ตลาดเงียบเหมือนป่าช้า พ่อค้าแม่ค้าตลาดสดพะเยา เจอพิษเศรษฐกิจขายได้วันละไม่ถึง 100

พะเยา พ่อค้าแม่ค้าตลาดสดพะเยา เจอพิษเศรษฐกิจตลาดเงียบเหมือนป่าช้า ขายได้วันละไม่ถึง 100


12 กรกฎาคม 2562
Chiangmai News


วันที่ 12 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจที่ตลาดสดเทศบาลเมืองพะเยา ใจกลางย่านเศรษฐกิจเมืองพะเยา ซึ่งหลายปีก่อนเศรษฐกิจคึกคักมาก แต่ปัจจุบันถนนทางเข้าตลาดดังกล่าวโล่งมาก พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจย่ำแย่สุด ๆ ตลาดเงียบยิ่งกว่าป่าช้า ขายสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค วันละไม่ถึง 100 บาท จากปกติขายวันละ 1,000 กว่าบาท ตลาดเงียบเหมือนป่าช้า แม่ค้าหลายรายต้องนั่งเล่นโทรศัพย์ และนั่งหลับกันรอคอยว่าจะมีลูกค้ามาชื้อใหม

นายวัตสัน กรองแสง อายุ 49 ปี เจ้าของร้านรองเท้าสีสันพะเยา กล่าวว่า ในปีนี้ค้าขายไม่ดีเศรษฐกิจแย่มาก และก็ไม่เติบโตอะไรเลย เศรษฐกิจพังแย่ที่สุดของปี ตั้งแต่ขายมาตอนปี 2558 ตอนนี้ปี 2562 ระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจทรุดตัวมากค้าขายไม่ดี ที่มีข่าวว่าเศรษฐกิจเติบโตที่จริงไม่ได้เติบโตอะไรเลย คนค้าขายรู้ดี ใครไม่เข้ามาในพื้นที่จะไม่รู้เลย ถ้าผู้หลักผู้ใหญ่ที่เห็นว่าเศรษฐกิจในบ้านเมืองนี้ดี ลองเข้ามามองในตลาดสดพะเยา จะได้รู้ว่าสภาพที่พะเยาเคยบูมแค่ไหนเดี๋ยวนี้เป็นยังไง แตกต่างอย่างไร ถ้าใครมาบอกว่าเศรษฐกิจดี และเติบโต คนๆ นั้นตอแหล มันใช้ไม่ได้ ผมอยู่พะเยามา 20 ปี ปีนี้แย่ที่สุดตั้งแต่เลือกตั้งมา ไม่มีอะไรดีขึ้นเลยใครมาถามผม ผมพูดตรง ๆ ผมตอแหลไม่เป็น

นาย ณรงค์ชัย สุทธิกุลบุตร ประธานหอการค้า จ.พะเยา กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมถ้าพูดถึง GDP ในประเทศของเรา GDP อยู่ที่ประมาณ 3.8 แต่ GDP ของ จ.พะเยา เองซึ่งมีระดับต่ำกว่า GDP ของประเทศไทย ตอนนี้ข้อมูลจากทางคลัง ระบุว่า GDP ของพะเยาอยู่ที่ 3.0 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำมาก แล้วมีการชะลอตัว และต่ำลง เพราะว่านะวันนี้ในเรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นแล้ว อันดับแรกผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัวและหาแนวทาง ในวันนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคยังไม่เดินมาหาพ่อค้าแม่ค้า แต่จะเดินไปที่แหล่งชุมชนใหญ่ ๆ ที่มีความพร้อม ที่จะตอบความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วน ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อยเอง ที่จะต้องปรับตัว

อย่างที่ผ่านมา ที่ของแต่ละท่านก็มีการขายของออนไลน์ ไปตามชุมชนไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อจะขายของ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นกำลังซื้อของผู้ซื้อเอง ก็ลดน้อยถอยลงไป ทุกคนมีภาระมากขึ้น มีหนี้มากขึ้น ส่วนของเงินที่เข้ามาในพะเยาจริง ๆ แล้ว ณ วันนี้ เม็ดเงินของพะเยาเกิดจากภาคราชการ เป็นภาคลงทุนราชการเป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่สองคือในภาคของการเกษตร ในด้านการเกษตรแล้ว นะวันนี้เจอปัญหาภาวะของภัยแล้ง ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่า เป็นตัวส่วนสำคัญในการที่ใช้จ่ายกำลังจะน้อยลง เหมือนกับว่านะวันนี้เราก็เพิ่งในเรื่องของการลงทุน ของทางด้านราชการหรือภาครัฐ เท่านั้น