วันอาทิตย์, พฤษภาคม 29, 2565

บรรทัดฐานที่ "ห่วยแตก" ศาลแพ่ง "ไม่คุ้มครอง" ม็อบ #NoNpoBill จากการบังคับใช้ข้อกำหนดควบคุมโรคตาม #พรกฉุกเฉิน แต่ตอนกปปส.ชุมนุม "คุ้มครอง" ห้ามรัฐบาลในสมัยนั้นฐานะจำเลย 9 ข้อด้วยกัน



เมื่อเดือนก.ย.2557 กลุ่มกปปส.ได้ยื่นฟ้องศาลแพ่ง เพื่อให้เพิกถอนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และออกข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยมิชอบและยังไม่มีเหตุจำเป็น โดยศาลแพ่งพิพากษาว่ากฎหมายให้อำนาจฝ่ายบริหารออกพระราชกำหนด จึงไม่มีการเพิกถอน แต่ศาลได้มีคำสั่งห้ามรัฐบาลในฐานะจำเลย 9 ข้อด้วยกัน ประกอบด้วย

1.ห้ามจำเลย มีคำสั่ง ให้เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม 
2. ห้ามจำเลยยึดอายัด สินค้า อุปโภค บริโภค ที่ใช้ในการสนับสนุนการชุมนุม ของโจทก์ และผู้ชุมนุม 
3.ห้ามจำเลย ตรวจค้น รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง ของผู้ชุมนุม

4.ห้ามจำเลย ห้าม ผู้ชุมนุมซื้อขายสิค้า เครื่องอุปโภค บริโภคที่ใช้ในการชุมนุม 
5.ห้ามจำเลย ปิดการจราจรเส้นทางคมนาคม 
6.ห้ามจำเลย สั่งห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

7.ห้ามจำเลย สั่งห้ามใช้เส้นทางคมนาคม ตามที่จำเลยกำหนดไว้ในประกาศ 
8.ห้ามจำเลย สั่งผู้ชุมนุมห้ามใช้อาคาร 
9.ห้ามจำเลย มีคำสั่งห้ามบุคคล เข้า และ ออก พื้นที่การชุมนุม

ที่มา
เปิดบรรทัดฐาน ‘ศาลแพ่ง’ ประกาศพ.ร.ก.ได้ แต่ห้ามสลายม็อบ
กรุงเทพธุรกิจ
.....

iLaw
17h ·

ศาลแพ่ง "ไม่คุ้มครอง" ม็อบ #NoNpoBill จากการบังคับใช้ข้อกำหนดควบคุมโรคตาม #พรกฉุกเฉิน ศาลรับรองว่า โจทก์มีเสรีภาพในการแสดงออก และการชุมนุม แต่การคุ้มครองจะไม่ได้สัดส่วน และไม่มีเหตุอันสมควร
.
27 พฤษภาคม 2565 เครือข่ายคัดค้านพ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชนชุมนุมปักหลักบริเวณหน้าอาคารสหประชาชาติ เข้าสู่วันที่ 5 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดการพิจารณาร่างกฎหมายใหม่ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของภาคประชาสังคม และถูกกดดันจากตำรวจให้ย้ายที่ชุมนุม โดยในช่วงเวลาที่ชุมนุมมีกฎหมายที่ให้อำนาจตำรวจสั่งห้ามหรือสลายการชุมนุมได้ คือ ข้อกำหนดที่ออกมาเพื่อควบคุมโรคโควิด ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินเท่านั้น
ตัวแทนของผู้ชุมนุมจึงไปฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง ขอให้ยกเลิกข้อกำหนดที่สั่งห้ามชุมนุมตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยเห็นว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดสามารถควบคุมได้ และเตรียมการให้ไวรัสโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น การห้ามชุมนุมจึงมีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวางการการแสดงออก ของประชาชนยิ่งกว่าการป้องกันโรคตามกฎหมาย และขอให้ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้ตำรวจบังคับใช้ข้อกำหนดนี้ เพื่อให้ประชาชนชุมนุมได้
ชวนดูสรุปคำฟ้องคดีนี้ ได้ที่ https://ilaw.or.th/node/6151
ชวนดูสรุปร่างพ.ร.บ.ที่ผู้ชุมนุมคัดค้าน ได้ที่ https://ilaw.or.th/node/6112
.
27 พฤษภาคม 2565 เวลา 13.00 น. ศาลแพ่งนัดอ่านคำสั่งชั้นขอคุ้มครองชั่วคราว ให้ยกคำร้อง ดังนี้
พิเคราะห์คำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาประกอบพยานหลักฐานที่โจทก์ทั้งสามนำเข้าไต่สวนแล้ว เห็นว่าโจทก์ทั้งสามเป็นผู้เข้าร่วมชุมนุมในนามกลุ่มคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน ทำกิจกรรมคัดค้านและเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากการพิจารณา ร่างกฏหมายดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นซึ่งถือเป็นสิทธิของโจทก์ทั้งสามที่จะแสดงความคิดเห็นหรือแสดงออก หรือจัดกิจกรรมต่างๆได้ตามรัฐธรรมนูญ
แต่การชุมนุมเป็นวิธีการแสดงออกประการหนึ่งในหลายประการที่โจทก์ทั้งสามสามารถกระทำได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสาม การที่โจทก์ทั้งสามขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยฉุกเฉิน โดยขอให้ระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 15 ข้อ 3 ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ฉบับที่ 37 ข้อ 2 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2561 ของจำเลยที่ 1 และประกาศฉบับที่ 14 ของจำเลยที่ 2 โดยอาศัยอำนาจตามข้อกำหนดฉบับที่ 10 ห้าข้อสามฉบับที่สาม 17 ข้อสองฉบับที่ 14 และห้ามไม่ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 และเจ้าพนักงานภายใต้บังคับบัญชาในสังกัดของจำเลยที่หกนำมาตรการ คำสั่ง หรือการกระทำใดใดตามข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวมาใช้กับโจทก์ทั้งสามและประชาชน รวมถึงการห้ามกีดขวางและนำอุปกรณ์สิ่งของที่ไม่ได้กำหนดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องเครื่องมือควบคุมฝูงชนในการชุมนุมสาธารณะลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2558 มากีดขวางการใช้เสรีภาพในการชุมนุมไปจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
เห็นว่าข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวนั้น ใช้บังคับโดยทั่วไปต่อพลเมืองในทุกท้องที่ในราชอาณาจักร หากมีคำสั่งให้ระงับการบังคับใช้โดยเฉพาะ เพื่อให้โจทก์ทั้งสามชุมนุมคัดค้านและเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรีถอนร่างกฎหมายจากการพิจารณา นอกจากนี้ตามประกาศฉบับที่ 14 ของจำเลยที่ 2 ก็ไม่ได้ห้ามการชุมนุมโดยเด็ดขาด เพียงจะต้องยื่นขออนุญาตดังนี้ เมื่อเปรียบเทียบแล้วยังไม่ได้สัดส่วนกับข้ออ้างในการชุมนุมของโจทก์ทั้งสาม กรณียังไม่มีเหตุฉุกเฉินทั้งไม่มีเหตุสมควรที่แท้จริงที่จะระงับการบังคับใช้ข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวในระหว่างพิจารณา
จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ