วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 12, 2564

บันทึกความทรงจำและความรู้สึกการเข้าเยี่ยม ทนายอานนท์ นำภา ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยทนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม 11 ก.พ. 64


นรเศรษฐ์ นาหนองตูม
10h ·

วันที่เปลี่ยนแปลงไป
ความทรงจำครั้งก่อนตอนเข้าไปเยี่ยมทนายอานนท์ที่เรือนจำ
ทุกอย่างยังเหมือนสถานการณ์ปกติ
เรายังสามารถเยี่ยมกันได้ผ่านกระจกกั้นห้องทนายความ
แม้จะอยู่ในช่วงกักตัว 14 วัน
แต่ก็ยังเยี่ยมผ่านห้องกระจกกั้นนั้นได้ เสียงพูดคุยชัดเจน
ภาพใบหน้าชัดเจน เราสามารถส่งต่อเอกสารให้กันดูได้ชัดเจน
เมื่อถึงวันที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
ระเบียบเรือนจำพิเศษกรุงเทพเคร่งครัดมากกว่าเดิม
เราไม่สามารถปรึกษาหารือผ่านห้องกระจกกั้นได้อีกต่อไป
เราต้องคุยกันผ่านช่องทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์สี่เหลี่ยมตรงนั้น
ใบหน้าไม่ชัดเจนนัก เอกสารทางคดีไม่สามารถนำให้ดูได้อย่างชัดเจน เสียงแผ่วเบาจนเกือบจะไม่ได้ยิน
ช่วยเร่งเสียงให้ดังขึ้นกว่านี้อีกได้ไหม ผมพึมพำในใจ
ภาพหน้าจอที่ปรากฏตรงหน้าคือทนายอานนท์
เขามาในชุดนักโทษเสื้อน้ำตาล
ถูกจับตัดผมทรงสกินเฮดสั้นเกรียน
มองดูแล้วก็แปลกตา ราวกับว่าไม่ใช่พี่เราที่รู้จัก
“สบายดีไหมพี่” ผมถามทั้งที่รู้คำตอบว่า
คงไม่มีใครสบายได้ในเรือนจำแห่งนั้น
คงไม่มีใครสบายได้จากอารมณ์ความรู้สึกที่ต้องติดคุกทั้งที่คิดว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด
“สบายดี” เขาตอบกลับมาด้วยท่าทีเคร่งขึม
เขาไม่ได้ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างที่เคย
ไม่ได้พูดคุยตบมุขกันโบ๊ะบ๊ะเหมือนตอนที่อยู่ข้างนอก
เราพูดคุยแนวทางคดีกันเป็นส่วนมาก
คุยเรื่องคดีความที่เขารับผิดชอบ
ถามไถ่ถึงเหตุการณ์บ้านเมืองต่าง ๆ เขาห่วงหลายคน
เป็นห่วงสถานการณ์ เป็นห่วงเพื่อนร่วมทางเดิน
ห่วงการเคลื่อนไหว ห่วงคนรัก ห่วงครอบครัว
ห่วงหลายสิ่งหลายอย่าง ฝากทุกคนให้ดูแลตัวเอง
จนแทบจะไม่ได้เอื้อนเอ่ยเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาเองมากนัก
ทุกเรื่องราวที่เขาเล่า ผมได้แต่เก็บงำความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ในใจ มันเหนื่อยและเจ็บ ทำไมกันนะ ทำไมเขาต้องถูกขังอยู่ ณ ที่แห่งนั้น เพียงเพราะอยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้...
ผมพยายามตัดบทเพราะอยากรู้เรื่องราวความเป็นอยู่
สภาพข้างในเป็นยังไงบ้างพี่?
“ตอนนี้ข้างในค่อนข้างจะแออัดเพราะคนอยู่กันเยอะมาก”
เขาจบคำตอบเพียงแค่นั้นไม่ได้เล่าอะไรต่อเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองด้านใน
ผมไม่ได้พูดคุยสนทนาใด ๆ ต่อ
เพราะคนอื่น ๆ จะต้องเข้าเยี่ยม
ผมเอ่ยคำร่ำลาที่เรียบง่าย
ผมกลับก่อนนะพี่ ดูแลตัวเองด้วยนะ
ช่วงนี้หยุดยาว 3 วัน คงจะได้เจอกันอีกทีก็วันจันทร์
……………………………………………………………
ใช่!! ที่พี่บอกว่า “ขังฝนเม็ดเดียว เขาจะเจอกับห่าฝน”
ถ้าพี่เปรียบตัวเองเป็นเม็ดฝน พี่คงก็เป็นฝนกรด
ฝนกรดที่หยดลงบนพื้นดินแล้วมันจะค่อย ๆ กัดกร่อนความศักดิ์สิทธิ์ชนชั้นนำศักดินาในประเทศนี้
ผมรู้ว่าสิ่งที่พี่กำลังเผชิญอยู่เบื้องหน้ามันหนักเหลือเกิน
พี่กำลังเผชิญอยู่กับการ “ขังระหว่างพิจารณา”
ถ้าไม่ได้รับการประกันตัวพี่จะต้องถูกขังอยู่ในเรือนจำไปเรื่อย ๆ จนกว่าศาลจะพิพากษายกฟ้องหรือจนกว่าคดีจะจบ
อาจจะ 1 ปี 2 ปี 3 ปี หรือมากกว่านั้น
ซึ่งมันเป็นระยะเวลาที่นานแสนนานเหลือเกิน
หลายคนอาจจะเรียกว่า “ขังลืม”
แต่สำหรับผมคงไม่ลืม เพราะคุกขังพี่ได้ จองจำพี่ได้
แต่การขังไม่ได้ทำให้ผมลืมพี่
มันยิ่งตอกย้ำให้ผมจดจำภาพใบหน้า การเคลื่อนไหวต่อสู้ของพี่ มันตอกย้ำทำให้ผมจดจำพี่อย่างแจ่มแจ้งมากขึ้นในฐานะคนธรรมดาสามัญลูกชาวนาที่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมเหมือนกับคนอื่น ๆ อีกนับหมื่นคน แสนคน ในประเทศนี้ สำหรับผมพี่คือพี่ที่ดีคนหนึ่ง คือทนายที่ดีของลูกความ คือพ่อที่ดีของลูก คือลูกที่ดีของครอบครัว
…………………………………………..
คุกขังพี่ได้ แต่คงไม่สามารถลบเลือนพี่ไปจากความทรงจำของผมได้
คุกขังพี่ได้ กักขังจองจำร่างกายพี่ได้
แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่าที่แห่งนั้นขังพี่ได้เพียงร่างกาย
แต่จิตใจเสรีของพี่ยังจะโลดแล่นและต่อสู้ตลอดเวลา

บันทึกความทรงจำและความรู้สึกการเข้าเยี่ยม
ทนายอานนท์ นำภา ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

11 ก.พ. 64
ทนายไทบ้าน

...
นรเศรษฐ์ นาหนองตูม
February 9 at 11:04 PM ·

โคตรคน โคตรคม


Chetawan Thuaprakhon
February 9 at 10:22 PM ·

“ในตลอดชีวิตของผมนะครับ ผมเคยเห็นการล้มล้างการปกครองแบบเดียวคือการรัฐประหาร ซึ่งปัจจุบันหัวหน้าคณะรัฐประหารเป็นนายกรัฐมนตรี อีกคนหนึ่ง แกนนำเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง ผมยังไม่เคยเห็นการแก้ไขกฎหมายเป็นการล้มล้างการปกครอง"
.
ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ตอบคำถามสื่อมวลชน จากกรณีที่เช้าวันนี้ "พรรคก้าวไกล" เสนอยื่นร่างแก้ไขกฎหมายชุดใหญ่ที่เกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออก ปกป้องการละเมิดสิทธิของประชาชน ไม่ว่าจะเป็น กฎหมายว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์, ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง, ประมวลกฎหมายอาญา, ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และแน่นอนที่สังคมจับตาคือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
.
ในช่วงเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนถามตอบ พอจะเดาคำถามคลาสสิกที่อาจจะต้องเจอได้บ้าง และในคำถามแรกสุดเลยที่มาก็คงประมาณว่า การเสนอแก้ไขกฎหมายชุดนี้ของพรรคก้าวไกล ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยจะมองว่าเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ? ซึ่งคำตอบของพรรคก้าวไกล ก็เป็นดังที่กล่าวมาข้างต้นนั่นแล
.
ปรบมือสิ รออะไร...