Noppakow Kongsuwan
11h
ส่องการ "ปลอบใจตัวเอง" ของกองเชียร์กลุ่ม "อำนาจนิยม" หลัง "ชัชชาติชนะขาด - เพื่อไทย(เกือบ)แลนด์สไลด์ - ฝ่ายประชาธิปไตยยึดกรุงเทพฯ"
.
.
"เสรี วงษ์มณฑา" อดีตแกนนำ กปปส. พูดในรายการ "เรื่องลับมาก" ทาง TOP News ในวันที่ "ชัชชาติ-ส.ก.พรรคการเมืองประชาธิปไตย" เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองกรุงเทพแบบพลิกฝ่ามือด้วยการ "ชนะขาด" โดยเฉพาะ "เพื่อไทย" ที่เกือบแลนด์สไลด์ กทม. และ "ก้าวไกล" ก็ได้มาเป็นกอบเป็นกำ
.
เสรี เริ่มต้นด้วยการบอกว่า "เมื่อคืนหลับยาก นับคะแนนไป 16% ทนไม่ไหว คะแนนมันเริ่มขาด พี่ถึงกับปิดทีวีไปดู Netflix - ซีรีย์เกาหลี" แต่ถึงกระนั้น เสรี ก็บอกว่า "ไม่แปลกใจ" ที่ชัชชาติจะชนะการเลือกตั้ง เพราะโพลทุกโพลผลเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะชนะแบบไม่มีใครไล่คะแนนตามทันได้
.
"ถ้าคิดแบบปลอบใจตัวเอง เราก็ต้องคิดซะว่าชัชชาติชนะเพราะคนมองว่า เป็นอิสระจริง ชัชชาติเป็นคนเก่ง นักเรียนทุนอานันท์ และชัชชาติไม่เคยด่าใครเวลาหาเสียง และชัชชาติเสนอนโยบายที่ชัด (ถึงแม้ว่าบางนโยบายดิชั้นจะไม่เชื่อ) แต่เป็นรูปธรรมถึง 214 ข้อ คิดอย่างนี้เพราะเป็นการปลอบใจของคนแก่" อดีตแกนนำ กปปส. กล่าวแบบนี้ในรายการ
.
แต่สิ่งที่ เสรี "ตกใจ" มากกว่าชัชชาติชนะขาดคือ "ส.ก." ซึ่งเพื่อไทย และ ก้าวไกล ต่างได้รับเลือกกันเกือบแลนด์สไลด์ โดยเฉพาะเพื่อไทย ที่ชนะถึง 20 คน หรือ เกือบครึ่งสภา กทม. ตกใจหลังจากนั้น คือพรรคก้าวไกล ได้ ส.ก.เป็นที่ 2 "น้องหลับลงไหม...แต่พี่หลับไม่ลงจริงๆ" เสรี หันไปกล่าวกับพิธีกรร่วมรายการ
.
"ส.ก. กับ ชัชชาติ จะเกี่ยวกันหรือไม่ ก็น่าหวั่นใจ เราจะตามดูต่อไป 214 ข้อของชัชชาติ ก็ไม่ได้เชื่อว่าจะทำได้ทุกข้อ ไม่ได้อวยนะคะ แต่ความจริงเชิงประจักษ์คือ คนเลือกเขาเพราะว่าเป็นคนเก่ง และนี่คือฉันทานุมัติของคน กทม." เสรี กล่าวประมาณนี้ในรายการ
.
เสรี แสดงความเห็นถึงเรื่องการ "โหวตเชิงยุทธศาสตร์" ของฝ่ายอำนาจนิยม ที่ล้มเหลวอย่างหนัก ชนิดแพ้ยับ รวมคะแนนมัด 4 คน ยังสู้ผู้ชนะคนเดียวไม่ได้ กล่าวคือ เขายอมรับว่านี่คือ "ความล้มเหลว" และที่ล้มเหลวเพราะเชื่อ "โพล" ง่ายเกินไป และยินดีรับคำประณามจากฝั่งเดียวกัน
.
ที่สำคัญ เสรียอมรับว่า ยุทธศาตร์ "ไม่เลือกเรา เขามาแน่" ไม่ได้ผลอีกแล้วในการเลือกตั้งรอบนี้ เพราะตัวเลือกเยอะเกินไป ถ้าเป็น 2 คนยังพอได้ ถ้าสมมติว่ามีอีกคนยืนอยู่ และอีก 2 คนรวมกัน คะแนนชนะอีกคน ก็ยังพอรวมได้ แต่รอบนี้ มันตั้ง 4 คน จึงไม่ได้ผล
.
.
นี่เป็น "Message" ของการ "ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างหมดรูป" ที่น่าสนใจ จากตัวแทนของผู้สนับสนุนฝ่ายอำนาจนิยม และ เคยสนับสนุนการรัฐประหาร ซึ่งเป็นท่าทีจากคนที่เคยกล่าวว่า "...3 แสน เสียงของกรุงเทพฯ แต่เป็นเสียงที่มีคุณภาพ ย่อมดีกว่า 15 ล้านเสียงในต่างจังหวัดแต่ไร้คุณภาพ..."