วันอาทิตย์, ตุลาคม 07, 2561

แหม่ หาเสียงรถไฟรางคู่ 'ขอเวลาอีกนิด' ทว่าเหมาะควรกว่าต้องไปดู เรื่องนายพลยึดทางเท้านอกรั้วเป็นของตัวเอง


ไอทู้บ เผด็จการไทยออกหาเสียงในกรุงแถวสถานีรถไฟ ป้องปากตะโกนบอกชาวบ้าน “อดทนหน่อย ขอเวลา” (อีกไม่นาน อย่างเพิ่งบักโกรกบักอานกันไปเสียก่อน) คุยฟุ้งอยู่มาสี่ปีทำทางรถไฟกว่า ๒ พันกิโลเมตร ถ้าอยู่ต่ออีกระยะจะได้ ๔ พันกิโล

ดีลไทย-จีน ผลาญงบประมาณ ๓ แสนล้าน ได้แค่เร็วปานกลางและรางคู่ ถ้าไม่ 'เสียรู้' ก็ 'รู้กัน' อย่างใดอย่างหนึ่ง นอกจาก 'เสียท่า' แล้วยัง 'เสียของ' ทั้งขึ้นทั้งล่อง

ขณะที่ชาวสวนยางยังคงร้องจ๊าก เมื่อ รมว.เกษตรฯ จะให้หยุดกรีดยางเพราะราคาตกไม่กระเตื้อง รัฐบาลจะชดเชยให้ไร่ละ ๓ พันบาท ชาวไร่บอกไม่ไหว ขืนหยุดกรีดเดือดร้อนหนักกว่านี้

แล้วยังจะมีหน้ามาทำฉุน “ไม่พอใจ ที่กระทรวงต่างๆ ที่รับผิดชอบโครงการไทยนิยมยั่งยืน...ไม่ผลักดันโครงการอย่างเต็มที่” ทั้งๆ ที่ทุ่มงบประมาณจ่ายลูกเดียวลงไปอีกเกือบแสนล้านบาท “แต่ที่ผ่านมาประชาชนไม่รู้จัก ผลงานไม่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม และไม่คืบหน้าเท่าที่ควร”

นสพ.ข่าวสดอ้างแหล่งข่าวใน คสช. เผยว่า ใกล้วันเลือกตั้งเข้ามา “จำเป็นต้องสร้างผลงาน นายกฯ ไม่พอใจมาก ที่รัฐมนตรีต่างๆ มุ่งทำงานในกระทรวงของตัวเองเท่านั้น ขณะที่ข้าราชการก็เกียร์ว่าง ไม่สนใจโครงการไทยนิยมยั่งยืน ซึ่งเป็นผลงานภาพรวมและหน้าตาของรัฐบาล”

แหล่งข่าวคนนี้บอกด้วยว่าเริ่มมีนักการเมืองจี้ตาปลา “เข้ามาตรวจสอบ และเชื่อว่าจะนำมาขยายประเด็นให้เห็นประชาชนเห็นถึงความล้มเหลวในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง สุดท้ายจะกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลอย่างแน่นอน”

นักการเมืองที่ว่า ข่าวสดระบุนายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลฯ พรรคเพื่อไทย บ่นโครงการประชานิยมมีแต่ลด แลก แจก แถม “เมื่อมีการลงพื้นที่สอนอาชีพ และประชุมประชาชนในพื้นที่แล้ว ก็ไม่มีการสานต่อ บางโครงการก็ซ้ำซ้อน สุดท้ายก็หายไปไม่ต่อเนื่อง ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริง”


เมื่อ ๕ ตุลา ประยุทธ์ขึ้นรถไฟฟ้ามหานครจากสีลมไปหัวลำโพง เที่ยวทักทายประชาชนเหมือนนักการเมืองหาเสียงไม่มีผิด ทักดะไปกระทั่งพระฝรั่ง คราวนี้พูด อังกิดเป็นเรื่อง ไม่ใช่ยูยู คัมคัม เหมือนครั้งหัวหิน (สองปีก่อน)

 
จะเดินทางไปไหน ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย วันข้างหน้ารถไฟจะเร็วขึ้น รัฐบาลจะทำให้เต็มที่ ผมไม่หลอกและไม่โกหกแต่ต้องให้เวลาผม จะแก้ไขทุกอย่างได้เอง” ทั่นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการยึดอำนาจโม้


นี่ไง ไหมล่ะ สไตล์นักการเมืองจ๋า แต่เอ๊ะ เคยด่าเขาไว้เยอะนะ พวกนักการเมืองน่ะ ไม่นานมานี้เองอย่างช้าไม่ถึงปี ก่อนนี้หนึ่งวัน (๔ ตุลา) ก็ไปเดินสวนลุมฯ รำไท้เก็กป้อกับกลุ่มผู้สูงอายุ (ฝึกไว้รำกับพวก สว.ที่ คสช.ตั้ง ตอนมีวุฒิสภามั้ง)

แต่ก็ยังรอบคอบรีบออกปากก่อนว่ามาคราวนี้ไม่เกี่ยวการเมือง “ไม่ได้มาหาเสียง แต่มาดูแผนในการแก้ไขปัญหาของกรุงเทพมหานคร” น่ะ

แหม่ ไปดูแผนการแก้ไข กทม.ที่สวนลุมฯ ก็ไปผิดวันซะนี่ น่าจะไปตอนที่เขาไล่จับเหี้ย (อ่า ตัวเงินตัวทอง ‘monitor lizards’ น่ะ ไม่ใช่พวกโฆษกนะ)

ทว่า ที่เหมาะที่ควรกว่าต้องไปดูเรื่องบ้านนายทหารพลตรีเกษียณราชการ ยึดที่ทางเท้านอกรั้วเป็นของตัวเอง จึงจะดี

เมื่อ ๓ ตุลา ผู้ใช้นามเฟชบุ๊ค Somchai Tum Jaitong โพสต์ข้อความ “บ้านของพลตรีทหารเกษียณราชการแล้ว ฟุตบาตกั้นเอามาเป็นรั้วของตัวเอง แล้วยังเอารั้วเหล็กมาวางกั้นไม่ให้ชาวบ้านจอดรถหน้าบ้านได้ เห็นแล้วไม่รู้ว่าใครจะกล้าไปลื้อรั้วได้”

เว็บเพจ https://www.partiharn.com/contents/bg/125289A รายงานว่า “มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า ผมเห็นมานาน ๒๐ กว่าปีแล้วครับสำหรับบ้านหลังนี้ ก็คิดแบบที่ทุกท่านด่ามาแหละครับ ดีใจครับที่มีคนคิดเห็นแบบเรา (ด่าในใจมานานแล้ว)”

อีกรายอัด “ผอ.เขตปากกล้าขาสั่น เก่งแต่กับชาวบ้านตาสีตาสาครับ กับพวกนี้หางจุกตูด ต้องสื่อกับผู้ว่าฯ แน่นอนที่สุด” และเช่นกัน “แค่ร้านค้าที่ค้าขาย เอาป้ายมาตั้งหน้าร้าน อย่าจอดบังหน้าร้าน ยังโดนเลย แล้วนี่สร้างแบบถาวร...ไม่ผิด”

อีกเรื่อง ยาเสพติด ยุค คสช.นี่ค่อนข้างจะ เสรีมากอยู่ พวกสามล้อมอไซค์ ตำรวจยัดให้ง่ายๆ ส่วนล็อตใหญ่ๆ โน่นทหารขนเอง
 
ล่าสุดเห็นมีคนทวี้ตถาม “ของแบบนี้ทวิตปล่อยให้ซื้อ ad ได้ด้วยหรอ” (จากทวี้ตของ CherLiy 🍒575 🍒 @FrostMistic)

เขาขายยาไอ๊ซ์ออนไลน์กันโจ๋งครึ่ม ราคา “๑,๕๐๐ พร้อมค่าส่ง” ดังภาพแค้ป