โลก 2 ใบของ “ลุง”
กิจกรรมการเมืองวันนี้มี 2 จุดพีค หนึ่งคือ #วิ่งไล่ลุง ที่ถูกตีขนาบมาด้วยการ #เดินเชียร์ลุง
ทั้ง 2 กิจกรรม มีจุดร่วมเดียวกันคือแสดงพลังให้ “ลุง” เห็น
คือเห็นว่าไม่เอาลุง กับ เห็นว่าควรให้ลุงได้ไปต่อ
งานวันนี้มีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ “สวน” ใจกลางกรุงเทพมหานคร
สวนรถไฟ และ สวนลุมพินี เหมือนคู่ชกที่ถูกจัดให้อยู่กันคนละมุม (วิ่งไล่ลุงมีในต่างจังหวัดด้วย)
โลกของ #วิ่งไล่ลุง มีลักษณะเฉพาะที่ชัดเจนคือ คนรุ่นใหม่ วัยทีน มนุษย์เงินเดือน หนุ่มสาวออฟฟิศ คนชั้นกลางมีอันจะกิน ไปจนถึงรากหญ้าที่ต่อสู้มาทุกสนาม
โลกของ #เดินเชียร์ลุง คละคลุ้งไปด้วยฝุ่นความทรงจำแต่เก่าก่อน ตั้งแต่เพลงปลุกใจ วาทะกรรม และผู้คนที่อยู่ในวัยเฒ่าชแรแก่ชรา ลุง ป้า อาม่า อากง มีหนุ่มสาวอยู่บ้างปะปลาย แต่คนสูงวัยกลุ่มนี้ ยังคงเป็นกลุ่มคนสูงวัยที่อู้ฟู้
จุดตัดของ “เจนเนอเรชั่น” ทำให้การมองโลกของคนสองวัย เป็นไปแบบขนานในแง่ของอุดมการณ์ ความคิด แต่ปลายทางยังพอบรรจบคือ “ชาติ” ที่รักและดูแลด้วยเหตุผลที่คิดว่าดีงามแตกต่างกัน
โลกของคนเชียร์ลุง จึงเป็นโลกที่ปฏิเสธ คนชังชาติ ธนาธร อนาคตใหม่ ทักษิณ และวิธีคิดแบบตะวันตกที่ลุงป้าคิดว่าสุดโต่ง แต่เลือกที่จะรักษา ลุง กลุ่มทหาร อำนาจเก่า เอาไว้เพราะคนเหล่านี้ล้วนทำภารกิจเพื่อชาติมากกว่านักการเมืองโกงกินที่เห็นมา
ส่วนโลกของคนไล่ลุง คือ โลกที่ปฏิเสธลุง บริวาร สมุน ความไม่เท่าเทียม คนไม่เท่ากัน อำนาจเก่าที่แทรกแซงหลายกลไก ความผุพังของรัฐธรรมนูญจากรัฐประหาร แต่เลือกที่จะรักษา ประชาธิปไตย คนที่มาจากการเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญจากประชาชน ยกเลิกเกณฑ์ทหารไปรับใช้นายพล เป็นต้น
นักการเมือง ในกลุ่มวิ่งไล่ลุงมามากกว่า เดินเชียร์ลุง แต่นัยยะนี้สะท้อนเสมอว่า นักการเมืองได้เบนเข้าหากิจกรรมมวลชนมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อไทย อนาคตใหม่ เซเลปทางการเมือง นักวิชาการ สวมเสื้อวิ่งไล่ลุง ขณะที่ หมอเหรียญทอง ผู้กองปูเค็ม อุ๊-หฤทัย จุฑาฑัตต์ จากรปช. มาเดินเชียร์ลุง
ความไม่ถอยไม่ทน ผ่านกิจกรรมไล่ลุง ถูกสร้างสรรค์ผ่านเวที ศิลปะ และกระบวนการจัดการ ตั้งแต่เสื้อ มาสคอต ท่าวอร์มอัพในเชิงสัญญะ รูปแบบกิจกรรม เป็นระบบเป็นขั้น
ส่วนความไม่ถอย แต่ทน ผ่านกิจกรรมเชียร์ลุง ก็ถูกสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมร้องเพลงปลุกใจ ใช้ธงชาติเป็นสัญญะ การทุบทำลายแตงโม ส้ม สตอเบอรี่เทียม
โลก 2 ใบที่มี “ลุง” เป็นจุดร่วม ดูเหมือนจะเลือกเดินกันคนละทาง และไม่ทนกันคนละแบบ โดยหาทางประสานไม่ได้เลย เพราะ “ลุง” คือสิ่งที่ฝ่ายหนึ่งเก็บ อีกฝ่ายเลือกทิ้ง
การแสดงออกทางการเมืองเหล่านี้ ได้เริ่มต้นแบ่งทางแยกของผู้คนในสังคมใหม่อีกหน ระหว่าง อนุรักษ์นิยม และ เสรีนิยมสมัยใหม่ ที่ไม่ใช่เรื่องสีเสื้อ แต่ร้าวลึกลงไปถึงรากอย่างแท้จริง
Tanakorn Wongpanya
นั่งดูรูป วิ่งไล่ลุง เดินเชียร์ลุง
พบความแตกต่างประการสำคัญนอกจากจำนวนแล้ว
คืองานเดินเชียร์ลุง จัดที่สวนลุมเพื่อเชียร์ประยุทธ์ จันทร์โอชา หาเด็กและเยาวชน แม้กระทั่งคนวัยทำงานแทบไม่เจอเลย
ถ้าประยุทธ์ เป็นตัวแทนของชนชั้นนำฝ่ายอำมาตย์นี่คือสัญญาณสำคัญว่า
พวกเขาแทบจะไม่เหลือการสนับสนุนจากกลุ่มคนเหล่านี้เลย
Thanapol Eawsakul