ปชป. กับ รปช. นี่เขาไปด้วยกัน
แยกคู่กัดฝ่ายประชาธิปไตย เป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ สงสัยที่โอ๊ค
พานทองแท้ได้ยินมาไม่ใช่ข่าวลือธรรมดาเสียแล้ว
“อ้าว..งั้นที่ได้ยินว่าไปตกลงแบ่งเขตแบ่งคะแนนกับลุงกำนัน
ที่ตึกแปซิฟิควันก่อน ก็เป็นข่าวลือสิครับ” @oak_ptt
Retweeted และคอมเม้นต์ @watanamuangsook เนื่องจาก วัฒนา เมืองสุข ทวี้ตโต้พรรคประชาธิปัตย์
เรื่องที่อภิสิทธิ์บอก “ผมยอมโง่แต่ซื่อตรง...ไม่ทำพรรคสาขาเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดทางการเมือง”
ว่านั่นเป็น “คนเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนกลโกง...การเมืองฉ้อฉล”
เขาหมายถึงพรรคเพื่อไทยที่ตั้งพรรคสำรอง ‘ตระกูลเพื่อ’
วัฒนาก็เลยแนะว่า “ไปให้สุดนะครับ อย่าไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
หรือถ้าแพ้เลือกตั้งก็อย่าไปเป่านกหวีดเรียกทหารมายึดอำนาจอีก”
ด้านสุเทือกอ้างชวนคนเป็นสมาชิกพรรค
เก็บค่าบำรุงวันละบาท ๓๖๕ บาทต่อปี ไม่ใช่รับบริจาค “ไม่มีเรื่องที่
กกต.จะมาเข้าข้างพรรคเหมือนที่มีการกล่าวหา
พร้อมกับยืนยันว่าพรรคไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับขั้วอำนาจของคสช.”
ที่เคยพูดไว้ตอนจะตั้งพรรคว่าเพื่อสนับสนุนให้
พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีก ก็ลืมหมดแล้ว อ้อ เคยปฏิเสธว่าแค่สนับสนุนให้เป็นตอนนี้ยังไม่ไปถึงตอนหน้า
แม้แต่ที่เคยพูดก่อนบวชลี้ภัยว่าเลิกแล้วไม่ยุ่งการเมือง เป็นเพียงตระบัดสัตย์เพื่อ
คสช. เท่านั้นเอง
ดูท่าสุเทือกจะรู้ทางหนีทีไล่กับกฎหมายพรรคการเมืองของ
คสช. ลึกซึ้งเชียวละ รู้ดีว่ามีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๑๓/๒๕๖๑ เปลี่ยนแปลงเนื้อหากฎหมายเอง
ผ่อนผันให้สมาชิกพรรคเสียค่าบำรุงขั้นต่ำได้ ๕๐ บาท
ซ้ำยังบิดเบี้ยวเรื่องการเดินสายหาเสียง “ไปในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย”
แถว่าเพราะมีคนต่อต้านระบอบ คสช. “ถ้ามีการเลือกตั้งจะฉีกรัฐธรรมนูญ
เรื่องการปฏิรูปประเทศที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญจะถูกยกเลิกไปด้วย”
นี่ละ สุเทพ เทือกสุบรรณ
ใครจะตระบัดเท่าเป็นไม่มี คอยจับตาดูกันดีๆ ก็แล้วกันว่า พอถึงเวลาปลดล็อคจะมีเงินทุนไหลเข้าพรรค
รปช. ถล่มทลายไหม
ฝ่าย กกต. เองก็เหลือร้าย
เป็นองค์กรอิสระจัดเลือกตั้ง ทำหน้าที่เลขาธิการพรรค คสช. (ขอยืมคำของ อจ.โสรัจจ์ หงส์ลดารมภ์ มาใช้) เป็นหูเป็นตาให้อย่างดี ให้เจ้าหน้าที่โทรไปแจ้งกับพรรคอนาคตใหม่ห้ามรับบริจาค
จากคนที่ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค
นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวตามสไตล์
คสช. เป๊ะ ว่ามีประกาศ คสช. ฉบับที่ ๕๗/๒๕๕๗ ห้ามไว้ แม้จะมีการส่งหนังสือเวียนแจ้งกับพรรคการเมืองเก่า
และไม่ได้ระบุถึงพรรคที่ตั้งใหม่ ก็ถือว่าบังคับใช้กับพรรคใหม่ด้วยเหมือนกัน
แถมแสดงความเห็นต่ออีกว่า “ถ้าเขาห้ามไม่ให้รับบริจาคก็คงต้องคืน”
เงินที่รับบริจาคมาแล้วด้วย ทั้งนี้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ย้ำว่า “ต้องเป็นไปตามประกาศ
คสช.ที่ ๕๗/๒๕๕๗ ที่ห้ามพรรคการเมืองประชุมหรือดำเนินกิจการใด
ๆ ในทางการเมือง
แม้หัวหน้า คสช. จะมีคำสั่งที่ ๕๓/๒๕๖๐ และ ๑๓/๒๕๖๑ คลายล็อคเรื่องการดำเนินการตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
แต่ประกาศ คสช.ที่ ๕๗/๒๕๕๗ ยังมีผลอยู่”
(https://prachatai.com/journal/2018/10/79112?utm_source=dlvr.it&utm_medium=twitter และ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_1670259)
พูดยังกับสุนัขจิ้งจอกในนิทาน
คิดจะขย้ำหนูน้อยเสื้อแดง จะตอบอย่างไรก็ผิดทั้งนั้น เหตุผลที่อนาคตใหม่ชี้แจงว่าเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของพรรคอย่างกว้างขวาง
สร้างแบบแผนการเมืองแนวใหม่ไม่ต้องใช้นายทุนใหญ่หนุนพรรค
ก็ยังฟังไม่ขึ้นสำหรับลิ่วล้อ คสช. ใน กกต.
ในเมื่อไม่สามารถรับบริจาคเล็กๆ น้อยๆ
จากปลาซิวปลาสร้อยได้ ผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่หันไปใช้วีธีสมัครเป็นสมาชิกแบบตลอดชีวิต
รายละ ๒,๐๐๐ บาทแทน ดังการเปิดเผยของ ไกรก้อง ไวทยากร นายทะเบียนพรรคว่า
“อานิสงส์ กกต.ห้ามอนาคตใหม่รับบริจาค
ทำคนแห่สมัครสมาชิกตลอดชีพ ยอดวันเดียวพุ่งเกิน ๒๐๐ กว่าราย” (Tanakorn_TheStandard @tanakorn_tu รายงาน)