วันอังคาร, มิถุนายน 19, 2561

'สุริยะ' ลงอีสาน 'ดูด' ให้พลังประชารัฐ เจอ 'ภูมิธรรม' แนะ "รับเงินหมา กาเพื่อไทย"

มันจะไปถึงจุดที่เขาให้ รับเงินหมา แต่ กาเพื่อไทย ไหมนี่ ดังที่รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทยทบทวนความจำครั้งคณะรัฐประการชุดเดียวกับปัจจุบันยึดอำนาจจากรัฐบาลพรรคไทยรักไทย

แล้ว “ฝ่ายผู้มีอำนาจได้สนับสนุนให้มีการจัดตั้งพรรคเพื่อแผ่นดินขึ้น ซึ่งคุณ ส. คนเดิมที่เป็นอดีตหัวขบวนของนักการเมืองตระกูล ส. ที่อยู่เบื้องหลังการดูดคนของพรรคไทยรักไทยไปพรรคใหม่” ตอนนั้นใครๆ ก็คิดว่าเป็นวิกฤตหนักหนาสากัณย์ เหมือนเช่นที่ไทยรัฐพาดหัวข่าวตอนนี้ว่า “พท.ป่วนหนักเลือดไหลไม่หยุด”

แต่ในความจำของนายภูมิธรรม เวชยชัย “ผลการเลือกตั้งระยะหลังได้สะท้อนการตัดสินใจของประชาชนคือ ส.ส.คนเดิมที่ถูกดูดล้วนสอบตกเกือบหมดทุกคน เพราะประชาชนผู้ลงคะแนนรู้ดีว่าจุดยืนของคนเหล่านี้คือเงินและผลประโยชน์”
 
มันจึงมาถึงประโยคคล้าสสิกทางการเมืองเรื่อง ชาวบ้านปราบเซียนซึ่งเลขาฯ เพื่อไทยฟื้นความหลังขึ้นมา ว่า “จำได้หรือไม่ว่า เลือกตั้งครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยชนะอย่างถล่มทลาย เพราะชาวบ้านพูดกันเองว่า “รับเงินหมา กาเพื่อไทย”


ที่ว่าเพื่อไทยป่วนนั้นเนื่องจากกระบวนการ ดูดส.ส. จากพรรคการเมืองเก่าๆ โดยพรรคพลังประชารัฐของ คสช. นั้นมุ่งหน้าไปที่พรรคเพื่อไทยกันแล้ว โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นกำลังสำคัญ

นายสุริยะ (แม้จะเป็นอาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แต่แนวทางการเมืองต่างกับหลานดั่งหางกับหัว) นั้นรับภาระเป็นไดรโว่ อดีต ส.ส.เพื่อไทยในภาคอีสาน เพราะถูกหมายหัวให้เป็นเลขาธิการพรรคที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวแรงจัดตั้ง มุ่งหมายจะได้เป็นรัฐบาลชุดหลังเลือกตั้ง อันมีประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ

จากการลงพื้นที่ ๑๙ มิ.ย.นี้ ข่าวว่าดูดอดีต ส.ส.เพื่อไทยจังหวัดเลยไปได้ ๓ คน ดังคำยืนยันของนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ที่ว่า “เมื่อทุกอย่างมีความชัดเจน จะประกาศไปร่วมงานกับพรรค พลังประชารัฐ”  พร้อมทั้งอ้างอีกว่า

“อดีต ส.ส. คนอื่นๆในภาคอีสานของพรรคเพื่อไทย ทราบว่าจะย้ายตามมาอีกหลายคน เช่น จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น มหาสารคาม” ทั้งนี้มีคอนเฟิร์มจากนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคามของเพื่อไทย ด้วยว่า

“กลุ่มนายปรีชาไม่ใช่กลุ่มสุดท้ายที่จะโดนดูดไป รู้อยู่เต็มอกว่ามีกลุ่มไหน พื้นที่ไหนอาจไปบ้าง แต่พูดไม่ได้ เพียงแต่บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อย” เพราะตัวเลข ส.ส.อีสานของเพื่อไทยที่โดนดูดไปแล้วถึง ๔๐ เปอร์เซ็นต์

แม้นว่าที่ผ่านมา เป็น ส.ส.ประเภทแถวสอง รองบ่อนบ้าง สอบตกบ้าง ส่วนชุดหลังๆ นี่จะเป็นพวก แถวหนึ่ง อย่างกลุ่มของนายวิรัช รัตนเศรษฐและครอบครัว ในพื้นที่โคราช และนายวิชัย สามิตร อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคพลังประชาชน


ถึงกระนั้นเมื่อนักข่าวถามประยุทธ์ว่าไงกับการดูดครั้งใหม่นี่ นายกรัฐมนตรีทหารที่มาจากการยึดอำนาจทำไม่รู้ไม่ชี้ อาจจะกำลังพะวงกับการเดินทางไปยุโรป ไม่ได้ช้อปปิ้ง แค่ไปหาความรู้ดูรายละเอียดเฮลิค้อปเตอร์ใหม่สำหรับทัพบก และคุยกับแอร์บัสเรื่องดาวเทียมสอดแนมให้กองทัพ

เรียกว่างานยุ่ง ไม่มีเวลาไปใส่ใจอะไรนักกับการเลือกตั้ง ยิ่งหลังจากปู่มีชัย (ฤชุพันธุ์) แย้มว่าถ้าคำนวณให้ดี การเลือกตั้งที่ว่าจะมีได้ในเดือนกุมภา ๖๒ น่ะไม่ทันหรอก แล้วนี่มีเลขาฯ กกต.อีกคนเปรยว่า กฎหมายเลือกตั้งใหม่ซึ่งบัดนี้ได้นำขึ้นกราบบังคมทูลฯ แล้วนั้น วางระเบียบไว้สลับซับซ้อน

“กำหนดให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ นั้น มองว่ากระชั้นชิดเกินไป” เสียฉิบ