วันจันทร์, กรกฎาคม 01, 2562

"ต่ำตมลงไปทุกวันด้วยการข่มเหง" คนดีรุมตีนักกิจกรรม คนมีฐานะตบหน้าเด็กเสิร์ฟ และเด็กตู่ฟัดกันนัว


สังคมไทยนี้ไหงต่ำตมลงไปทุกวันด้วยการข่มเหง ความเรื่องจ่านิวถูกทำร้ายแล้วพวกสนับสนุนเผด็จการทหารสะใจ ยังร้อนฉ่า ความเรื่องเสี่ยขี่รถพ้อร์ชตบเด็กพนักงานร้านอาหารเพราะไม่พอใจให้ย้ายที่นั่ง เข้ามาช่วยยำ

จึงช่วยไม่ได้ที่ต้องนึกถึงต้นสายจากบรรยากาศอำนาจนิยมยุค คสช.อยู่ต่อโดยมุ่งหมายให้ถึง ๒๐ ปี ในขณะรัฐบาลใหม่ยังตั้งไม่ได้ เมื่อทั้งพรรคหลวงและพรรคร่วม ทั้งก๊วนหลักและก๊วนเลีย ฟัดกันนัวเนียแย่งตำแหน่ง

ในส่วนของ คสช.นั้นไม่ได้ยี่หระคะคานอันใด อยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ ความขัดแย้งแรงขึ้นยิ่งดีได้กำอำนาจแม่นมั่นนานๆ ผลาญงบปรมาณกันไปจนกว่าบ้านเมืองจะบรรลัย 
ว่าถึงเรื่องจ่านิว ตอนนี้ต้องย้ายไปโรงพยาบาลรามาธิบดี เพราะอาการตาข้างขวาที่ถูกตีอย่างตั้งใจให้พิการหรือถึงตาย ถ้าไม่มีเสียงร้องของผู้เห็นเหตุการณ์ว่า ตำรวจมาแต่แวดวง ตำรวจ นั่นกลับเป็นที่ต้องสงสัย

เพราะอาวุธที่ใช้ตีเป็นไม้พลองชนิดที่เรียกว่า กระบองยืด แบบที่ตำรวจใช้ ซ้ำรถจักรยานยนตร์ที่คนร้ายใช้ เหมือนรุ่นที่ประจำการใน สตช.อย่างที่สุด จะว่าเป็นเรื่องบังเอิญก็คงต้องโอเค

หากยังมีคนดัง ดารา กระทั่ง ผอ.รายการข่าวระดับรางวัลสตรีสากล ออกมาทับถมซ้ำเติมจ่านิวกันอยู่อีกหลายราย แม้จะมีข่าวแทรกเรื่องตบเด็กเสิร์ฟร้านอาหาร ก็มิได้ทำให้ควันหม่นของกรณีจ่านิวจางลงไป แต่เรื่องใหม่นี่ชี้ให้เห็นความเป็น สังคมข่มเหง ได้ชัดแจ้ง

จากที่ เรารักด่านตรวจ @DanTruat’ เล่าไว้แบบกระชับ “มากัน ๔ คนจะกินบุฟเฟต์ แต่เลือกคนละราคา ร้านเค้าเลยไม่ให้นั่งรวมกัน โมโหไปตบเด็กเสิร์ฟ ลั่น พวกมึงทำไรกูไม่ได้ ภายหลังชายคนก่อเหตุขับรถปอร์เช่ทะเบียน ๑๑๑๑ มามอบตัวที่โรงพัก”

แล้วแก้ตัวว่าเหตุที่ตบเด็กพนักงานบริการก็เพราะ “ผมมีฐานะ และก็รู้สึกว่าการกระทำของท่านเป็นการดูถูกผม...จะโกงเงินร้อยสองร้อยบาท ถูกหยามในความรู้สึกส่วนตัว...” แต่ก็จำยอมจ่ายค่าเสียหายไปคนละ ๕ พันบาท” ขนหน้าแข้งไม่ร่วง

ให้คลิปเล่าเรื่องดีกว่า” @BeautyDiary1989 ว่า “พนักงานเค้าก็ต้องทำหน้าที่ของเค้า...อาชีพไหนก็มีศักดิ์ศรีป่ะ” พิสูจน์กันด้วยตัวเองที่ https://twitter.com/BeautyDiary1989/status/1144824316535533568

มาถึงการตั้งรัฐบาล ตู่ ๒“ดูจากรายชื่อบุคคลที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ส่งไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แล้วปรากฏว่าพรรคการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ไม่มีปัญหาแต่ปัญหากลับไปตกอยู่ที่พลังประชารัฐ”

ลิขิต จงสกุล คอลัมนิสต์ ไทยรัฐเปิดโปงเรื่องชื่อรัฐมนตรีของกลุ่ม สามมิตรหล่นหาย ไม่มี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แต่กลับมี เทวัญ ลิปตพัลลภ เลยต้องมีการโวยจาก อนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลางของ พปชร.
 
“ขอว่าอย่าเปลี่ยนแปลงถ้าเป็นไปได้...กับตำแหน่งที่ได้ตกลงกันก่อนหน้านี้” อ้าง “ประยุทธ์ ชายชาติทหารคงไม่กลับคำพูด แต่ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ก็รู้สึกเสียใจแทนพี่ๆ น้องๆ ถ้ากลุ่มสามมิตรจะถูกตัดออก”

นัยว่ามีคนไม่หวังดีคอยให้ร้ายกระซิบข้างหูตู่ “ขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว และหากโดนรังแกจนทนไม่ได้จะแฉข่าวดังระดับชาติอย่างแน่นอน” ทำไปทำมาลงท้ายว่า “เชื่อมั่นนายกรัฐมนตรีไม่มีทางถอดใจ สื่อบางสื่อบิดเบือน ทั้งที่ไม่ใช่เลย”


บรรยากาศอย่างนี้ ทั้งรุมตีจ่านิว ตบหน้าเด็กเสิร์ฟ และเด็กตู่ฟัดกันนัว เกิดพร้อมๆ กันภายใต้ฉาก แบ็คดร้อป“เศรษฐกิจไทยชะลอตัวหนักมาก ทั้งส่งออก การลงทุน ท่องเที่ยว” ตามรายงานแบ๊งค์ชาติเอง ถึงตัวเลขเมื่อสิ้นเดือนพฤษภาคม ๖๒ ที่ว่า

“การลงทุนภาคเอกชนหดตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน” โดยเฉพาะในหมวดก่อสร้าง ไม่แต่เท่านั้น “การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอน หดตัวเช่นกัน แล้วยัง “มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัว .จากช่วงเดียวกันปีก่อน”

ส่วนที่ หด เหมือนกันแต่ไม่มาก ได้แก่ “มูลค่าการนำเข้าสินค้า หดตัวเล็กน้อยที่ .%” และ “จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศหดตัวเล็กน้อยที่ .%” จึงต้องคอยจับตาอัตราเงินเฟ้อและราคาขายปลีกน้ำมัน ที่ต่าง ลดลง ทั้งคู่


อาการหดหู่เหล่านั้น ทำให้ไพร่ฟ้า หน้าไม่ใส เสียแล้ว เลยยิ่งทำให้ต้องเร่งชวนกันบริจาค ๒๔๗.๕ บาท สมทบช่วยลดทอนอาการ แร้นแค้น ของแม่จ่านิว และเสริมเติมพลัง รีซิสแต๊นซ์ ของผู้บริจาค