วันอาทิตย์, พฤษภาคม 22, 2565

'รสนา' กลับลำ ๑๘๐ องศา จวกทุนสามานย์แทน 'ชัชชาติ'

ผลเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ที่แน่นอนคงออกมาค่ำนี้ แต่นั่นไม่ได้เป็นประเด็นต้องลุ้น มากไปกว่าทีม สก.พรรคไหนจะมา เพราะนั่นหมายถึงการทำงานของผู้ว่าฯ คนใหม่จะมีประสิทธิภาพมากน้อยเป็นสำคัญ ไม่ใช่เรื่องการอยากได้อำนาจอย่างที่บางคนเพ้อพก

กทม.เป็นเขตบริหารนครที่เต็มไปด้วยการช่วงชิงผลประโยชน์มากกว่าอำนาจ ดังนั้นการกลับลำ ๑๘๐ องศาของผู้สมัครบางคน จึงสะท้อนความจริงเรื่องนี้ ไม่เลือกเรา เขามาแน่ ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ เพราะผู้ที่จะเลือกเรามีแต่ พวกเรา

เลือกไม่เลือกเขาก็มา ในเมื่อพวกเรามีแค่กระผีก รสนา โตสิตระกูล จึงต้องหันกลับนาฑีสุดท้าย จาก ไม่เลือกรสนา ชัชชาติมาแน่ ไปเป็น ไม่เลือกรสนา กลุ่มทุนสามานย์มาแน่ อ้างว่า “พาดหัวทำให้ประชาชนเข้าใจผิด” ซึ่งไม่ใช่

อย่ามาแถว่าประชาชน “อ่านแต่การพาดหัวโดยไม่ได้อ่านบทความ” ทั้งๆ ที่การพาดหัวอย่างนั้นทำให้กระแสตีกลับใส่ตน สิ่งที่รสนามาอธิบายภายหลังมันตรงข้ามกับพาดหัวอย่างสิ้นเชิง แม้นว่านั่นคือข้อเท็จจริง ที่บังเอิญรสนาหวนมายอมรับ

รสนาเพิ่งมาบอกตอนนาฑีสุดท้ายว่า “เราควรยุติความเชื่อ ไม่เลือกเรา เขามาแน่ได้แล้ว...เพราะยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะไม่มีวันได้ผล มีแต่จะทำให้เสียงแตก” เลยทำให้คนที่ยังลังเล รีบ ไม่เลือกเรา เขาจะได้มาแน่ๆ

เรา ที่ว่านี้คือพวก “กลุ่มการเมือง ๒ ขั้วความคิด...ผลัดกันเข้าสู่อำนาจ แต่ทุนสามานย์ คือผู้กำกับทิศทางการเมืองไทยที่แท้จริง มีอำนาจเหนือนักการเมืองทุกค่าย มีอำนาจเหนือนักวิชาการบางคน เหนือสื่อมวลชนบางสำนัก และเหนือโพลหลายสำนัก”

ส่วน ทุนสามานย์ นั้นได้แก่ “ทุนพลังงานที่ทำราคาพลังงานแพงเวอร์ และกลุ่มทุนโรงไฟฟ้าที่ไม่เดินเครื่องผลิตไฟก็ยังได้เงินจากกระเป๋าประชาชนปีละ ๔.๙ หมื่นล้านบาท...ส่วนภายใต้ทุนคมนาคม ก็หวังได้สัมปทานรถไฟฟ้ากันตลอดชาติ”

รสนาบอกว่า ถ้าใช้ยุทธศาสตร์ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” สิ่งที่จะได้ไม่ต่างไปจากเดิม คือ อุโมงก์ยักษ์ระบายน้ำ” แบบบึงหนองบอน “เพิ่งถล่มเมื่อ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ หนึ่งเดือนก่อนกำหนดรับมอบ” หรือรถไฟฟ้าที่มีแต่หนี้ เลยต้องต่อสัมปทานอีก ๓๐ ปี

โดยเฉพาะเกี่ยวกับ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ของ กทม.ที่ซอยอ่อนนุช “ส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนอย่างสาหัสแก่ชุมชนในรัศมี ๑๐ กิโลเมตร” ซึ่งเพิ่งถูกสั่งพักใบอนุญาตเมื่อ ๕ เมษา หลังจากถูกร้องเรียนมาตลอด ๒ ปี

รสนาบอกด้วยว่าถ้าเลือกตามยุทธศาสตร์ เท่ากับ “สนับสนุนเทคะแนนให้คนที่ทุจริตกลับเข้าสู่อำนาจ ประเด็นนี้ต่างหากที่จะเป็นสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่า...เพราะยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะไม่มีวันได้ผล มีแต่จะทำให้เสียงแตก”

จึงไม่น่าแปลกใจที่นอกจากเครือข่ายสลิ่มแห่งชาติ พันธมิตรฯ เดิม เช่น จำลอง ศรีเมือง สนธิ ลิ้มทองกุล พิภพ ธงไชย สุรชัย จันทิมาธร ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และสมณะโพธิรักษ์ แล้วยังมี ส.ศิวรักษ์ กับวีระ สมความคิด สนับสนุนและเชียร์กันด้วย

เสียแต่ว่า วีระ สมความคิด นั่นออกรายการชื่นชมและเชิดชูรสนาไว้ยืดยาว ครั้นตอนหย่อนบัตรคะแนน กลับ “กาเบอร์ ๘ ซะงั้น” หม่อมกรซึ่งเป็นอีกคนที่หนุนหลังรสนาเต็มที่ บอกว่า “งงสิครับ งานนี้” คงเพราะฟังรสนาแล้วไม่ซึมซับ

(https://www.facebook.com/thestandardth/posts/3047820342177504 และ https://www.youtube.com/watch?v=21_ZMozQRzc)