ต่อกรณีที่สำนักงานการบินพลเรือน หรือ กพท.แจ้งให้สายการบินดังกล่าวเข้าไปชี้แจงในวันจันทร์ที่ ๔ เมษานี้นั้น ข้อเท็จจริงก็คือสายการบินนั้นได้แสดงต่อสาธารณชนไปแล้ว ว่า “ฝ่ายบริหารทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษไปทางสำนักพระราชวัง”
นอกเหนือจาก “สั่งพักงานพนักงานที่เกี่ยวข้อง” สองคน พร้อมตัดเงินเดือนเป็นการลงโทษ ที่ดันมีแนวคิดล้ำหน้า จัดทำโฆษณาเข้ากับบรรยากาศ ‘วันเมษาหน้าโง่’ หรือ ‘April Fool’s Day’ โกหกหน้าตายว่า “เปิดเส้นทางใหม่ น่าน -> มิวนิค (ราคา) เริ่มต้น ๑,๐๑๐ บาท/เที่ยว”
มุขตลกอย่างนี้ในวัฒนธรรมสากล เห็นกันแล้วอาจยิ้มย่องว่าเป็นไปได้ไง น่านมีสนามบินนานาชาติเหรอ และราคาพันกว่าบาทน่าจะจากน่านไปแม่ฮ่องสอนมากกว่า อะไรประมาณนั้น แต่ในกะลาแลนด์ ดินแดนที่เซลสมองของประชากรที่สนับสนุนผู้นำน้อยกว่า ๘ หมื่น ถึงต้องดราม่า
ณฐพร โตประยูร เขียนโพสต์ออนไลน์ว่า “การกระทำของไทยเวียตเจ็ทมีความผิด ตามรัฐธรรมนูญ” ในเมื่อ “รู้ดีอยู่แล้วว่าจังหวัดดังกล่าวเป็นที่เกิดของใคร” แน่ใจหรือ ณฐพรอาจจะรู้ แต่รับรองผู้คนกว่าครึ่งประเทศไม่รู้ว่าเป็นที่เกิดราชินี
ส่วนมิวนิคนั่นอาจมีคนรู้มากกว่า ๕๐% ได้เพราะเป็นสถานที่กษัตริย์รัชกาลสิบทรงเสด็จไปเป็นนิจสิน และบ่อยครั้งประทับอยู่แถวนั้นเป็นเวลานานมาก แต่ก็อีกหละ อย่าง ‘เอกชัย หงส์กังวาล’ ว่า ไม่ใช่พระองค์เดียวที่เสด็จไปที่นั่น คนทั่วโลกไปกันเป็นแสนเป็นล้าน
ดังนั้นที่ณฐพรอ้างมาตรา ๖ รัฐธรรมนูญ “องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพ ‘สักการะ’ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้” นั้นไม่เข้าข่ายเนื่องจากโฆษณาสายการบินที่ว่า ไม่ได้ล่วงละเมิดใดๆ และโน โน โน การล้อเล่นดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้เสื่อมเสียใดๆ
ณฐพรเสียอีก ซึ่งเอาเรื่องนี้มาตีโพยโวยวาย เหมือนจงใจจะบอกเองว่าสถาบันฯ เสื่อมเสียแล้วนะ ใจคอจะบิดพริ้วตอกย้ำขนาดนี้ น่าจะเป็นผู้ที่โดนตรวจสอบว่าทำทีปกป้อง แต่ความเสื่อมเสียเกิดจากวิธีการปกป้องนั้นเองไปแล้ว
อีกทั้ง ‘เอพริลฟูลส์เดย์’ นั้นเป็นธรรมเนียมตะวันตกที่กฎหมายรัฐธรรมนูญไทยไม่ได้นึกถึง จึงไม่ได้ห้ามไว้อย่างที่ณัฐพรหลอกลวง อย่ามาทำเป็นตอแหลมุสา ฉะนี้ถ้าซีอีโอเวียตแอร์ไลน์จะร้อนตัว “ขอยอมรับผิดทุกอย่างในสิ่งที่เกิดขึ้น” ก็แค่สมยอมกันและกัน
“ฝ่ายบริหารของสายการบินฯ มิได้ให้ความเห็นชอบ หรือมีนโยบายสนับสนุนให้เผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ในลักษณะดังกล่าว โดยได้สั่งการให้มีการลบโพสต์ดังกล่าวทันทีที่ทราบ” ก็เป็นเรื่องภายในของบริษัทนั้น การลงโทษพนักงานของตัวเองย่อมเพียงพอ
ทั้งณฐพรและศรีสุวรรณ เป็นเพียง ‘หน้าม้า’ หากินกับการโหน ‘สถาบันฯ’ ขืนเต้นตาม สถาบันฯ ก็เท่ากับเป็นเครื่องมือหากินของพวก ‘Con Artist’ นักปลิ้นปล้อน กลายเป็นองค์กรที่ ‘ห้อย’ ติ่งกับกระบวนการต้มตุ๋นไปเสียฉิบ
(https://prachatai.com/journal/2022/04/97986, https://www.matichon.co.th/local/news_3268581 และhttps://innnews.co.th/news/criminal/news_316863/…)
