังคงรอว่าสุดท้ายแล้วจะรับฟังเสียงของประชาชนหรือไม่
เวลา 13:45 น. อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรีไทย ยอมเปิดรั้วออกมาพูดคุยกับทางกลุ่มผู้ชุมนุม โดยการมีตํารวจเดินถือโล่เพื่อความปลอดภัยของรัฐมนตรีฯ
ทางกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งคําถามกลับ ทําไมต้องมีตํารวจ ในเมื่อการมาครั้งนี้ของภาคประชาชนมาอย่างสันติวิธีต้องการพูดคุยเพื่อให้ยกเลิกร่างกฎหมายฯ เพียงเท่านั้น
ทางฝั่งภาครัฐบาลชี้แจงรับเรื่องแล้ว แต่กฎหมายฉบับนี้ยังคงต้องรอรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพิ่มเติม
ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยันต้องการรู้แค่2เรื่อง ว่าได้นําเข้ามติครม.แล้วหรือยัง และกฎหมายตัวนี้จะถูกยกเลิกหรือไม่ แต่ทางรัฐบาลยังคงให้คําตอบไม่ได้เช่นเดิม
ได้ผลสรุปว่าไม่มีการคืบหน้าใดๆเลยจากการขอเวลาไปประชุม เมื่อเวลา10:55น. และกระทรวงพม.ยังคงดําเนินการร่างกฎหมายตัวนี้ต่อไป รวมถึงให้รอฟังข้อเท็จจริงจากกระทรวงพม.
ประชาชนยังคงยืนยันว่ากระทรวงพม.ไม่มีอํานาจในการตัดสินใจ และไม่เชื่อในเรื่องความโปร่างใสของกระทรวงพม.
.
.
เวลา 14:09 น. ขบวนการต่อต้านกฎหมายฯ ชี้แจงว่าสิ่งที่เรารับทราบคือทางตัวแทนรัฐบาลได้นําไปหารือกับที่ประชุมแล้ว แต่ยังคงไม่เชื่อเพราะไม่มีหลักฐาน ถือว่าเป็นการกล่าวลอยๆเท่านั้น ส่งผลให้เกิดเงื่อนไขจากทางภาคประชาชนไม่สามารถกลับบ้านได้ พร้อมอ่านแถลงการณ์ "เมื่อรัฐบาลยังคงดําเนินกฎหมายตัวนี้ต่อไป ถือว่าท่านได้กําลังละเมิดหลักสิทธิมนุษย์ของประชาชนต่อไปเรื่อยๆ อันเป็นการไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย ถือได้ว่าเป็นการควบอํานาจและสืบถอดอํานาจคสช. พวกเรายังคงยืนยันปักหลักชุมนุมยืดเยื้อต่อไปจนกว่าจะมีการยกเลิกกฎหมายฉบับนี้อย่างเป็นทางการ "
เวลา 14:18 น. ทางฝั่งกลุ่มผู้ชุมนุมในนามขบวนการต่อต้านกฎหมายฯ ได้ปล่อยลูกโปร่งสีขาวดํา ให้ลอยเข้าไปในทางฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐ และนําไวนิลรูปนายประยุทธ์ที่มีการขีดเขียนข้อความต่างๆจากประชาชนลงบนที่พื้น รวมถึงการวางดอกไม้จันทร์ลงบนรูปของนายก อีกทั้งยังโปรยกระดาษรูปหน้าประยุทธ์ และองคพยพ ปิดท้ายด้วยการเผาดอกไม้จันทร์ เพื่อเป็นการแสดงกิจกรรมเชิงสัญญาลักษณ์ต่อภาครัฐ
เวลา 14:23 น. สิ้นสุดกิจกรรมและเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านบริเวณองค์การสหประชาชาติ(UN)

#NoNpoBill
#ไม่เอาพรบควบคุมภาคประชาสังคม
#หยุดมรดกคสช
#หยุดกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่ม
#คัดค้านพรบการรวมกลุ่มทุกฉบับ