เลือกตั้งผู้ว่า กทม.งวดนี้ ดูจากการหาเสียงช่วงหลังนี่ ถ้ามีพลิกล็อคอันดับสองขึ้นมานำในคูหาละก็ ชาวกรุงคงได้นักโฆษณาประชาสัมพันธ์ชั้นยอดไปแก้ปัญหาน้ำท่วม ฝุ่นผงเป็นพิษในอากาศ และคุณภาพชีวิตบนท้องถนน กันละ
เฉพาะปัญหาการใช้รถใช้ถนน ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของชาวกรุง รถเมล์คร่ำครึ รถไฟฟ้าราคาแพง รถมอเตอร์ไซค์ไร้มารยาท ทางม้าลายไม่ขลัง เรือด่วนเบียดเสียด ฟุตปาตแค้บแคบ และสวนสาธารณะเห้เยอะ แล้วยังรอขบวนน้านนาน ไปทำงานกันไม่ทัน
กรณีหลังนี่ตัวอย่างล่าสุดหลัดๆ ตำรวจปิดกั้นจราจร เสียงประชาชนร้องโวยวายกันขรม “ไปได้มั้ย จะไปทำงานนนนน...แค่คนไม่กี่คน แต่มึงเดือดร้อนคนอื่น ทำได้ไงวะ” ก็ไม่รู้ขบวนของใคร มันเป็นนิจสินเสียจนขี้เกียจสืบสาว รู้ๆ กันอยู่ว่าใคร
ทว่าการหาเสียงผู้ว่าฯ ล่าสุดเรื่องใหญ่ป้ายปักริมถนนและบนทางเท้า โดยเฉพาะของผุ้สมัครพรรคเก่าแก่ที่ติดโพลธรรมศาสตร์อันดับสอง นั่นโดนชาวบ้านเฉ่งตั้งแต่ต้น ที่ขึ้นไว้ขนาดใหญ่เหลือเกินตามสถานีบีทีเอส แทนที่จะโดดเด่นเป็นสง่า กลับทำให้หลายคนหมั่นไส้
แล้วก็มีของ ‘ธี’ กับของผู้ว่าเก่าจากการแต่งตั้ง นั้นปิดกั้นทางเท้าริมถนนเกือบมิด บางอันติดในระดับสูงจากพื้น แต่คนติดตั้งคงสูงแค่ ๑๕๐ ซ.ม. จึงไม่พ้นหัวคนเดินถนนทั่วไป ส่วนมากขนาดใหญ่จริงทั้งนั้น เห็นมีของพรรคก้าวไกลบางอันแขวนสูงกว่าหัวน่าอิจฉา
สำหรับป้ายของคนที่เต็งหนึ่งมาตลอดกระทั่งวันนี้ ได้รับคำชมเชยมากทั้งการออกแบบและเนื้อหา รูปแบบเป็นแนวตั้งแคบๆ แค่มิดเสาไฟฟ้า เนื้อหาง่ายๆ รูปใบหน้า ชื่อ และหมายเลขที่ได้ เลยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ด่าและชมคนนั้นคนนี้กันขรม
ร้อนถึงพวกที่โดนด่าต้องจัดการแก้ไข ผู้ว่าคนเก่าซึ่ง คสช.ตั้งเข้าไปหมายให้เป็น ‘ขวัญเมือง’ แล้วก็ยัง ‘failed’ เมื่อตอนน้ำท่วมคราวที่แล้วจนได้ ออกไปจัดเก็บและปรับเปลี่ยนป้ายโฆษณาของตนที่กีดขวางฟุตปาตทางเท้า กลายเป็นข่าวส่วนหนึ่งของการหาเสียงไปซะอีก
ด้านพรรคเก๋ากึ๊ก ก็มีคนออกมาคุยว่าป้ายแคบน่ะหรือพวกเราเคยทำมาก่อนแล้ว แต่ไม่ยักให้เหตุผลว่าทำไมคราวนี้ไม่ทำอีก ปล่อยให้ผู้สมัครที่ ‘แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี’ เอาไปทำอยู่คนเดียว ไม่ช้าไม่นาน เมื่อวานมีเวอร์ชั่นแก้ไข และดัดแปลงออกมาโชว์
เป็นข่าวด้วยเหมือนกันว่า ‘พี่เอ้’ วิศวกรมือฉมัง ปรับป้ายโฆษณาของตนใหม่ ไม่เพียงลดขนาดกว้างเท่าเสาไฟฟ้า แต่เพิ่มอีกสามด้านเป็นกล่องล้อมเสาไฟไว้พอดี พวกติ่งบางคนร้อง “จีเนียส จีเนียส” นั่นเลย เจ้าตัวไม่เขินนะ บอกแบบนี้คิดได้นานแล้ว (บังเอิญลืมทำ)
สุดท้ายเรื่องใหญ่สุดสำหรับการสัญจรของคนกรุงเกี่ยวกับการที่ตำรวจปิดเส้นทาง เวลานานเป็นชั่วโมง สองชั่วโมง นั้นไม่เห็นมีใครเอ่ยถึงการแก้ไข อาจจะเพราะระดับผู้ว่าฯ ไม่กล้า หรือไม่คิดจะทำ แม้กระทั่งระดับนายกฯ ก็ยังไม่คิดจะแก้ไข
เวลานี้มีผู้เสนอตัวเข้ารับเลือกตั้งแล้วทั้งหมด ๓๑ คน เป็นชาย ๒๕ คน หญิง ๖ คน ไม่ปรากฏ ‘ทรานเจ็นเดอร์’ (พริ้มเพรา เหมือนการเกณฑ์ทหาร) โพลธรรมศาสตร์ล่าสุด (ครั้งที่สาม) เรียง ๖ อันดับ ชัชชาติ สุชัชวีร์ วิโรจน์ อัศวิน สกลธี รสนา และศิธา
โดยที่ ๓ อันดับแรกยังเป็นหน้าเดิม ที่หนึ่ง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อิสระ (จากเพื่อไทย) ได้ ๒๕.๗% ส่วน สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ปชป.จัดส่ง) อันดับสอง ๒๐.๓% วิโรจน์ ลักขณาอดิสร (ก้าวไกล) ที่สาม ไล่ตามไม่ห่างมากนัก ๑๑.๘%
มีข้อสังเกตุว่าเป็นคนเดียวในสามตัวนำที่คะแนนมีแต่เพิ่ม ขณะที่อันดับ ๑ และ ๒ คะแนนตกมาเรื่อยๆ จากการสำรวจ ๓ ครั้ง ส่วนพวกที่ได้ไม่ถึง ๑๐% อัศวิน ขวัญเมือง ไม่น่าจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังเมื่อถึงปลายทาง คะแนนเพิ่มเรื่อยๆ เหมือนกัน ตอนนี้ได้ ๙%
ส่วนผู้เสนอตัวจากสาย กปปส.และ พธม. สกลธี ภัททิยกุล และ รสนา โตสิตระกูล นั้นดูเหมือนฐานคะแนนจะมีไม่พอ ‘ธี’ นั้นการออกมาหนุนโดย ‘เทพเทือก’ ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น เช่นกันกับรสนาที่กำลังชู จำลอง ศรีเมือง ให้เป็นแสงนำทาง
แต่จากการที่รสนาเปิดตัวเป็นผู้ศรัทธา ‘ฟ้าทลายโจร’ และปรามาสวัคซีน ในกระบวนการต่อสู้กับ ‘โควิด-๑๙’ นั้นไม่น่าจะช่วยให้คะแนนกระเตื้อง กลับอาจจะลดลงไปอีก น่าสงสารที่เลือกเป็นเสียงข้างน้อย ฝ่าย ‘No-vaxx’ โชคดีที่รอดปากเหยี่ยวมาได้
(https://prachatai.com/journal/2022/04/98005, https://www.facebook.com/Feedforfuture/posts/5031263560285067 และ https://www.khaosod.co.th/politics/news_6978561)