พลเอกพิเศษ มิ้น อ่อง หล่าย (Min Aung Hlaing) วัย 64 ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งกองทัพพม่า ผู้ก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง โดยระบุ #กองทัพจะเข้าควบคุมสถานการณ์ในประเทศเป็นเวลาหนึ่งปี
กล่าวหารัฐบาลอ่องซานซูจีโกงการเลือกตั้ง และไม่ยอมรับการพ่ายแพ้อย่างย่อยยับของพรรคทหารในสภา โดยสั่งให้ทหารควบคุมตัว อ่องซาน ซูจี ประธานาธิบดี รัฐมนตรี ผู้นำชนกลุ่มน้อย และนักกิจกรรมหลายคน ทั้งที่มีกำหนดเปิดสภาชุดใหม่วันนี้
เขาเป็นลูกบุญธรรมป๋าสี่เสา- "เปรม ติณสูลานนท์"อดีตประธานองคมนตรีและนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ เดินทางมาไทยบ่อยครั้งเป็นว่าเล่น
เขาได้รับเครื่องราชฯ "ประถมาภรณ์ช้างเผือก"เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 เพื่อยกย่องให้การสนับสนุนการดำเนินงานของกองทัพไทยมาตลอด (ปล: นายพลเน วิน อดีตผู้นำรัฐบาลทหารพม่า ก็เคยได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นมงคลยิ่งราชมิตราภรณ์ ในปี 1962 และ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นมหาปรมาภรณ์ช้างเผือก เมื่อปี 1960)
เป็นความลับที่รู้กันอย่างเปิดเผยในระหว่างกองทัพพม่าและไทยว่า
เขาทั้งสองนับถือกัน จัดเป็น"ลูกป๋า"อีกคนหนึ่ง
วันที่เดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาลงนามแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ พล.อ.เปรม
เขาได้เผยความรู้สึกตอนหนึ่งว่า เหมือนสูญเสียบิดา
“อายุของพลเอกเปรม ห่างกับพ่อผมเพียง 1 ปี พ่อผมเสียชีวิตเมื่อปี 2002 หลังจากนั้น 10 ปี ผมก็ได้พบกับ พล.อ.เปรม”
แหล่งข่าววงการทูตเปิดเผยกับข้าพเจ้าว่า
ช่วงเลือกตั้ง พรรคทหารพม่าได้ข้ามมาซื้อเสียงแรงงานพม่าในไทยด้วย แต่ก็ยังแพ้เลือกตั้งอยู่ดี
(สำนักข่าวหงวน จัดให้)