แฉนายทุน หลุดคดีรุกป่าเพียบ นับพันเรื่องถูกดองเค็ม สวนทางชาวบ้าน ทั้งติดคุก-ปรับหลายแสน

แฉนายทุน หลุดคดีรุกป่าเพียบ นับพันเรื่องถูกดองเค็ม สวนทางชาวบ้าน ทั้งติดคุก-ปรับหลายแสน


มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายรัชชัย พรพา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม ในฐานะหัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ทช.ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะคดีในพื้นที่ป่าชายเลนในความรับผิดชอบของสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 – 10 ที่ครอบคลุมพื้นที่ป่าชายเลนทั่วประเทศ

ทั้งนี้ เริ่มดำเนินการที่สำนักฯ ที่ 1(ระยอง) ซึ่งรับผิดชอบ จ.ระยอง จันทบุรี ตราด เป็นที่แรกตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฎว่า จากการลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ชุดปฎิบัติการพิเศษฉลามขาวเข้าไปจับกุมดำเนินคดีมากที่สุดตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน คดีที่ได้มีการจับกุมไม่มีความคืบหน้าเลย ร้านอาหาร รีสอร์ต ทำนากุ้ง ที่ถูกจับกุมดำเนินดคี เพราะบุกรุกป่าชายเลน

คดีไม่คืบหน้าเลย ส่วนใหญ่ยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนแทบทั้งสิ้น ขณะที่ร้านอาหาร รีสอร์ต ที่ทำผิดกฎหมายยังเปิดให้บริการปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ต้องพูดถึงคดีบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน เป็นพันไร่ ที่ออกโฉนดโดยมิชอบก็ยังเงียบสนิท

หัวหน้าชุดปฎิบัติการพิเศษฉลามขาว กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทช.ได้ทำการสอบถามทั้งทางวาจาและส่งเอกสารถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าคดี มีความคืบหน้าไปถึงไหน เพราะไม่สบายใจที่รีสอร์ต ร้านอาหารที่ถูกจับกุมดำเนินคดีไปแล้วยังเปิดให้บริการอยู่ ปรากฎว่า ไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากพนักงานสอบสวนเลย

ดังนั้น ทช.จะทำเรื่องไปถึงอัยการสูงสุด เพื่อให้ติดตามทวงคดีอีกทางหนึ่ง เพราะยังมีอีกหลายพื้นที่ป่าชายที่ ทช.จะไปติดตามตรวจสอบสถานะคดีโดยเฉพาะที่ จ.พังงา ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการบุกรุกและมีการจับดำเนินคดีจำนวนมาก แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทางกฎหมายเช่นกัน

“ทช.พยายามจับกุมดำเนินคดีผู้ที่ทำผิดกฎหมาย แต่อำนาจในการติดตามคดี ไม่ใช่อำนาจโดยตรงของ ทช. สิ่งที่ ทช.ทำได้คือจับกุมส่งบันทึกจับกุมไปให้พนักงานสอบสวน แล้วก็ทวงถามผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำมากกว่านี้ไม่ได้

ขณะที่คดีที่ ทช.จับกุมโดนดองไว้เหมือนรอเวลาเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ทช.ก็พยายามอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการกวดขันเจ้าหน้าที่ของ ทช.ไม่ให้กระทำความผิด อย่างล่าสุด ทช.ได้ดำเนินดคี มาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบที่ จ.ตราด โดยปล่อยให้บริษัทชื่อดังมีการสร้างท่าเรือผิดกฎหมายรุกล้ำป่าชายเลนไปแล้ว” นายรัชชัย กล่าว

ด้าน นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ที่ปรึกษาชุดปฎิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กล่าวว่า การติดตามคดีค่อนข้างมีปัญหา ใช้ระยะเวลายาวนาน เฉพาะคดีของกรมป่าไม้ ที่จับกุมดำเนินคดีแล้วไม่มีความคืบหน้ามีเป็นร้อยๆ คดีทั่วประเทศ บางคดีจับกุมไปแล้ว ศาลมีคำสั่งให้ออกจากพื้นที่แล้ว ผู้ทำผิดยังไปร้องศาลปกครองให้คุ้มครอง เป็นต้น

พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(ศปป.4 กอ.รมน.) กล่าวว่า ปัญหาการดองคดี ที่ กอ.รมน.ไปร่วมกับกรมป่าไม้ และ ทช. จับกุม มีจำนวนเป็นพันๆ คดี เฉพาะในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา ทำแล้วเหมือนเตะหมูเข้าปากหมา คือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยคดีกัน อย่าง กรมป่าไม้หรือ ทช.ไปจับกุมคดีรุกป่า

ปรากฎ่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยิ้มเลย กรมป่าไม้ กับ ทช.ได้ป่าคืน แต่ไม่ได้คืนจริง เพราะนายทุนไปวิ่งคดีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดองคดีไว้มั้ง สั่งไม่ฟ้องมั้ง พอคดีหลุดก็กลับไปทำเหมือนเดิม แล้วส่วนใหญ่คดีที่หลุดไปแล้ว จะไม่มีการจับซ้ำทั้งที่รู้ว่าผิด

ขณะนี้ กอ.รมนกำลังนัดประชุมกับชุดปฎิบัติการพิเศษฉลามขาว ของ ทช. พยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ พญาเสือ กรมอุทยานฯ เพื่อหาแนวทางการดำเนินคดีกันใหม่ ต้องปรับแผนกันใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีบุกรุกป่าของนายทุน แตกต่างกับปัญหาชาวบ้านที่อยู่มาก่อนประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ในคดีบุกรุกป่า และส่งฟ้องศาลแล้วเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางส่วนต้องติดคุก และเสียค่าปรับอีกหลายแสนบาทเลยทีเดียว

(https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_2634416)