"คุณอภิสิทธิ์".....
เมื่อวานผมมีโอกาสได้ไปงานเสวนา ที่รัฐศาสตร์ มธ. ซึ่งมีคุณจาตุรนต์ คุณธนาธร คุณอภิสิทธิ์ และคุณไพบูลย์
ผมมีโอกาสฟังทั้งสี่คน ในช่วงกลางถึงช่วงท้าย ช่วงแรกจึงยังไมได้ฟัง แต่ก็มาดูย้อนหลังอยู่ประปราย ภาพโดยรวมของงาน นับว่าดี ผมชอบงานแบบนี้ การเชิญคนสุดขั้วมานั่งเสวนาร่วมกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย อยากมีให้มีบ่อยๆ
เหตุผลไม่ใช่เพ้อฝันว่าคนเหล่านี้ จะเสวนาจนกระทั้งจับมือกันได้ แต่เหตุผลที่อยากให้มีแบบนี้บ่อยๆก็คือ สังคมไทยควรเรียนรู้ความแตกต่าง และความขัดแย้ง และการทะเลาะกัน จนกระทั่งสามารถยอมรับการมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้ และความสามารถอยู่ร่วมกับมันได้ เหมือนที่ประเทศต่างๆเขาก็อยู่กับสิ่งเหล่านี้ได้โดยที่ไม่รู้สึกว่ามันผิดปกติ
มีคนพูดถึงคุณจาตุรนต์ คุณธนาธร คุณไพบูลย์กันเยอะแล้ว ผมจึงขอเจาะจงที่ไปคุณ "อภิสิทธ์"
__________________________
ถ้าให้ผมพูดในฐานะ ที่ตัวผมต้องสวม "หัวโขน" การเป็น "นักข่าว" หน้าใหม่ ที่ผู้คนต่างมีคำถามพร่ำเพรียกเรียกหาความเป็นกลางของสื่อ (กลางของแต่ละคน แม่งก็ไม่เหมือนกัน)
ผมพูดได้เลยว่า สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์ สื่อสารออกมานั้น จัดว่าดี หลักการใช่ สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์พูดถูกต้องทุกอย่าง ทั้งเรื่องการปลดล็อกการเมือง การให้ คสช.เปิดหน้าลงมาเล่นการเมืองแบบแฟร์ๆ ไม่มาเหนือเมฆจนกระทั่งรู้สึกว่าเอาเปรียบคู่แข่ง ปัญหาการแก้รัฐธรรมนูญ และชวนทุกพรรคมาร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ด้วยกัน แลดูมีสปีริต ชักชวนศัตรูทางการเมือง มาแก้ปัญหาด้วยกัน
โดยเฉพาะ สิ่งที่คุณอภิสิทธิ์กล่าวว่า "อย่าไปกลัวการชุมนุมของประชาชน เพราะการชุมนุมเป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย"
เออ มันใช่อย่างที่มาร์คเค้าพูดเลย
เราปฏิเสธไม่ได้ ว่าคุณอภิสิทธิ์ มีพรสวรรค์ในเรื่อง "วาทะศิลป์" อภิสิทธิ์ เขาเกิดมาพร้อมกับสิ่งนี้จริงๆ
__________________________
แต่พอผมถอดหัวความเป็นนักข่าวออกไป และพูดในฐานะตัวผมเองจริงๆ ที่เคยไปชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปี 52-53 เห็นความเป็นความตายของคนที่ออกมาเรียกร้อง "หีบเลือกตั้ง" กับคุณอภิสิทธิ์ ในช่วงการสลายการชุมนุม "เมษา-พฤษภา 2553"
ผมก็คงจะพูดเหมือนข้างต้นที่สวมหัวโขนนั่นแหละครับ ว่าสิ่งที่คุณอภิสิทธิ์พูดนั้น มันถูก และมันใช่ จริงๆ
แต่เสียดายครับ เสียดายจริงๆ
เสียดายที่ตอนคุณอภิสิทธิ์มีอำนาจ เป็นนายกรัฐมนตรี คุณอภิสิทธิ์ ไม่ได้คิดที่จะแก้ปัญหาด้วยวิถีประชาธิปไตยแบบที่คุณอภิสิทธิ์ได้พูดเอาไว้เมื่อวานนี้
ไม่เลยสักนิด
คุณอภิสิทธิ์ กลับเลือกวิธีการปราบปรามประชาชน ใช้อำนาจข่มขู่คุกคาม จนกระทั่งเกิดการบาดเจ็บล้มตายกลางเมืองหลวงเป็นร้อยๆ บาดเจ็บเป็นพันคน และยังคงรักษาอำนาจตัวเองต่อไปอีกเป็นปีๆ กว่าจะยุบสภา และปล่อยให้มีการเลือกตั้ง
คุณอภิสิทธิ์ในเวลานั้น ช่างไร้ทั้งความผิดชอบทางการเมือง หรือแม้กระทั่ง "คำขอโทษ" ญาติคนตาย ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลที่มีการสั่งสลายการชุมนุมจนมีคนตาย
คุณอภิสิทธิ์ในเวลานั้น ถูกขนานนามว่า "นายกฯ มือเปื้อนเลือด" จนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ภาพจำของคุณอภิสิทธิ์ เมื่อปี2553 ก็ยังคงตราตรึงและสร้างความโกรธแค้นฝังลึก แก่ญาติคนตาย และคนจำนวนมากในประเทศนี้
หลายคนที่บอกว่าคุณอภิสิทธิ์ในงานเสวนานี้ พูดดี ใช่ ผมไม่เถียงว่าเค้าพูดดี
แต่การพูดดีของคุณอภิสิทธิ์เมื่อวานนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อช่วงที่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี จะเห็นได้ว่า
ฉายา "ดีแต่พูด" ของคนๆนี้ มันไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแต่อย่างใด แต่มันมาเพราะการกระทำของในอดีต และปัจจุบันเขาล้วนๆ
หลายๆคนบอกว่า คุณอภิสิทธิ์พูดดีมาก ดีมากจนกระทั่งบอกว่า "นี่คือการสอนมวยนักการเมืองหน้าใหม่ อย่างธนาธร"
แต่ผมกลับมองว่า ผมไม่รู้สึกว่านี่มันคือการสอนมวยตรงไหน แล้วเอาเข้าจริงๆ คุณอภิสิทธิ์ คือคนที่ "ไร้ความชอบธรรม" ที่คุณจะไปสอนมวยใครด้วยซ้ำ
รัฐบาลที่คุณเคยเป็นนายกรัฐมนตรี สั่งสลายการชุมนุม จนกระทั่งคนตายเป็นร้อย บาดเจ็บเป็นพัน ญาติคนตายแทบจะจดจำคุณว่าคือ "ฆาตกร"
แม้แต่ความรับผิดชอบทางการเมืองขั้นที่ต่ำที่สุดคือ "คำขอโทษ" สักคำ ก็ยังไม่เคยมี!
แล้วคนแบบนี้ จะไปมี "ความชอบธรรมทางการเมือง" ที่จะไป "สอนมวย" คนอื่นได้อย่างไรกันหละ?
ผมขอโทษละกัน ที่ผมเสือกไม่ลืมภาพจำของคุณตอนที่สัมภาษณ์กับ BBC ว่า "โชคไม่ดี ที่มีคนตาย".....
Noppakow Kongsuwan
